February 15, 2019
Motortrivia Team (10196 articles)

5 ทีม F1 สุดช็อคที่สร้างความประหลาดใจช่วงทดสอบฤดูหนาว

Posted by : Fascinator.

 

●   การรอคอยใกล้จะสิ้นสุดลง แต่ละทีมเตรียมความพร้อมมาอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะกลับมาแย่งชิงความเป็นผู้นำในการแข่งขัน แต่ก่อนหน้าที่จะเปิดฤดูกาล ทีมแข่งจะได้รับอนุญาตให้ทดสอบอาวุธใหม่ของพวกเขาเสียก่อนซึ่งรู้จักกันในนาม “การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล” หรือ “การทดสอบช่วงฤดูหนาว” มันเป็นการทดสอบที่จะช่วยบอกใบ้ศักยภาพของรถแต่ละคันได้เป็นอย่างดี และนี่คือ 5 ครั้ง ที่เราพบว่าทีมแข่งสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการ

1. บรอว์น จีพี 2009

●   มันเริ่มต้นขึ้นจากการที่ฮอนด้าตัดสินใจอำลาวงการหลังสิ้นสุดปี 2008 ซึ่งทำให้ทีมแข่งต้องหาเจ้าของใหม่ด้วยความสิ้นหวัง แต่แล้วในช่วงวินาทีสุดท้าย รอส บรอว์น ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในตอนนั้น ตัดสินใจซื้อกิจการทีมแข่งด้วยตัวเอง และฟอร์มทีมกลับมาใหม่อย่างเป็นทางการก่อนการแข่งขันสนามแรกเพียงไม่กี่สัปดาห์

●   บรอว์นนั้นมีชื่อเสียงจากการเป็นกำลังหลักในการดัน มิคาเอล ชูมัคเกอร์ สู่แชมป์โลกทั้งหมด 7 สมัย แต่ด้วยการที่เขาเคลียร์เรื่องกิจการทีมล่าช้า ประจวบกับปี 2009 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงกฎทางด้านอากาศพลศาสตร์ ทำให้ต้องออกแบบรถใหม่ทั้งหมด นั่นทำให้พวกเขามีเวลาเก็บเกี่ยวข้อมูลตัวรถน้อยมาก และหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าบรอว์นจะต้องพบกับปัญหาอย่างหนัก

●   ปัญหาเหรอ ปัญหาอะไร? พวกเขาแทบไม่พบกับปัญหา พอ เจนสัน บัตตัน และ รูเบน บาร์ริเคลโล นักแข่งทั้งสองของทีมลงสนาม พวกเขาก็สามารถกดเวลาออกมาได้เร็วกว่าคู่แข่งเกินกว่าวินาทีทันทีที่บาร์เซโลน่า และหลังจากนั้นที่เฆเรซ พวกเขาก็โชว์ศักยภาพในการวิ่งยาวๆ ของตัวรถแบบชัดเจนกันไปเลย ซึ่งเมื่อเปิดฤดูกาลที่ออสเตรเลีย พวกเขาก็คว้าอันดับ 1-2 ในทันที และบัตตันกวาดชัยชนะเรียบ 6 จาก 7 สนามแรก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักแข่งสหราชอาณาจักรฯ คว้าแชมป์โลกเพียงครั้งเดียวในอาชีพของเขาในปีนั้นไป

2. พรอสต์ 2001

●   หลังจากที่ไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยสักแต้มเดียวในปี 2000 อแลง พรอสต์ เจ้าของทีม พรอสต์ กรังด์ปรีซ์ ก็ต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการเชิญชวนสปอนเซอร์ แต่แล้วเมื่อการทดสอบฤดูหนาวเปิดฉากขึ้น ตัวแข่ง AP04 กลับไม่ใช่รถแถวหลังอีกต่อไป ฌอง อเลซี นักแข่งประจำทีม นั้นทำเวลาขึ้นมาเกาะกลุ่มหน้าได้และเร็วกว่าคู่แข่งเป็นวินาทีที่เอสโตริล อย่างไรก็ตามจากการจับตาดูอย่างใกล้ชิดทั้งสปอนเซอร์และบุคคลในวงการ พวกเขาคาดว่าพรอสต์นั้นวิ่งด้วยปริมาณน้ำมันน้อยเพื่อให้รถน้ำหนักเบา

●   เมื่อสนามแรกเปิดม่านขึ้น ความจริงก็ปรากฏเมื่อพรอสต์ไม่สามารถทำผลงานที่พวกเขาโชว์ในการทดสอบได้ อเลซีทำเวลาควอลิฟายช้ากว่า มิคาเอล ชูมัคเกอร์ ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพล ถึง 3 วินาที และพรอสต์เก็บคะแนนได้เพียง 4 แต้ม ในปีนั้น ทำให้ทีมล้มละลายและถูกยุบไปเมื่อจบฤดูกาล

3. แม็คลาเรน 2015

●   เมื่อฮอนด้าประกาศหวนคืนสู่วงการอีกครั้งในปี 2015 แถมกลับมาจับมือกับแม็คลาเรน พาร์ทเนอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงปลายยุค 80 ความคาดหวังของทางทีมและแฟนๆ นั้นสูงลิ่ว ว่าพวกเขาอาจจะกลับมาคว้าชัยชนะหรือแม้กระทั่งเป็นแชมป์โลกเสียด้วยซ้ำ

●   แต่ความเป็นจริงนั้นเจ็บปวดและพลิกโลกราวกับหนังคนละม้วน ที่เฆเรซ ปัญหาเครื่องยนต์นั้นจำกัดไม่ให้ทั้ง เจนสัน บัตตัน และ เฟอร์นันโด อลองโซ 2 นักขับมากประสบการณ์ออกมาวิ่งเก็บข้อมูลได้เลย เรื่องราวนั้นแย่ลงไปอีกใน 2 สัปดาห์ถัดมา เมื่ออลองโซเกิดอุบัติเหตุที่บาร์เซโลน่า และนั่นทำให้แชมป์โลกชาวสเปนต้องหยุดพักยาวตลอดช่วงทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลไปจนถึงสนามแรกของการแข่งขัน

●   มันเป็นการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลปีที่ทีมแข่งจากฐานโวกกิ้งอยากจะลืมแต่ลืมไม่ลง และฝันร้ายมันไม่จบเพียงเท่านั้น ฮอนด้าประสบปัญหากับการพัฒนาเครื่องยนต์ตลอดทั้งฤดูกาล ส่งผลให้แม็คลาเรนจบฤดูกาลด้วยอันดับรองบ๊วย ที่เหนือกว่าเพียงแค่ทีมแบ็คมาร์คเกอร์อย่างมารุสเซียเท่านั้น

4. เรดบูลล์ 2014

●   ปี 2014 นับเป็นประตูสู่ยุคใหม่ของฟอร์มูล่าวัน ด้วยกฎที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และที่เป็นพระเอกสำคัญคือชุดเครื่องยนต์ใหม่ V6 1.6 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบสำรองพลังงาน นับเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคไฮบริดของวงการ

●   เรดบูลล์ก้าวเข้าสู่ฤดูกาลนี้ในฐานะแชมป์โลกทั้งประเภททีมและนักขับ พวกเขาถล่มคู่แข่งอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา แต่การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลนี้มีบางอย่างที่ผิดแปลกไป มันแสดงออกมาอย่างชัดเจนตั้งแต่วันแรกของการทดสอบ เมื่อพวกเขามีปัญหากับเครื่องยนต์และแทบจะไม่สามารถนำรถออกมาวิ่งได้เลย ใน 4 วัน ที่เฆเรซ พวกเขาวิ่งได้เพียง 21 รอบ เท่านั้น และเมื่อรวมเข้ากับที่บาห์เรน พวกเขาก็วิ่งไปได้เพียง 298 รอบ เครื่องยนต์เรโนลต์นั้นทำให้แผนการทดสอบของพวกเขาปั่นป่วนไปหมด

●   มันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมากเมื่อคุณนึกภาพแชมป์โลก 4 สมัย ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ในทางตรงกันข้ามคู่แข่งอย่างเมอร์เซเดสกลับแข่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และขึ้นมาแทนที่เรดบูลล์ด้วยการกวาดแชมป์โลกประเภททีมและนักขับมาทั้งหมด 5 สมัย ติดต่อกันจนถึงปีล่าสุด

5. แม็คลาเรน 1988

●   เรารู้ว่าแม็คลาเรนมีปัญหามาตลอดนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคใหม่ไฮบริด แต่ครั้งหนึ่งพวกเขาก็เคยประสบความสำเร็จมาก่อน พวกเขามีรถที่ถล่มคู่แข่งราบเรียบ และมีคู่หูนักแข่งที่เป็นที่สุดของที่สุดแห่งวงการ

●   ปี 1988 คือตัวอย่างที่ดีของคำว่าถล่มทลาย แม็คลาเรนได้ดึงตัว ไอร์ตัน เซนน่า เข้าร่วมทีม ซึ่งนักแข่งบราซิเลียนได้แสดงศักยภาพอันไร้ข้อกังขาให้เห็นในรถโลตัส อีกทั้งยังมี อแลง พรอสต์ แชมป์โลก 2 สมัย ในเวลานั้น อีกด้วย

●   เช่นเดียวกับปี 2015 ในปี 1988 ฮอนด้าก็มาจับมือกับแม็คลาเรนเป็นครั้งแรก พวกเขามีเครื่องยนต์ใหม่อีกทั้งนักขับใหม่ ทำให้มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในทีม และหลายฝ่ายจับตาดูการเสี่ยงครั้งนี้ของทีมแข่งจากโวกกิ้งอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว

●   เริ่มต้นก็ดูไม่ดีเอาเสียเลย กว่าแม็คลาเรนจะเข็นเจ้า MP4-4 มาลงแทร็คร่วมกับทีมอื่นได้ก็ปาไปการทดสอบครั้งสุดท้ายที่ ริโอ เดอ จาเนโร แต่แล้วพวกเขาก็ทำสิ่งที่ทำให้คู่แข่งต้องมึนงงกันไปตามๆ กัน แกร์ฮาร์ด เบอร์เกอร์ นั้นทำเวลาเร็วที่สุดในรถเฟอร์รารี แต่จู่ๆ พรอสต์ก็มาทุบเวลาไปเสียดื้อๆ ด้วยเวลาที่เร็วกว่าถึง 1.4 วินาที และเซนน่าก็ยังมากดเวลาต่อจากพรอสต์ลงไปได้อีก ด้วยเวลาที่เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกถึง 2 วินาที เต็ม!

●   คู่แข่งนั้นต่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น พวกเขาคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ ถึงเหตุผลที่ทำให้ MP4-4 เร็วอย่างไม่บันยะบันยัง และท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ทำได้แค่มองจริงๆ เพราะแม็คลาเรนถลุงคู่แข่งยับเยินในปีนั้นด้วยชัยชนะถึง 15 จาก 16 สนาม ส่งให้เซนน่าคว้าแชมป์โลกครั้งแรกได้สำเร็จ   ●


ที่มา :
•   formula1.com.