MGC-ASIA ประกาศวิสัยทัศน์ Moving Forward 2019 เข้าสู่ยุคดิจิทัล 5.0
Press Release
● กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย ประกาศวิสัยทัศน์ Moving Forward 2019 เพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัล เตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0 และการขยายเครือข่ายด้านการบริการ ตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ Vision 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ พร้อมบริการครบวงจรในประเทศไทยและอาเซียน
● ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2019 เอ็มจีซี-เอเชีย ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0 โดยยึดหลักการ ‘ลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ’ ตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ Vision 2020 โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา รายได้รวมของกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท โดยรวมคิดเป็นการเติบโตกว่า 15% กลุ่มธุรกิจรถใหม่เติบโตขึ้น 20% และกลุ่มธุรกิจการบริการ
หลังการขาย เติบโตขึ้น 9% กลุ่มธุรกิจรถเช่าเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และธุรกิจประกันภัยมีอัตราเติบโตกว่า 30%”
Digital Transformation สู่ยุคดิจิทัล 5.0 เต็มรูปแบบ
● ในช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมานั้น หลายธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบจาก Digital Disruption เอ็มจีซี-เอเชีย ตระหนักและมองว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่องค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยเดินหน้าเตรียมความพร้อมให้กับทุกหน่วยธุรกิจในเครือ เพื่อรองรับ Digital Transformation ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการนำระบบมาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชั่น มาใช้กับกับฐานลูกค้าของเรากว่า 500,000 ราย รวมถึงลูกค้าผู้มุ่งหวังกว่า 700,000 ราย เพื่อวิเคราะห์และยกระดับการสื่อสาร พร้อมสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างบริการแบบใหม่ ที่ง่ายและสะดวก เช่น การทำแอพพลิเคชั่นสำหรับรถเช่า ซิกท์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า รวมถึงการริเริ่มทำดิจิทัลโชว์รูมของ Zupercar เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน
● นอกจากนี้ จะเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า เพื่อยกระดับการบริการที่รวดเร็วและแม่นยำขึ้น ด้วย ‘1286 Millennium Auto Connect’ ซึ่งเป็นช่องทางเชื่อมต่อยุคดิจิทัลครบวงจร สำหรับลูกค้า มิลเลนเนียม ออโต้ และในปีนี้จะมีการแนะนำ ‘1334 Hoda Summit Connect’ สำหรับลูกค้า ซัมมิท ฮอนด้า เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับลูกค้า ทั้งการสอบถามข้อมูลรถใหม่ การนัดเข้ารับบริการ เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ หรือการรับข่าวสารจากบริษัทฯ ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รถในกลุ่มอัลตราลักชัวรี่ เปิดตัวแฟล็กชิปโมเดลหลายรุ่น
● สำหรับรถในกลุ่มกลุ่มอัลตราลักชัวรี่ จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น Rolls-Royce ที่เปิดตัว Cullinan ขณะที่ Aston Martin ก็มี Vantage ใหม่ รวมถึง Maserati Ghibli รุ่นปรับโฉม ปิดท้ายด้วยอะซิมุท ผู้ผลิตยอชท์สัญชาติอิตาเลียนที่เผยโฉม Azimut Flybridge 66 มูลค่ากว่า 2 ล้านยูโร
● การขยายฐานลูกค้าสู่ฝั่งธนบุรี มีการเปิดโชว์รูมมาตรฐานแห่งใหม่พร้อมกัน 6 แบรนด์ที่ไอคอนสยาม ประกอบด้วย โรลส์-รอยซ์, มาเซราติ, อะซิมุท, บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เพื่อรองรับกระแสการเติบโตของ HNWI (High Net Worth Individual) ในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นอันดับต้นในเอเชีย
ขยายเครือข่ายการให้บริการแบบครบวงจร
● ในส่วนธุรกิจนายหน้าประกันภัย แมกซี่ฯ ก็ได้มีการร่วมมือทางธุรกิจกับ ฮาวเด้น อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ส ซึ่งเป็นนายหน้าประกันภัยระดับโลก ภายใต้ชื่อใหม่ ‘ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์’ ส่งผลให้เป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยที่มีศักยภาพรอบด้าน จากการรวมจุดเด่นด้านประกันภัยรถยนต์ของแมกซี่ เข้ากับชื่อเสียงด้านการให้บริการองค์กรระดับโลกของ ฮาวเด้น พร้อมให้บริการด้านธุรกิจประกันภัยที่ตอบโจทย์ของลูกค้า ทั้งในประเทศไทยและระดับสากล
● กลุ่มธุรกิจรถเช่า มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล และแบรนด์ซิกท์ (SIXT) มีการขยายเครือข่ายสาขาสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยล่าสุดได้เปิดตัวซิกท์ สาขาหลวงพระบาง ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ 20 ของ SIXT ในอาเซียน โดยปัจจุบันมี 12 สาขาทั่วประเทศไทย 6 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย และ 2 สาขาที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
● ดร. สัณหวุฒิ กล่าวว่า “สำหรับนโยบายของกลุ่มในปี 2562 บริษัทฯ ได้ขยายแผนการลงทุน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ พร้อมเตรียมงบลงทุนเบื้องต้นกว่า 250 ล้านบาท โดย มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ลาดพร้าว มีการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมียมซีเล็กชั่น และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมถึงการขยายศูนย์บริการรูปแบบใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส แฟคตอรี่ เอาท์เล็ต (SFO) ที่พระราม 4 และจะเปิด บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส เอาท์เล็ต โอนลี่ (SOO) ที่สุราษฎร์ธานี ขณะที่ เอ็มเอ็มเอส บ็อชคาร์เซอร์วิส ปัจจุบันมี 15 สาขา โดยปีที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาเพิ่มที่รังสิตและเพชรเกษม และมีโครงการขยายเพิ่มอีก 8 สาขาในปีนี้”
Customer Centric ประสบการณ์พิเศษสำหรับลูกค้า
● เอ็มจีซี-เอเชีย ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการบริหารองค์กรแบบลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric โดยการให้ความสำคัญกับลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษผ่านการจัดกิจกรรม การทำงานภายใต้องค์กรที่มีความหลากหลายของธุรกิจ เอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้า โดยใช้หลัก Synergy หรือความร่วมมือกันระหว่างหน่วยธุรกิจต่างๆ เพือนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มอบบริการที่เหนือความคาดหมายและสร้างความแตกต่างเชิงบวกให้องค์กร
● ปี 2562 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 19 ของการดำเนินธุรกิจในไทย และมีแผนในการฉลองใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 20 ปีในปีหน้า ส่วนกิจกรรมเพื่อสังคม ปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการก่อตั้งมูลนิธิ ‘ธรรมชวนวิริยะ’ โดยมีการทำกิจกรรมต่อเนื่อง ทั้งภายใต้มูลนิธิหรือหน่วยธุรกิจต่างๆ เน้นกิจกรรมเพื่อชุมชนใกล้เคียง เพื่อพัฒนาเยาวชนและสังคมให้ดียิ่งขึ้น
● “เอ็มจีซี-เอเชีย เชื่อว่าการที่องค์กรจะสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงได้ให้ความสำคัญด้านการเฟ้นหาบุคลากร, วางแผนอัตรากำลังคน และฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผ่าน มาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ (MAT) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกทักษะเกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลายบริษัทที่มีชื่อเสียง ส่งบุคลากรเข้าอบรม ส่งผลให้ เอ็มจีซี-เอเชีย สามารถขับเคลื่อนอย่างมืออาชีพ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน… โดยสรุป บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจของกลุ่มในปีนี้ จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มรถยนต์ใหม่ ตั้งเป้าจำหน่ายกว่า 13,000 คัน ธุรกิจศูนย์บริการหลังการขาย ตั้งเป้าการบริการไว้กว่า 235,000 คัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในแต่ละกลุ่มและประเภทธุรกิจ” ดร. สัณหวุฒิ กล่าว ●