March 22, 2019
Motortrivia Team (10189 articles)

F1 Australian GP 2019 : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนบนแทร็คเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก

Posted by : FascinatorFJ.

 

●   บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนบนแทร็คเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก หลังแย่งชิงตำแหน่งผู้นำมาได้ตั้งแต่โค้ง 1

●   เปิดฤดูกาลมาก็คว้าชัยชนะทันทีสำหรับ วาลท์เทรี บ็อตตาส นักขับสังกัดเมอร์เซเดส ซึ่งปีที่แล้วไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลย โดยมีเพื่อนร่วมทีม ลูวอิส แฮมิลตัน ตามมาห่างๆ ในระยะ 20 วินาที เป็นอันดับ 2 และ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น พาเครื่องยนต์ฮอนด้าขึ้นสัมผัสโพเดียมอีกครั้ง หลังจากโพเดียมครั้งสุดท้ายของค่ายเครื่องยนต์จากญี่ปุ่นในปี 2008

●   บ็อตตาสนั้นสตาร์ทจากกริดที่ 2 แต่ชิงตำแหน่งผู้นำมาได้หลังจากออกตัวได้ดีกว่าแฮมิลตัน หลังจากนั้นเขาไม่เคยพบกับปัญหาใดๆ ระหว่างเรซอีกเลย ในขณะที่แฮมิลตันนั้นงุนงงกับความเร็วของรถที่แตกต่างจากบ็อตตาส ซึ่งเมอร์เซเดสรายงานออกมาในภายหลังว่าเกิดจากพื้นรถของแฮมิลตันเสียหาย ทำให้แชมป์โลกชาวสหราชอาณาจักรฯ สูญเสียบาลานซ์ของรถไป

●   เซบาสเตียน เวทเทล จากเฟอร์รารี อยู่ในอันดับ 3 ตอนช่วงต้นการแข่งขัน เขาเข้าพิทในรอบที่ 14 ซึ่งแฮมิลตันเข้าพิทในรอบถัดมาเพื่อป้องกันการอันเดอร์คัท อย่างไรก็ตามทั้งสองต่างไม่สามารถทำความเร็วในระดับบ็อตตาสได้เลย โดยบ็อตตาสลากยางซอฟต์เก่า ทำเวลาได้เร็วกว่ายางมีเดียมใหม่ของทั้งแฮมิลตันและเวทเทล ไปเข้าพิทในอีก 8 รอบ ให้หลัง ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ยิ่งทิ้งห่างคู่แข่งออกไปเรื่อยๆ และเข้าเส้นชัยก่อนหน้าแฮมิลตันถึง 20 วินาที พร้อมกับทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดประจำสนาม เก็บคะแนนไปเต็มๆ 26 คะแนน ในสนามนี้

●   ทางด้านเวทเทลนั้นดูจะมีปัญหากับยางอย่างเห็นได้ชัด เจ้าตัวช้าลงๆ และถูก แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น จากเรดบูลล์ แย่งเอาอันดับไปได้ หลังจากนั้นเขาถูก ชาร์ล เลอแคลร์ เพื่อนร่วมทีม ตามขึ้นมาจี้ท้ายด้วยอีกคัน อย่างไรก็ตามทางทีมสั่งให้เลอแคลร์รักษาอันดับไว้ เนื่องจากไม่ต้องการเสี่ยงใดๆ ทั้งนั้น

●   สำหรับเฟอร์รารีนั้นมีความผิดปกติของความเร็วรถอย่างมากในสนามแห่งนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาทดสอบรถได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทาง motorsport.com สืบทราบมาว่า ตัวรถเฟอร์รารีถูกพบปัญหาเกี่ยวกับการระบายความร้อน จึงทำให้ทีมงานต้องปรับจูนลดกำลังเครื่องยนต์ลง และนั่นสัมพันธ์กับท็อปสปีดที่ต่ำมากของพวกเขาในวันนี้ นอกจากนั้นระบบช่วงล่างของรถ SF90 ยังอ่อนไหวต่อความไม่ราบเรียบของแทร็คเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาหาเซตอัพที่ลงตัวไม่เจอ ส่งผลให้พวกเขาจบการแข่งขันในอันดับ 4 และ 5 ตามผู้นำถึงเกือบ 1 นาที

●   เวอร์สแท็พเพ่นหลังจากที่แซงผ่านเวทเทลขึ้นไปได้ ก็ไปไล่ติดท้ายของแฮมิลตัน อย่างไรก็ตามนักแข่งดัตช์ทำได้แค่เพียงไล่กดดันอย่างหนัก แต่ไม่สามารถหาช่องแซงผ่านขึ้นไปได้ และต้องยอมรับจบการแข่งขันในอันดับ 3 ไป

●   ผิดกับเพื่อนร่วมทีม วันนี้ ปิแอร์ แกสลีย์ ไม่สามารถรีดความเร็วของรถเรดบูลล์ออกมาได้เลย เขาใช้ยางมีเดียมในช่วงแรกและเข้าพิทไปเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์ออกมา ซึ่งจากศักยภาพของรถและความสดของยาง เขาควรจะไล่แซงรถคันที่อยู่ข้างหน้าขึ้นไปได้ถึงแม้ว่าสนามแห่งนี้จะแซงยาก แต่เขากลับติดท้าย ดานีล คฟยาต ในรถโทโรรอสโซ และไม่สามารถทำอันดับขึ้นไปได้เลยสักอันดับเดียว ทำให้เขาจบการแข่งขันหลุดจากอันดับที่มีแต้มไปเพียงอันดับเดียวเช่นกัน

●   ทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดรองจาก 3 ทีมใหญ่ ในวันนี้ตกเป็นของฮาส โดย เควิน แม็กนุสเซน ขับอย่างไร้ความผิดพลาดเข้าเส้นชัยในอันดับ 6 อย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมทีมอย่าง โรมัง โกรส์ฌอง ยังคงโดนฝันร้ายในปีที่แล้วตามหลอกหลอน เมื่อฮาสมีปัญหากับน็อตล้ออีกครั้ง และนักแข่งฝรั่งเศสต้องรีไทร์จากการที่น็อตล้อเสียหายในรอบที่ 29

●   นิโค ฮูลเคนเบิร์ก จากเรโนลต์ เกาะท้ายรถของแม็กนุสเซนได้ในครึ่งแรกของการแข่งขัน แต่ในครึ่งหลังนั้นยางของเขาเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็วและค่อยๆ ช้าลงไปจนทำให้เกิดขบวนรถไฟ 5 คัน ตามหลังนักแข่งเยอรมันที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 7 โดยมี คิมี ไรค์โคเนน จาก อัลฟ่า โรเมโอ เข้าเส้นชัยในอันดับ 8 แลนซ์ สโตรล ในทีมใหม่ เรซซิ่งพอยต์ เข้าเส้นชัยในอันดับ 9 และมีคฟยาตกับแกสลีย์ปิดท้ายขบวนในอันดับ 10, 11

●   แลนโด้ นอริส ทำผลงานควอลิฟายได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ไม่สามารถเปลี่ยนผลงานนั้นกลับมาเก็บแต้มในวันแข่งได้ นักแข่งสังกัดแม็คลาเรนไปติดท้ายรถ อัลฟ่า โรเมโอ ของ อันโตนิโอ โจวินาซซี อยู่นาน ทำให้เขาจบการแข่งขันเพียงอันดับ 12 นอกจากนั้นยังมี เซอร์จิโอ เปเรซ ในสังกัดเรซซิ่งพอยต์ และ รูกี้ชาวไทย อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ในสังกัดโทโรรอสโซ ที่ติดรถของโจวินาซซี ทำให้จบการแข่งขันในอันดับ 13 และ 14 ตามลำดับ ส่วนนักขับอิตาเลียนจบการแข่งขันในอันดับ 15

●   รถกลุ่มสุดท้ายที่ผ่านธงตราหมากรุกคือรถวิลเลียมส์ของ จอร์จ รัสเซล และ โรเบิร์ต คูบิคซ่า ซึ่งรถของพวกเขานั้นไร้สิ้นซึ่งศักยภาพอย่างสิ้นเชิง และถูกน็อครอบกันไป 2 และ 3 รอบ

●   มีรถไม่จบการแข่งขันอยู่ 3 คัน นอกจากโกรส์ฌองที่มีปัญหากับน็อตล้อแล้ว ยังมี คาร์ลอส ซายน์ ซึ่งมีควันพวยพุ่งออกมาจากท้ายรถแม็คลาเรน และ แดเนียล ริคคิอาร์โด เจ้าถิ่นในสังกัดเรโนลต์ ที่โชคไม่ดีปีกหลุดตั้งแต่รอบแรก และดูเหมือนรถจะได้รับความเสียหายเกินกว่าที่จะวิ่งจนจบการแข่งขัน   ●


สรุปผลการแข่งขัน

01. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 1.25.27.325 – กริด 2
02. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – +20.886 – กริด 1
03. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +22.520 – กริด 4
04. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +57.109 – กริด 3
05. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +58.230 – กริด 5
06. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – +1.27.156 – กริด 7
07. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 11
08. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 9
09. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 16
10. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 15
11. ปิแอร์ แกสลีย์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 17
12. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 8
13. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 10
14. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 13
15. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 14
16. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 19
17. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +3 รอบ – กริด 20
DNF – โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – รอบที่ 30 – น็อตล้อ – กริด 6
DNF – แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – รอบที่ 29 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 12
DNF – คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – รอบที่ 9 – MGU-K – กริด 18
เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 1.25.580 – รอบที่ 57


คะแนนสะสมประเภทนักขับ
01. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 26
02. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 18
03. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 15
04. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 12
05. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 10
06. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 8
07. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 6
08. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 4
09. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 2
10. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 1
11. ปิแอร์ แกสลียร์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า
12. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์
13. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส
14. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า
15. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี
16. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
17. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
18. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี
19. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์
20. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์


คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
01. เมอร์เซเดส – 44
02. เฟอร์รารี – 22
03. เรดบูลล์ ฮอนด้า – 15
04. ฮาส เฟอร์รารี – 8
05. เรโนลต์ – 6
06. อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 4
07. เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 2
08. โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 1
09. แม็คลาเรน เรโนลต์
10. วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส


ที่มา :
•  autosport.com.
•  espnf1.com.


ผลการแข่งขันฤดูกาล 2018

●   สนามที่ 01 : Australian GP : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
●   สนามที่ 02 : Bahrain GP : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหา.
●   สนามที่ 03 : Chinese GP : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2.
●   สนามที่ 04 : Azerbaijan GP : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาด 1-2 เป็นสนามที่ 4.
●   สนามที่ 05 : Spanish GP : แฮมิลตัน/บ็อตตาส เข้าเส้นชัย 1-2 เป็นสนามที่ 5.
●   สนามที่ 06 : Monaco GP 2019 : แฮมิลตันรอดการจู่โจมอย่างหนัก.
●   สนามที่ 07 : Canadian GP : เวทเทลต้องปล่อยชัยชนะแรกของฤดูกาล.
●   สนามที่ 08 : French GP : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย.
●   สนามที่ 09 : Austrian GP : เรดบูลล์หยุดสถิติชนะต่อเนื่องของเมอร์เซเดส.
●   สนามที่ 10 : British GP : แฮมิลตันทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ.
●   สนามที่ 11 : German GP : เมอร์เซเดสพบกับฝันร้ายเป็นครั้งแรก.
●   สนามที่ 12 : Hungarian GP : แฮมิลตันแย่งแชมป์จากมือเวอร์สแท็พเพ่น.
●   สนามที่ 13 : Belgian GP : เลอแคลร์ คว้าชัยแรกให้ตัวเองและเฟอร์รารี.
●   สนามที่ 14 : Italian GP : เลอแคลร์โชว์ฟอร์มเหนือ รั้งคู่หูเมอร์เซเดส.
●   สนามที่ 15 : Singapore GP : เวทเทล คว้าชัยชนะแรกในรอบ 1 ปีกว่า.
●   สนามที่ 16 : Russian GP : แฮมิลตันคว้าชัย เฟอร์รารี่วุ่นกับทีมออเดอร์.
●   สนามที่ 17 : Japanese GP : บ็อตตาสช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ 6 สมัย.
●   สนามที่ 18 : Mexican GP : แฮมิลตันยังต้องรอลุ้นแชมป์โลกสนามหน้า.
●   สนามที่ 19 : US GP : ลูวอิส แฮมิลตัน ครองแชมป์โลกสมัยที่ 6.
●   สนามที่ 20 : Brazilian GP : แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่นฝ่าดราม่าคว้าชัย.
●   สนามที่ 21 : Abu Dhabi GP : แฮมิลตันปิดฉากฤดูกาล ขับกินลมชมวิว.