2020 Ford Escape และ Ford Kuga สองรถ SUV แฝดขนาดคอมแพคท์

979views

Posted by : AREA 54

● ฟอร์ดเปิดตัวรถ SUV ขนาดคอมแพคท์ 2 รุ่นรวด ประกอบด้วย Ford Escape เจนเนอเรชั่น 4 และ Ford Kuga เจนเนอเรชั่น 3 ทั้งคู่ใช้แพลทฟอร์ม Ford C2 ร่วมกัน โดย Ford Escape จะใช้ทำตลาดในอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย ในขณะที่ Ford Kuga จะใช้ทำตลาดในยุโรปเป็นหลักภายในช่วงปี 2019 นี้

● งานออกแบบของเห็นได้ชัดว่าคลี่คลายรูปแบบมาจาก Ford Focus รุ่นปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้ทั้งคู่ดูมีภาพลักษณ์ของความปราดเปรียวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า (ฟอร์ดระบุว่ากระจังหน้านำมาจาก Ford Mustang เจนเนอเรชั่น 6 ในขณะที่ชายล่างด้านหน้านำมาจาก Ford GT) และมีอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก อีกทั้งวัสดุหลักอย่างเหล็ก high-strength steel ที่ใช้ในการผลิตแชสชีส์ ช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักตัวลดลงเฉลี่ยมากกว่า 90 กก. ยังผลให้ใช้เชื้อเพลิงน้อยลงกว่าเดิมด้วย

2020 Ford Escape

● Escape ใหม่จะใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ที่เลือกได้ระหว่าง เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร Ecoboost ที่มาพร้อมระบบ cylinder deactivation หยุดการทำงานของบางสูบในบางจังหวะเป็นครั้งแรก (ในอเมริกาเหนือ) กำลังสูง 180 แรงม้า หรือ 4 สูบ 2.0 ลิตร Ecoboost จับคู่เกียร์อัตโนมัติ ควิคชิฟท์ 8 จังหวะ กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ในขณะที่รุ่นเด่นจะเป็นรุ่นย่อยไฮบริด ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังรวมทั้งระบบ 198 แรงม้า และปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มีชุดระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร แบบ Atkinson cycle จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งกำลังด้วยเกียร์ Planetary เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 14.4 กิโลวัทท์-ชม. กำลังสูงสุด 225 แรงม้า

● ฟอร์ดตั้งเป้าหมายให้รุ่นไฮบริดสามารถวิ่งทำระยะทางได้ไม่ต่ำกว่า 400 ไมล์ หรือราว 643 กม. ตามมาตรฐาน EPA ของสหรัฐฯ ส่วนรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด จะทำได้สูงสุดถึง 550 ไมล์ หรือราว 885 กม. ทั้งนี้รุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด จะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 10 – 11 ชม. จากไฟ Level 1 (110 โวลท์) หากใช้ไฟ Level 2 (240 โวลท์) จะร่นเวลาเหลือเพียง 3.5 ชม.

● ฟอร์ดจะเริ่มจำหน่าย Escape ใหม่ด้วยรุ่นพื้นฐานและรุ่นไฮบริดก่อนภายในปี 2019 นี้ ส่วนรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด จะตามมาทีหลังภายในช่วงปี 2020

2020 Ford Kuga

● ฝั่ง Kuga ในฐานะรถ SUV ที่ขายดีที่สุดในยุโรป (ของฟอร์ด) จะเริ่มทำตลาดรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด ไปพร้อมๆ กับรุ่นพื้นฐานเลย โหมดไฟฟ้าล้วนระบุว่าจะวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 50 กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 84 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียเพียง 29 กรัม/กม. ส่วนการใช้ไฟ 230 โวลท์ในการชาร์จแบตเตอรี่จะใช้เวลาประมาณ 4 ชม.

● รุ่นประหยัดพลังงานมากับเครื่องยนต์ใหม่ตระกูล EcoBlue แบบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร mild-hybrid ใช้ชื่อทางการค้าว่า EcoBlue Hybrid เทคโนโลยี BISG : belt-driven integrated starter/generator พร้อมขยับไปใช้ระบบไฟ 48 โวลท์ ซึ่งช่วยให้ระบบ Auto Start-Stop ดับ-สตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติทำงานได้เร็วขึ้น และบ่อยครั้งขึ้นตามแต่ละสถานการณ์ การเก็บประจุไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ระบายความร้อนด้วยอากาศ กำลังสูงสุดผลิตได้ 150 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 132 กรัม/กม.

● รุ่นพื้นฐาน ดีเซล EcoBlue ที่ใช้กำลังจากเครื่องดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เพียวๆ มีกำลังสูงสุดให้ใช้งาน 190 แรงม้า อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 150 กรัม/กม. ใครต้องการอะไรที่ประหยัดกว่านี้อีกอีกนิด Kuga ยังมีรุ่นดีเซล 3 สูบ 1.5 ลิตร 120 แรงม้า อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 127 กรัม/กม. ให้เลือกอีก 1 รุ่น ระบบส่งกำลังมีทั้งธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 8 จังหวะ

● และแน่นอนว่าเครื่องเบนซิน Ecoboost 3 สูบ 1.5 ลิตร 120 แรงม้า และ 4 สูบ 2.0 ลิตร 190 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเลื่อน all-wheel drive ก็จะมีให้เลือกเช่นเดียวกับ Escape ในอเมริกาเหนือ

● ต่างจาก Escape… ฟอร์ดจะเริ่มจำหน่าย Kuga ใหม่ด้วยรุ่นพื้นฐานไปพร้อมๆ กับรุ่นท๊อป ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เลยภายในปี 2019 นี้ ทว่ารุ่นไฮบริดจะต้องรอไปจนถึงปี 2020 ครับ ●