April 22, 2019
Motortrivia Team (10069 articles)

Formula One News : อัพเดทความเคลื่อนไหว 22-04-2019

Posted by : FascinatorFJ.

 

ความต้องการของทิคตัมหากจะลงเก้าอี้โทโรรอสโซ 2020

●   แดน ทิคตัม กลายเป็นเด็กปั้นในสังกัดเรดบูลล์ที่ได้รับการชูหางอย่างสูงภายในสังกัด ซึ่งดูเหมือนว่าเรดบูลล์กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อดันทิคตัมให้ได้ขึ้นมาขับ F1 ในเร็ววัน พวกเขาน่าจะวางเป้าหมายในการดันรองแชมป์ยูโร F3 ขึ้นมาในปี 2020 ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ทิคตัมจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น?

●   นักแข่งหนุ่มจากสหราชอาณาจักรฯ คือนักขับในโครงการของเรดบูลล์ที่อยู่ใกล้กับการขึ้นชั้น F1 มากที่สุดในตอนนี้ อย่างไรก็ตามกระทิงน้อยตัวนี้ยังคงเก็บแต้มใบอนุญาตได้ไม่เพียงพอที่จะขึ้นมาขับ F1 จะเห็นได้จากความผิดหวังของต้นสังกัดที่ไม่สามารถดันเขาขึ้นมาทดสอบรถในปีที่ผ่านมาได้

●   ทิคตัมจบฤดูกาลยูโร F3 ด้วยการเป็นรองแชมป์ตามหลังแชมป์อย่าง มิค ชูมัคเกอร์ ในปีที่ผ่านมา นั่นทำให้เขาเก็บแต้มใบอนุญาตได้ 25 แต้ม จากทั้งหมดที่ต้องการ 40 แต้ม แต่เพียงเท่านี้เขาก็มีแต้มเพียงพอที่จะได้รับอนุญาตให้ลงทดสอบระหว่างฤดูกาลหรือลงซ้อมในสุดสัปดาห์การแข่งขันได้แล้ว แต่ยังไม่เพียงพอที่จะลงแข่งขัน

●   แต่นอกจาก 25 แต้ม ข้างต้น นักแข่งสหราชอาณาจักรฯ ก็ชนะในการแข่งขันมาเก๊ากรังด์ปรีซ์ 2 ปี ติดระหว่างปี 2017 – 2018 ซึ่งมอบแต้มให้กับเขาครั้งละ 5 รวมเป็น 35 แต้ม ในตอนนี้

●   ด้วยความต้องการแต้มอีกเพียงน้อยนิด นักแข่งวัย 19 ปี จึงถูกส่งไปลงแข่งขัน เอเชียน F3 วินเทอร์ ซีรีย์ ซึ่งผู้ชนะจะได้แต้มถึง 10 แต้ม อย่างไรก็ตามทางรายการถูกตัดสิทธิ์ออกจากการมอบแต้มใบอนุญาต เนื่องจากทางรายการไม่สามารถทำตามความต้องการของ FIA ได้ นั่นจึงทำให้ทิคตัมถอนตัวออกจากรายการและตกที่นั่งลำบากทันที เพราะเขาจะไม่มีแต้มใบอนุญาตเพียงพอที่จะสับเปลี่ยนตัวกับนักขับ F1 ในสังกัดเรดบูลล์กลางฤดูกาลได้

●   แผนการต่อมาก็คือ เรดบูลล์ได้ส่งทิคตัมไปลงแข่ง ซุปเปอร์ ฟอร์มูล่า ในปีนี้ รายการที่ ปิแอร์ แกสลีย์ เด็กปั้นคนก่อน เคยลงแข่งขันมาแล้วในปี 2017 และจบฤดูกาลด้วยรองแชมป์ ทิคตัมจะได้ขับให้กับทีมมูเกน ทีมที่ นาโอกิ ยามาโมโตะ คว้าแชมป์มาในปีที่แล้ว โดยทิคตัมต้องการเพียงอันดับ 6 เพื่อเก็บแต้มใบอนุญาตอีก 5 แต้ม เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ซุปเปอร์ ฟอร์มูล่า ปีนี้มีตัวแข่งที่เคี่ยวมากมายทีเดียว ทั้งอดีตแชมป์ นาโอกิ ยามาโมโตะ, ฮิโรอากิ อิชิอุระ และ ยูจิ คุนิโมโตะ มีทั้งอดีตนักแข่ง F1 อย่าง คามุอิ โคบายาชิ และ คาซุกิ นาคาจิมะ รวมทั้งยังมีนักแข่ง F2 อย่าง อาร์เทม มาร์เกลอฟ, ทาดาสุเกะ มาคิโนะ และ นิเรอิ ฟุคุซุมิ   ●

FIA ออกกฎคุมเข้มเผาน้ำมันเครื่องมากยิ่งขึ้นในปี 2020

●   FIA ออกมายืนยันแผนการที่จะจำกัดการเผาผลาญน้ำมันเครื่องให้เข้มข้นขึ้นไปอีกในปี 2020 เพื่อลดข้อได้เปรียบของทีมแข่งต่างๆ ในการใช้ประโยชน์ข้างต้น

●   นับตั้งแต่เข้าสู่ยุคเทอร์โบไฮบริดที่มีการจำกัดการใช้เชื้อเพลิง ค่ายผู้ผลิตบางค่ายได้พยายามคิดค้นวิธีที่จะเพิ่มกำลังเครื่องยนต์จากการเผาผลาญน้ำมันเครื่องแทนที่เชื้อเพลิง ซึ่งทำให้ FIA ต้องออกมาทำการยับยั้งการกระทำดังกล่าวอยู่หลายครั้งด้วยการออกกฎคุมเข้มการเผาผลาญน้ำมันเครื่อง

●   ในปี 2019 รถแข่งนั้นถูกจำกัดการเผาผลาญน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 0.6 ลิตร/100 กิโลเมตร นอกจากนั้นทีมแข่งยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ถังน้ำมันเสริม หรือโยกย้ายถ่ายโอนน้ำมันเครื่องไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบหล่อลื่นในระหว่างการควอลิฟาย อย่างไรก็ตาม FIA นั้นยังคงรู้สึกว่าทีมแข่งยังคงพยายามที่จะหาข้อได้เปรียบจากจุดนี้ ในปี 2020 FIA จึงลดการเผาผลาญน้ำมันเครื่องลงอีก เหลือเพียง 0.3 ลิตร/100 กิโลเมตร

●   หัวหน้าฝ่ายตัวแข่งที่นั่งเดี่ยวของ FIA นิโคลาส์ ทอมบาซิส กล่าวอย่างชัดเจนว่า การใช้น้ำมันเครื่องเพื่อบูสต์ประสิทธิภาพเครื่องยนต์เป็นสิ่งที่ FIA จะไม่ยอมรับ

●   นิโคลาส์ ทอมบาซิส  :  “คำถามเกี่ยวกับน้ำมันนั้นง่ายมาก กติการะบุว่าเฉพาะเชื้อเพลิงเท่านั้นที่จะถูกเผาผลาญได้ ส่วนน้ำมันต้องเป็นแค่สารหล่อลื่น เรารู้ว่ามันมีการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องอยู่ แต่การใช้มันเพื่อผลประโยชน์ในด้านประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”   ●

FIA หวังดรอป DRS ในปี 2021

●   หัวหน้าฝ่ายตัวแข่งที่นั่งเดี่ยวของ FIA นิโคลาส์ ทอมบาซิส หวังว่า DRS จะถูกถอดออกจากรถแข่งในปี 2021 ด้วยกฎใหม่ที่จะช่วยเพิ่มการแซงกันให้มากขึ้นจนไม่ต้องพึ่ง DRS

●   DRS ได้ถูกเพิ่มพลังมากยิ่งขึ้นด้วยกฎใหม่ที่เริ่มใช้ในปี 2019 แต่มันยังคงเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจากแพ็คเกจแอโรของรถปัจจุบัน ทอมบาซิสซึ่งกำลังวางเค้าโครงในส่วนของกฎใหม่ปี 2021 ร่วมกับทีมวิศวกรจากฝั่ง FOM นำโดย แพท ไซมอนส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค โดยมีเป้าหมายที่จะถอด DRS ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่พวกเขามองว่าสร้างการแข่งจอมปลอมขึ้นมา

●   นิโคลาส์ ทอมบาซิส  :  “เรารู้สึกว่า DRS นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับรถปัจจุบัน และในปี 2021 เราหวังว่ารถแข่งจะถูกแก้ไขจนสามารถแข่งขันกันได้สูสีขึ้น จนสามารถลดการใช้งาน DRS หรือแม้กระทั่งถอดมันออกไป”

●   สำหรับ DRS ในปัจจุบันที่ถูกทำให้ทรงพลังยิ่งขึ้น ทอมบาซิสเชื่อว่ามันจะมีส่วนสำคัญในการแข่งขันระหว่างปี 2019 – 2020 อย่างแน่นอน

●   นิโคลาส์ ทอมบาซิส  :  “ประสิทธิภาพของ DRS ได้ถูกเพิ่มขึ้นราวๆ 25 – 30 เปอร์เซ็นต์ ความแตกต่างระหว่างแรงลากของรถเมื่อเปิดใช้งาน DRS จึงมากขึ้น และนั่นช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการที่รถคันหลังจะไล่รถคันหน้าได้มากขึ้น นอกจากนั้นเรายังได้พยายามเพิ่มความยาวของ DRS หรือแม้กระทั่งเพิ่มโซน DRS อีกด้วย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ DRS ใหม่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น”   ●


ที่มา :
•   motorsport.com.