F1 Azerbaijan GP 2019 : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาดแชมป์ 1-2 เป็นสนามที่ 4

Posted by : FascinatorFJ.

●   วาลท์เทรี บ็อตตาส ควงแขน ลูวอิส แฮมิลตัน กวาดแชมป์ 1-2 เป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน

●   เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาเอาคืนอย่างสาสมทีเดียวสำหรับบ็อตตาส 12 เดือนที่แล้ว เขาต้องอกหักหนักมากจากการที่ยางแตกใน 2 รอบสุดท้าย ในขณะที่เขากำลังจะเข้าเส้นชัยอยู่แค่เอื้อม ในปีนี้นักแข่งฟินน์จึงกลับมาทวงสิ่งที่เขาควรจะได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว พร้อมกับพาเพื่อนร่วมทีมดีกรีแชมป์โลกอย่างแฮมิลตันกวาดชัยชนะ 1-2 ไปเป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน

●   ดราม่านั้นถล่มบากูมาตั้งแต่วันฝึกซ้อม เมื่อฝาท่อบนพื้นแทร็คเกิดหลุดออกในขณะที่ จอร์จ รัสเซล นักแข่งสังกัดวิลเลียมส์ วิ่งผ่าน ส่งผลให้ท่อนั้นหลุดออกมากระแทกใต้ท้องรถของนักแข่งวัย 21 ปี รุนแรงถึง 4G และทำให้รถวิลเลียมส์ชาสซีส์แตกหักทันที รัสเซลต้องเปลี่ยนไปใช้รถสำรอง ในขณะที่รอบฝึกซ้อมแรกต้องยุติลงเพื่อให้นายสนามตรวจสอบฝาท่อที่เหลืออีก 300 ฝา นอกจากนั้นในขณะที่นำรถแข่งกลับพิท แขนรถเครนได้ไปกระแทกกับสะพานทำให้น้ำมันไฮดรอลิครั่วไหลลงมาใส่รถของนักแข่งวัย 21 ปี อีก เลยเป็นการเพิ่มงานให้กับวิลเลียมส์อีกเป็นเท่าตัวในการตรวจสอบภายในรถและทำความสะอาด

●   เข้าสู่วันควอลิฟายได้เกิดเหตุการณ์ธงแดงมากกว่า 1 ครั้ง ครั้งแรก โรเบิร์ต คูบิคซ่า ในสังกัดวิลเลียมส์ ซึ่งดูเหมือนว่าทางทีมจะอับโชคสุดๆ ในสุดสัปดาห์นี้ คูบิคซ่าพลาดเฉี่ยวกำแพงด้านในโค้ง 8 และไถลไปชนกำแพงด้านนอก ส่งผลให้ Q1 ต้องยุติลงชั่วคราว และเมื่อกลับมาควอลิฟายกันต่อใน Q2 คราวนี้เป็น ชาร์ล เลอแคลร์ ตัวเต็งคว้าโพลในวันนี้จากสังกัดเฟอร์รารี ที่พลาดในจุดเดียวกัน และธงแดงต้องออกมาอีกครั้งเพื่อเคลียร์รถของนักแข่งโมนาแกสออกจากแทร็ค

●   เมื่อเข้าสู่วันแข่งขัน ดูเหมือนว่าดราม่าจะเกิดขึ้นกับวันก่อนหน้าไปหมดแล้ว วันแข่งขันนั้นเงียบสงบจนน่าแปลกใจ มีเพียงอุบัติเหตุจาก ดานีล คฟยาต และ แดเนียล ริคคิอาร์โด เท่านั้นที่เกิดความเสียหายขึ้นกับตัวรถ โดยริคคิอาร์โดเบรกลึกพารถเรโนลต์ของเขาและรถโทโรรอสโซของคฟยาตหลุดออกไปยังช่องทางหลบเลี่ยงของสนาม หลังจากนั้นริคคิอาร์โดที่รีบร้อนก็ถอยรถโดยไม่ทันดูข้างหลัง ทำให้เขาถอยรถมาชนรถของคฟยาตและต้องออกจากการแข่งขันทั้งคู่ในเวลาต่อมา

●   มีรถอีกเพียง 2 คัน เท่านั้นที่ไม่จบการแข่งขัน โรมัง โกรส์ฌอง ซึ่งมีปัญหากับเบรก เขาพารถฮาสหลุดโค้ง 15 ไปก่อนหน้านี้ และต้องออกจากการแข่งขันไปในรอบที่ 38 อีกคันคือรถเรดบูลล์ของ ปิแอร์ แกสลีย์ ซึ่งมีปัญหากับเพลาขับ และต้องออกจากการแข่งขันไปในรอบเดียวกันกับโกรส์ฌอง พร้อมทั้งเรียก เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ ออกมา

●   ออกสตาร์ทการแข่งขันได้อย่างน่าหวาดเสียวไม่เบาเลยทีเดียวสำหรับคู่หูเมอร์เซเดส แฮมิลตันนั้นพยายามจะแซงบ็อตตาสจากด้านในโค้งแรก แต่บ็อตตาสไม่ยอมและรักษาพื้นที่ด้านนอกเอาไว้ได้ รถทั้ง 2 คัน ตีคู่กันไปจนถึงโค้ง 3 ก่อนที่แฮมิลตันจะยอมถอนคันเร่งออก เซบาสเตียน เวทเทล จากเฟอร์รารี ตามมาในอันดับ 3 และ เซอร์จิโอ เปเรซ ในรถเรซซิ่งพอยต์ ขยับแซง แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น จากเรดบูลล์ ขึ้นมายังอันดับ 4

●   เวอร์สแท็พเพ่นตามเปเรซอยู่เพียงไม่กี่รอบก็สามารถแซงนักขับเม็กซิกันขึ้นไปได้ เขาเริ่มทำเวลาขยับเข้าใกล้เวทเทลในอันดับ 2 เข้าไป

●   มาถึงพิทแรก เวทเทลนั้นชิงเข้าพิทไปก่อน ส่งผลให้เมอร์เซเดสทั้ง 2 คัน ต้องขยับเข้าพิทเพื่อป้องกันตำแหน่ง การเข้าพิทครั้งนี้ทำให้เวทเทลขยับเข้ามาถึงท้ายรถของแฮมิลตัน แต่แชมป์โลกชาวเยอรมันก็ยังทำได้แค่ตามแชมป์โลกชาวสหราชอาณาจักรฯ

●   ทางด้านเลอแคลร์ซึ่งสตาร์ทจากยางมีเดียม เขาอันดับหล่นไปเล็กน้อยในช่วงสตาร์ท แต่ก็ไล่ทำอันดับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงแรกของการแข่งขันนั้นยางมีเดียมของเขาเหมาะกับสภาวะในตอนนั้นมากกว่ายางซอฟต์ เพียง 10 รอบ เขาก็ทำอันดับขึ้นมาได้ถึงอันดับ 4

●   อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาใช้ยางคนละแบบกับบรรดานักขับหัวแถว เขาจึงต้องลากยางไปจนถึงรอบที่ 34 ซึ่งในตอนนี้นั้น ทั้งบ็อตตาส, แฮมิลตัน และ เวทเทล ซึ่งเข้าพิทไปก่อนหน้านี้ได้ไล่นักแข่งโมนาแกสขึ้นมาทันและแซงขึ้นไปได้เรียบร้อย

●   หลังจากเปลี่ยนไปเป็นยางซอฟต์ ดูเหมือนว่าเพซในรถของเลอแคลร์นั้นจะไม่ได้ดีเท่ายางมีเดียม เขาไล่กลุ่มหน้าไม่เข้าอีกเลย ทางทีมจึงได้ตัดสินใจให้เขาเข้าพิทเปลี่ยนยางอีกครั้งเพื่อทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด และเขาก็ทำได้ในรอบที่ 50

●   ทางด้านเวอร์สแท็พเพ่นนั้นไล่หลังเวทเทลเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงท้ายรถนักขับเยอรมัน แต่แล้ว เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ จากรถของแกสลีย์ก็ทำให้การแข่งขันหยุดชะงัก และเมื่อกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง ยางของเวอร์สแท็พเพ่นก็หลุดอุณหภูมิทำงาน ทำให้เขาตามนักแข่งเยอรมันไม่ได้อีกเลยและต้องรับสภาพกับอันดับ 4 ไป

●   เปเรซเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในวันนี้นอกเหนือจาก 3 ทีมหัวแถว เขาพารถเรซซิ่งพอยต์เก็บแต้มได้ 8 แต้ม จากอันดับ 6 ส่วนเพื่อนร่วมทีมของเขา แลนซ์ สโตรล ก็เก็บแต้มได้เช่นกันจากอันดับ 9 ทำให้นี่เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่เรซซิ่งพอยต์เก็บแต้มได้ทั้ง 2 คัน

●   แม็คลาเรนเป็นอีกทีมที่เก็บแต้มได้ทั้ง 2 คัน ในสนามนี้ คาร์ลอส ซายน์ เข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ตามมาด้วย แลนโด้ นอริส ในอันดับ 8

●   คิมี ไรค์โคเนน ถึงแม้ว่าจะถูกริบผลการควอลิฟายเนื่องจากทดสอบความยืดหยุ่นของปีกหน้าไม่ผ่านและต้องไปสตาร์ทจากพิทเลน แต่เจ้าตัวก็ยังพารถ อัลฟ่า โรเมโอ ขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 10 ได้ และเก็บแต้มได้ต่อเนื่องมา 4 สนามติดแล้ว ตั้งแต่เปิดฤดูกาล โดยมี อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักแข่งไทยในรถโทโรรอสโซ ตามหลังมาไม่ห่างในอันดับ 11   ●

สรุปผลการแข่งขัน

01. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 1.31.52.942 – กริด 1
02. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – +1.524 – กริด 2
03. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +11.739 – กริด 3
04. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +17.493 – กริด 4
05. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +1.09.107 – กริด 8
06. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1.16.416 – กริด 5
07. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1.23.826 – กริด 9
08. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1.40.268 – กริด 7
09. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1.43.816 – กริด 13
10. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 19 (พิทเลน)
11. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 11
12. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 17
13. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 12
14. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 15
15. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 16
16. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 18 (พิทเลน)
DNF – ปิแอร์ แกสลีย์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – รอบที่ 38 – เพลาขับ – กริด 20 (พิทเลน)
DNF – โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – รอบที่ 38 – เบรก – กริด 14
DNF – ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – รอบที่ 33 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 6
DNF – แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – รอบที่ 31 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 10
เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 1.43.009 – รอบที่ 50

คะแนนสะสมประเภทนักขับ
01. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 87
02. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 86
03. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 52
04. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 51
05. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 47
06. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 13
07. ปิแอร์ แกสลียร์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 13
08. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 13
09. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 12
10. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 8
11. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 6
12. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 6
13. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – 6
14. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 4
15. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 3
16. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 1
17. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี
18. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี
19. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
20. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
01. เมอร์เซเดส – 173
02. เฟอร์รารี – 99
03. เรดบูลล์ ฮอนด้า – 64
04. แม็คลาเรน เรโนลต์ – 18
05. เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 17
06. อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 13
07. เรโนลต์ – 12
08. ฮาส เฟอร์รารี – 8
09. โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 4
10. วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

ที่มา :
•  autosport.com.
•  espnf1.com.

ผลการแข่งขันฤดูกาล 2019

●   สนามที่ 01 : Australian GP 2019 : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนบนแทร็คเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
●   สนามที่ 02 : Bahrain GP 2019 : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหาทางเทคนิค.
●   สนามที่ 03 : Chinese GP 2019 : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2 เป็นสนามที่ 3.
●   สนามที่ 04 : Azerbaijan GP 2019 : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาดแชมป์ 1-2 เป็นสนามที่ 4.