May 16, 2019
Motortrivia Team (10185 articles)

2020 McLaren GT ศักราชใหม่ของ Grand Tourer ภายใต้แผนงาน Track25

Posted by : AREA 54

• แมคลาเรนเปิดตัวสปอร์ต GT รุ่นใหม่ ใช้ชื่อเรียบง่ายว่า McLaren GT พร้อมระบุว่า นี่คือรถที่เป็นตัวแทนการตีความรถสปอร์ตคลาส Grand Tourer ยุคใหม่ ในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม ตัวรถนับเป็นหนึ่งในโรดแมพทางธุรกิจของแมคลาเรนที่เรียกว่า แผนงาน “Track25”

• แผนงาน Track25 ประกอบด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 18 รุ่นภายในปี 2025, ต่อยอดความสำเร็จของ McLaren P1 โดยในอนาคตแมคลาเรนจะมีการปรับไปใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดในรถทุกรุ่น, พัฒนาระบบฟาสท์ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่สามารถชาร์จได้ภายใน 30 นาทีสำหรับการวิ่ง Track Day, ให้ความสำคัญและเพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าของรถจากการใช้งานแบบออนไลน์ เช่น การอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA โดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์

• อีกหนึ่งส่วนสำคัญคือ การลงทุนเพิ่มเติมที่แล็บ McLaren Composites Technology Center เพื่อให้แผนกวิจัยสามารถค้นหาวัสดุใหม่ๆ ในการลดน้ำหนักตัวรถในอนาคต เนื่องจากแมคลาเรนเชื่อว่า ในยุคต่อไปพละกำลังอาจจะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดในการพัฒนารถสปอร์ต พวกเขาเรียกแผนงานย่อยนี้ว่า “Weight Race” เมื่อรถไม่ต้องแบกน้ำหนักเกินความจำเป็น กำลังก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่จะต้องไปเสียเวลาวิจัยเพิ่มมากนัก และที่สำคัญ น้ำหนักตัวที่ลดลงยังส่งผลต่อการลดตัวเลขการคายมลพิษในไอเสียด้วย

• ปิดท้ายด้วยการเตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ แมคลาเรนคาดว่าการเปิดตัวรถ 18 รุ่นในอนาคต จะต้องมีการเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ประมาณ 6,000 คันต่อปี หรือคิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในปัจจุบัน… ทั้งหมดนี้ใช้งบลงทุนราว 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5.1 แสนล้านบาท

• สำหรับสปอร์ตคลาส GT ในชื่อ GT รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแชสซีส์แบบโมโนค๊อครุ่นใหม่ MonoCell II-T เน้นการใช้งานแบบเดินทางไกลตามคลาส Grand Tourer มากกว่าจะเน้นไปที่การขับแบบแทร็ค ตัวรถมีความยาวราวๆ 4.7 เมตร, เพิ่มระยะโอเวอร์แฮงก์ทั้งหน้าและหลัง, ระยะเคลียร์ใต้ท้องรถต่ำสุด 110 มม., มีโหมดยกตัวเพิ่มระยะเคลียร์ใต้ท้องรถให้เทียบเท่ากับรถซีดานทั่วไปโดยเฉลี่ย เพื่อให้ใช้งานในเมืองได้สะดวกขึ้น และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในเครือ ด้านท้ายสามารถบรรจุถุงกอล์ฟได้ 2 ใบ และด้านหน้ายังมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้อีก 150 ลิตร รวมแล้วทั้งด้านหน้าและหลังจะมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้ถึง 570 ลิตร

• ห้องโดยสารตกแต่งแบบทูโทน เน้นความหรูมากกว่าความสปอร์ต อุปกรณ์มาตรฐานมีจอบอกข้อมูลหลังวงพวงมาลัยแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ ทำงานผ่านจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว, รองรับระบบนำทางของบริษัท HERE พร้อมบริการรายงานการจราจรแบบรีลไทม์, รองรับบริการวิทยุดิจิทัล (DAB), ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล dual-zone ปิดท้ายด้วยชุดซาวด์ซิสเต็มของ Bowers & Wilkins ลำโพง 12 จุด

• พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์ SSG : Selective Shift Gearbox 7 จังหวะ กำลังสูงสุด 620 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 64.1 กก.-ม. เมื่อใช้งานฟังก์ชั่น Launch Control ตัวรถจะมีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 3.1 วินาที 0-200 กม./ชม. ภายใน 9.1 วินาที และวิ่งทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 326 กม./ชม.

• ชุดระบบช่วงล่างหลักๆ ยังคงเป็นระบบเด่นสำหรับเวอร์ชั่นถนนอย่างระบบ Proactive Damping Control แบบไฮดรอลิค ปรับระดับการตอบสนองได้ตามความเหมาะสมของสภาพการใช้งาน ซอฟท์แวร์ควบคุมรุ่นใหม่ พัฒนาต่อยอดโดยใช้ข้อมูลอัลกอรึธึ่มของเวอร์ชั่นฮาร์ดคอร์อย่าง McLaren 720S แดมเปอร์ทำงานร่วมกับปีกนกอลูมิเนียมทั้งชุด พร้อมออกแบบจุดยึดแบบเฉพาะรุ่น ล้อด้านหน้าขนาด 20 นิ้ว ด้านหลัง 21 นิ้ว ทั้งคู่มากับยาง Pirelli P ZERO รุ่นพิเศษเฉพาะรุ่นที่พิเรลลีออกแบบมาให้ใหม่

• นอกจากนี้แมคลาเรนยังระบุว่า น้ำหนักตัวของ McLaren GT นั้น แม้จะอยู่ที่ 1,530 กก. ซึ่งหนักกว่าสปอร์ตในชายคาเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับรถของคู่แข่งในคลาสที่ใกล้เคียงกัน GT จะมีน้ำหนักเบากว่าเฉลี่ย 130 กก. ยังผลให้ตัวรถมีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก 399 แรงม้า/ตัน ดีที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน ณ วันปัจจุบัน

• แมคลาเรนเปิดจอง GT ใหม่แล้วในสหราชอาณาจักร ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 163,000 ปอนด์ หรือประมาณ 6.7 ล้านบาทครับ กำหนดส่งส่งมอบรถจะมีขึ้นภายในปี 2019 นี้… บ้านเราปีหน้าคงจะได้เห็นคันจริงกัน •

2020 McLaren GT