June 27, 2019
Motortrivia Team (10167 articles)

F1 French GP 2019 : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย

Posted by : FascinatorFJ.

●   เฟรนช์กรังด์ปรีซ์เป็นเวทีที่ ลูวอิส แฮมิลตัน จากเมอร์เซเดส โชว์ฟอร์มเหนือชั้นด้วยการออกสตาร์ทนำตั้งแต่ตำแหน่งโพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย ทำให้ตอนนี้แชมป์โลกจากสหราชอาณาจักรฯ ทำคะแนนขึ้นนำห่างออกไป 36 แต้ม แล้ว

●   เช่นเดียวกับสนามเปิดฤดูกาลที่ อัลเบิร์ต พาร์ค แต่ที่ พอล ริคาร์ด ในวันนี้เป็นการสลับตำแหน่งกันระหว่าง ลูวอิส แฮมิลตัน และ วาลท์เทรี บ็อตตาส โดยแฮมิลตันขึ้นนำและฉีกหนีระยะห่างออกมาจากเพื่อนร่วมทีมชาวฟินแลนด์ได้อย่างไม่ยากเย็น แชมป์โลกคนปัจจุบันนั้นเข้าเส้นชัยโดยนำหน้าเพื่อนร่วมทีมถึง 18 วินาที ในขณะที่ ชาร์ล เลอแคลร์ จากเฟอร์รารีนั้น ไล่บี้ถึงท้ายบ็อตตาสได้ในรอบสุดท้าย แต่ก็แซงไม่ทัน

●   เซบาสเตียน เวทเทล อีกหนึ่งนักขับเฟอร์รารี นั้นพลาดท่าตั้งแต่วันควอลิฟาย โดยแชมป์โลก 4 สมัย ทำได้ดีที่สุดเพียงกริดที่ 7 เท่านั้น ทำให้ในวันแข่งเขาต้องลำบากในการไล่แซงรถแม็คลาเรน 2 คัน ที่อยู่ข้างหน้า เขาใช้เวลาอยู่ประมาณ 3-4 รอบ กว่าจะแซงขึ้นมาได้ แต่ถึงตอนนั้นแฮมิลตันก็นำห่างออกไปเกิน 10 วินาที แล้ว

●   เรียกได้ว่ายิ่งขับยิ่งแข็งแกร่งสำหรับแฮมิลตันในสนามนี้ เมื่อถึงช่วงเข้าพิทครั้งแรกเขาก็นำห่างบ็อตตาสไปถึง 8 วินาทีแล้ว และเมื่อเปลี่ยนออกมาเป็นยางฮาร์ด แฮมิลตันก็ยิ่งขับห่างออกไปเรื่อยๆ เขายังสามารถทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด 1.32.764 ได้ทั้งๆ ที่ยางฮาร์ดของเขาฉีกรุ่ยอย่างหนัก ก่อนที่จะถูกเวทเทลซึ่งเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์สดใหม่มาไล่กดเวลา 1.32.740 เอาเวลาต่อรอบเร็วที่สุดของสนามในรอบสุดท้ายไป

●   ด้านหลังแฮมิลตัน บ็อตตาสที่ตามมาห่างๆ นั้นเริ่มถูกเลอแคลร์ไล่จี้เข้ามาทุกขณะ และในช่วงท้ายของการแข่งขันมี เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ ออกมาชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที แต่นั่นก็ทำให้บ็อตตาสสูญเสียการทำอุณหภูมิยางจนเลอแคลร์ไล่เข้ามาถึงท้ายรถ อย่างไรก็ตามรอบการแข่งขันนั้นหมดลงเสียก่อน บ็อตตาสจึงรั้งอันดับ 2 เข้าเส้นชัยเฉือนเลอแคลร์ไปเพียงปลายจมูก

●   แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น จากเรดบูลล์ ทำผลงานได้ตามที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้ นักแข่งดัตช์ตั้งใจจะต่อสู้แย่งอันดับจากเฟอร์รารี ซึ่งเขาก็เข้าเส้นชัยในอันดับ 4 คั่นกลางระหว่างเฟอร์รารีทั้ง 2 คัน ที่อยู่ข้างหน้าและหลังเขา

●   แม็คลาเรนนั้นดูเหมือนจะเข้าเส้นชัยในอันดับ 6 และ 7 แต่แล้วรถของ แลนโด้ นอริส ก็เกิดปัญหากับระบบไฮดรอลิคทำให้ความเร็วของรถตกลง นักแข่งวัย 19 ปี ต้องปรับตัวและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างหนักทีเดียว

●   เริ่มจากเขาไม่สามารถใช้ DRS ได้ จากนั้นพวงมาลัยเริ่มหนักขึ้นๆ เกียร์เริ่มเปลี่ยนยากและรุนแรงขึ้น และท้ายสุดอาการในโค้งของรถตุปัดตุเป๋ จากการที่ดิฟเฟอเรนเชียลเริ่มไม่ทำงาน ซึ่งข้างหลังเขา แดเนียล ริคคิอาร์โด จากเรโนลต์ นั้นราวกับฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือด เขาขยับเข้าใกล้นอริสเข้ามาเรื่อยๆ และสบโอกาสจู่โจมบนทางตรงมิสทราลในรอบสุดท้าย เขาหลุดโค้งไปเล็กน้อยและกลับเข้าแทร็คมาเบียดนอริสจนหลุดแทร็คออกไป ซึ่งในจังหวะนี้ คิมี ไรค์โคเนน จาก อัลฟ่า โรเมโอ ฉวยโอกาสแซงขึ้นไปได้ แต่ริคคิอาร์โดไม่ยอม นักแข่งออสซีวิ่งออกนอกแทร็ค 4 ล้อ และแซงคืนนักแข่งฟินน์ นั่นทำให้ริคคิอาร์โดเข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ไรค์โคเนนตามมาเป็นอันดับ 8 เรโนลต์ของ นิโค ฮูลเคนเบิร์ก เข้ามาในอันดับ 9 และนอริสตกไปเป็นอันดับ 10

●   อย่างไรก็ตาม กรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าริคคิอาร์โดสร้างความเสียหายในการแซงนอริสและใช้ประโยชน์นอกแทร็คในการแซงไรค์โคเนน กรรมการจึงลงโทษบวกเวลาเคสละ 5 วินาที รวมเป็น 10 วินาที ให้กับริคคิอาร์โด ส่งผลให้นักแข่งข้างต้นทั้งหมดขยับขึ้นมาคนละ 1 อันดับ ริคคิอาร์โดตกไปเป็นอันดับ 11 และ ปิแอร์ แกสลีย์ จากเรดบูลล์ ขยับขึ้นมารับแต้มสุดท้ายแทน

●   อีกคนหนึ่งที่โดนลงโทษจากการออกนอกแทร็คในวันนี้ เซอร์จิโอ เปเรซ เสียการทรงตัวในช่วงรอบแรกของการแข่งขัน เขาหลุดแทร็คออกไปที่โค้ง 3 และขับอ้อมไปยังด้านซ้ายของบอลลาร์ดก่อนที่จะกลับเข้าแทร็ค อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะทำถูกต้องตามกฎการกลับเข้าแทร็ค กรรมการยังคงมองว่าเขาได้เปรียบจากการออกนอกแทร็คไปและทำอันดับขึ้นมา ทำให้นักแข่งเม็กซิกันถูกลงโทษบวกเวลา 5 วินาที ซึ่งเขาจบการแข่งขันในอันดับ 12 อยู่หน้าเพื่อนร่วมทีมอย่าง แลนซ์ สโตรล  ●

สรุปผลการแข่งขัน

  1. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.24.31.198 – กริด 1
  2. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – +18.056 – กริด 2
  3. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +18.985 – กริด 3
  4. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +34.905 – กริด 4
  5. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +1.02.796 – กริด 7
  6. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1.35.462 – กริด 6
  7. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 12
  8. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 13
  9. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 5
  10. ปิแอร์ แกสลีย์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 9
  11. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 8
  12. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 14
  13. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 17
  14. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 19
  15. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 11
  16. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 10
  17. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 15
  18. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 18
  19. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 20

DNF – โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – รอบที่ 44 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 16
เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 1.32.740 – รอบที่ 53

คะแนนสะสมประเภทนักขับ

  1. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 187
  2. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 151
  3. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 111
  4. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 100
  5. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 87
  6. ปิแอร์ แกสลีย์ – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 37
  7. คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 26
  8. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 19
  9. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – 16
  10. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 16
  11. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 14
  12. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 14
  13. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 13
  14. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 10
  15. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 7
  16. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 6
  17. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – 2
  18. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี
  19. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
  20. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต

  1. เมอร์เซเดส – 338
  2. เฟอร์รารี – 198
  3. เรดบูลล์ ฮอนด้า – 137
  4. แม็คลาเรน เรโนลต์ – 40
  5. เรโนลต์ – 32
  6. เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 19
  7. อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 19
  8. โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 17
  9. ฮาส เฟอร์รารี – 16
  10. วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

ที่มา :
•  autosport.com.
•  espnf1.com.


ผลการแข่งขันฤดูกาล 2019

●   สนามที่ 01 : Australian GP : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
●   สนามที่ 02 : Bahrain GP : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหา.
●   สนามที่ 03 : Chinese GP : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2.
●   สนามที่ 04 : Azerbaijan GP : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาด 1-2 เป็นสนามที่ 4.
●   สนามที่ 05 : Spanish GP : แฮมิลตัน/บ็อตตาส เข้าเส้นชัย 1-2 เป็นสนามที่ 5.
●   สนามที่ 06 : Monaco GP 2019 : แฮมิลตันรอดการจู่โจมอย่างหนัก.
●   สนามที่ 07 : Canadian GP : เวทเทลต้องปล่อยชัยชนะแรกของฤดูกาล.
●   สนามที่ 08 : French GP : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย.