June 26, 2019
Motortrivia Team (10021 articles)

2020 Ford Puma กลายร่างจากรถสปอร์ตแบบ 2+2 ไปเป็นรถซับคอมแพคท์ ครอสโอเวอร์ SUV

เรื่อง : AREA 54

●   ฟอร์ดเปิดตัว Ford Puma เจนเนอเรชั่นใหม่ รุ่นปี 2020 ทว่าการนำชื่อ Puma กลับมาในครั้งนี้ ตัวรถไม่ได้อยู่ในรูปโฉมของรถสปอร์ตคอมแพคท์ คูเป้ 2+2 ที่นั่งแบบเจนเนอเรชั่นแรก แต่มีการขยับขยายร่างกายไปเป็นรถ SUV ในกลุ่มครอสโอเวอร์ ขนาดซับคอมแพคท์ พร้อมกับเตรียมโยกฐานการผลิตจากเยอรมนีไปยังโรมาเนีย

●   แน่นอนว่า Puma ใหม่ยังคงใช้แพลทฟอร์มเดียวกับรถเล็กอย่าง Ford Fiesta เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าที่ใช้แพลทฟอร์มของ Fiesta เจนเนอเรชั่น 4 ในการผลิต ก่อนที่ฟอร์ตจะตัดสินใจยุติสายการผลิต Puma ไปในช่วงปี 2001

●   ทิ้งช่วงไปราว 18 ปี ฟอร์ดจึงตัดสินใจนำชื่อ Puma กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันขยับไปใช้แพลทฟอร์มของ Fiesta รุ่นปัจจุบัน เจนเนอเรชั่น 7 ซึ่งทันสมัยมากขึ้น น้ำหนักเบาลง สามารถติดตั้งเทคโนโลยีช่วยขับใหม่ๆ ได้ตามยุคสมัย รวมถึงสามารถใช้งานเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วย

●   จุดเด่นของ Puma คือ มันไม่ได้กลับมาในฐานะรถราคาประหยัด แต่เป็นรถยุคใหม่ที่มีอุปกรณ์มาตรฐานที่ทันยุคสมัยให้ครบ อาทิ มาตรวัดหลังวงพวงมาลัยแบบฟูลดิจิทัล แสดงผลผ่านจอขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ปรับเปลี่ยน สั่งงานได้โดยตรงจากชุดควบคุมบนพวงมาลัยเช่นเดียวกับรถรุ่นใหญ่ๆ ในเครือ จอกลางสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ ปรับเป็นทรงลอยตัว ปุ่มควบคุมต่างๆ ลดน้อยลง เน้นการใช้งานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

●   ชุดระบบ SYNC 3 รองรับฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto และ Apple CarPlay มีจุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ส่วนระบบเสียงใช้บริการชุดซาวด์ซิสเต็มของ B&O ที่มาพร้อมชุดลำโพง 10 จุดทั่วห้องโดยสาร และยังมี WiFi hotspot ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกันได้ 10 เครื่อง

●   อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ชุดระบบความปลอดภัยที่ครบ ประกอบด้วย ระบบ Pre-Collision Assist with Pedestrian Detection เตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบ Emergency Brake Assist ช่วยเบรคในขณะฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบ Emergency Steering Assist ช่วยหลบหลีกการชน, ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go หยุดรถและออกตัวตามสภาพการจราจร, ระบบ Tire Pressure Monitoring System ตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบ ESC ช่วยควบคุมการทรงตัว และระบบ Parking Assist ช่วยถอยจอด

●   เบื้องต้น Puma จะมากับชุดระบบขับเคลื่อนแบบ mild hybrid เป็นหลัก (ชื่อทางการค้าคือ EcoBoost Hybrid technology) ฟอร์ดใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ EcoBoost ความจุ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ จับคู่เทคโนโลยี BISG : belt-driven integrated starter/generator แบบเดียวกับ 2020 Ford Kuga

●   BISG หรือสายพานที่ออกแบบให้ควบรวมกับสตาร์ทเตอร์ (ทำหน้าที่แทน Alternator หรือไดชาร์จแบบปกติ) จะนำพลังงานที่ได้จากระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรคไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ที่ใช้ระบบไฟ 48 โวลท์ ช่วยเพิ่มแรงบิด ลดการใช้เชื้อเพลิง และลดการคายมลพิษ ฟอร์ดระบุว่าจากการทดสอบตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป จะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้ราว 9% และมีอัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียประมาณ 124 – 127 กรัม/กม. ตามลำดับกำลังเครื่องยนต์

●   รุ่นพื้นฐานมีกำลังสูงสุดให้ใช้งาน 125 แรงม้า (PS) ส่วนรุ่นท๊อปจะมีการจูนกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 155 แรงม้า ทั้ง 2 รุ่นย่อย (ในช่วงแรก) จะใช้ระบบส่งกำลังแบบธรรมดา 6 จังหวะ โดยจะมีรุ่นเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 จังหวะให้ในอนาคต ส่วนแรงบิดนั้น ในรุ่น 152 PS จะมีตัวเลขอยู่ที่ 24.4 กก.-ม. พร้อมโบนัสพิเศษจากระบบ BISG ให้อีก 5.0 กก.-ม. นอกจากนี้ BISG จะทำหน้าที่เรียกแรงบิดให้ใช้งานราว 50% ตั้งแต่รอบต่ำด้วย

●   การเปิดตัว Puma ใหม่อย่างเป็นทางการคาดว่าจะมีขึ้นในงาน 2019 Frankfurt Motor Show ปลายปีนี้ ระหว่างวันที่ 12 – 22 กันยายน 2019 ครับ… ราคาจำหน่ายยังไม่ระบุ  ●

2020 Ford Puma