June 10, 2019
Motortrivia Team (10076 articles)

GM ยืนยัน แผนงานผลิตรถปิคอัพพลังงานไฟฟ้า…ต้องมี

เรื่อง : AREA 54

●   Mark Reuss ประธานกรรมการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ให้ข้อมูลสำคัญระหว่างเข้าร่วมงานประชุมเรื่องอุตสาหกรรมและการขนส่งของธนาคาร UBS เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า GM กำลังเตรียมการพัฒนาและผลิตปิคอัพพลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง เนื่องจาก GM ต้องการผลิตรถไฟฟ้าให้ครบทุกไลน์อัพในอนาคต หลังจากที่เริ่มเปิดตลาดกรีนด้วย Chevrolet Volt ในกลุ่มคอมแพคท์คาร์ ต่อด้วยทางเลือกใหม่อย่าง Chevrolet Bolt ในกลุ่มซับคอมแพคท์

●   Reuss ระบุว่า แผนงานนี้ได้ดำเนินการมาจนถึงขั้นตอนการออกแบบแพลทฟอร์มสำหรับผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เจนเนอเรชั่นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันจะมีความยืดหยุ่นกว่าแพลทฟอร์มที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมาก และยังสามารถวางตัวถังที่แตกต่างกันได้เกือบๆ 10 รูปแบบ

●   “สถาปัตยกรรมใหม่นี้คือผืนผ้าใบอันเหมาะสมที่เราจะใช้เพนท์สีในโปรแกรม EV ของเรา (หมายถึงการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า) เราสามารถสร้างทุกสิ่งทุกอย่างได้บน (แพลทฟอร์มใหม่) นั้นเลย ไล่ไปตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนทั้ง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า, ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอิเลคทรอนิค (e-All-wheel drive)”

คู่แข่ง… ตัวเร่งปฏิกิริยาในตลาด

●   ปฏิเสธไม่ได้ว่าสตาร์ทอัพน้องใหม่อย่าง Rivian ที่มี R1T คันจริงออกมาให้เห็นกัน พร้อมๆ กับ การเปิดตัวแผนงานผลิตปิคอัพของเทสล่า มีส่วนทำให้กระแสตื่นตัวการผลิตปิคอัพไฟฟ้าบูมขึ้นมาอย่างจริงจัง (ยังไม่นับกลุ่มรถที่ไม่ค่อยฮือฮาอย่าง Workhorse W-15 หรือ Atlis XT) แม้จะดูเหมือนว่า GM มีการขยับตัวช้ากว่า แต่ก็ใช่ว่า GM จะไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย เพียงแต่ว่าในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ในแวดวงปิคอัพของโลก GM นั้นมีเรื่องที่จำเป็นจะต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะลงมือทำอะไรก็ตาม

●   “GM คือผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตรถทรัค (ปิคอัพ) และเป็นผู้นำในอุตสหกรรมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ ดิฉันสามารถรับประกันกับคุณได้เลยว่า เราจะไม่ยอมเสียตำแหน่งผู้นำในแถวหน้าทั้ง 2 ตำแหน่งนั่นแหละ” Mary Barra ประธานกรรมการบริหารเจเนรัล มอเตอร์ส กล่าว

●   นอกจากนี้ GM ยังมีแผนงานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในคลาสต่างๆ ลงสู่ตลาดอย่างน้อย 20 รุ่นภายในปี 2023 ด้วย Mark Reuss เชื่อว่าต้นทุนในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะลดลงมาเท่าๆ กับการผลิตรถยนต์เบนซิน/ดีเซลเร็วกว่าที่คนทั่วไปคิด เมื่อสังเกตุจากราคาแบตเตอรี่แพคที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทผู้ผลิตเริ่มทำกำไรได้จากการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเชิงปริมาณ และนั่นจะทำให้การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ในเชิงนวัตกรรมใหม่ๆ อีกต่อไป

ในความเป็นจริง… ไม่ง่าย

●   สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า ปัจจุบันเพดานราคาเฉลี่ยของรถใหม่ทุกแบรนด์ในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 37,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.17 ล้านบาท ในขณะที่ Chevrolet Bolt มีราคาเริ่มต้นที่ 36,620 ดอลลาร์ หรือราว 1.15 ล้านบาท และหากรวมส่วนลดสร้างแรงจูงใจจากรัฐ (ในเรทสูงสุด) Bolt รุ่นพื้นฐานจะมีราคาเพียง 32,870 ดอลลาร์ หรือราว 1.04 ล้านบาทเท่านั้น นั่นเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณามากทีเดียวสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับระบบขับเคลื่อนแบบเดิมๆ

●   อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของตัวเลือกรถที่อยู่ในขนาดและคลาสเดียวกัน (รถแฮทช์แบค ซับคอมแพคท์ เครื่องเบนซิน/ดีเซล) ราคาเฉลี่ยของรถในกลุ่มนี้จะต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ หรือราว 6.3 แสนบาท และ GM ยังคงต้องแบกภาระต้นทุนแบตเตอรี่อย่างหนัก เราก็คงต้องบอกว่า การที่ราคาจำหน่ายของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะลดลงมาเท่าๆ กับรถยนต์แบบ ICE ได้จริงนั้น เราๆ ในฐานะผู้ที่อยู่ปลายทางของห่วงโซ่อุตสาหกรรม ยังคงต้องรอกันไปอีกนานพอสมควรครับ

หมายเหตุ : GM เคยให้ข่าวในช่วงปี 2016 ว่า พวกเขาต้องจ่ายให้ LG Chem ในฐานะซัพพลายเออร์หลักในการผลิตแบตเตอรี่ “ต่อเซลล์” (ในแบตเตอรี่ 1 แพคมีหลายเซลล์) ราว 145 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.6 พันบาท “ต่อพลังงาน 1 กิโลวัทท์-ชม.” นั่นหมายความว่าเฉพาะต้นทุนในส่วนของแบตเตอรี่แพคใน Bolt 1 คันนั้น GM ใช้ต้นทุนไปแล้วราวๆ 8,700 ดอลลาร์ หรือราวๆ 2.8 แสนบาท “ต่อแบตเตอรี่แพคความจุ 60 กิโลวัทท์-ชม.” นั่นทำให้สำนักข่าวหลายแห่งมีรายงานว่า GM อาจกำลังจำหน่าย Bolt ในราคาต่อคันที่ขาดทุนอยู่ ณ เวลานี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดไฟฟ้ากับคู่แข่งหลักอย่าง Nissan Leaf ได้  ●

ภาพประกอบ 2020 Chevrolet Silverado HD