MICHELIN และ Safran ทดสอบเที่ยวบินที่ใช้นวัตกรรมยางบนระบบเครือข่ายเชื่อมต่อเป็นครั้งแรกในเครื่องบิน Dassault Falcon 2000S

ประชาสัมพันธ์

●   มิชลิน และ ซาฟราน แลนดิ้ง ซิสเต็มส์ (Safran Landing Systems) ประกาศความสำเร็จในการทดสอบเที่ยวบินที่ติดตั้งนวัตกรรมยางสำหรับเครื่องบินบนระบบเครือข่ายเชื่อมต่อซึ่งใช้ชื่อว่า ‘เพรสเซนส์’ (PresSense) เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2562 ณ ฐานทัพอากาศอิสเตรส (Istres Air Base) ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยใช้เครื่องบิน ดัสซัลท์ แอวิเอชั่น ฟัลคอน 2000 เอส (Dassault Aviation Falcon 2000S)

●   เพรสเซนส์ ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างมิชลินและซาฟราน แลนดิ้ง ซิสเต็มส์ เป็นนวัตกรรมยางเครื่องบินบนระบบเครือข่ายเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการซ่อมบำรุงสำหรับสายการบินต่างๆ โดยเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์จะตรวจวัดแรงดันลมยางและส่งข้อมูลที่ได้ผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคจึงไม่ต้องตรวจวัดค่าจากยางล้อด้วยตนเอง เนื่องจากระบบมีการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สายไปยังฐานข้อมูล ค่าแรงดันลมยางจะถูกบันทึกเอาไว้และสามารถเข้าไปดูค่าได้ง่ายๆ ทางหน้าเว็บไซต์ จึงสะดวกต่อการสืบค้นและทบทวนค่าที่ได้ กระบวนการนี้สะดวกง่ายดายกว่าการตรวจสอบค่าแบบดั้งเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคต้องนำเครื่องวัดระดับแรงดันไปวัดที่วาล์วลมยาง

●   หลังประสบความสำเร็จในการทดสอบภาคพื้น (Ground Test) เมื่อเดือนมกราคม 2562 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการวัดค่าแรงดันลมยางผ่านเครือข่ายไร้สายกับเครื่องบินรุ่นต่างๆ เป็นไปอย่างถูกต้อง ยางเพรสเซนส์ถูกนำมาทดสอบกับเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบิน ฟัลคอน 2000 เอส โดยประสบผลสำเร็จเช่นกัน

●   การทดสอบดังกล่าวซึ่งดำเนินการในสถานการณ์จริง พิสูจน์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีที่มิชลินและซาฟราน แลนดิ้ง ซิสเต็มส์ ร่วมกันพัฒนาขึ้น ในขั้นถัดไปจะเป็นการทดสอบกับเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นอื่นๆ โดยจะทำการทดสอบในช่วงปลายปี 2562 และต้นปี 2563

●   ฌอง-ปอล อะลารี (Jean-Paul Alary) ประธานกรรมการบริหารของซาฟราน แลนดิ้ง ซิสเต็มส์ เปิดเผยว่า “การร่วมพันธมิตรครั้งนี้ถือเป็นการผสานพลังของสองผู้นำระดับโลกที่อยู่ในตลาดยางรถยนต์และตลาดระบบอากาศยานเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งสองบริษัทฯ ต่างยึดมั่นในคุณค่าองค์กรเดียวกันและมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม โครงการความร่วมมือนี้เป็นการผนึกความเชี่ยวชาญและทักษะของแต่ละฝ่ายเพื่อเร่งพัฒนาโซลูชั่นด้านดิจิทัลให้สามารถนำมาใช้ในตลาดได้จริงเร็วขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดคุณค่าที่เหนือกว่าสำหรับลูกค้า”

●   ฟร็องก์ มอโรว์ (Frank Moreau) รองประธานอาวุโส สายธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางเครื่องบินของมิชลิน กล่าวเสริมว่า “ยางเป็นปัจจัยสำคัญต่อความปลอดภัยของเครื่องบินระหว่างบินขึ้นและร่อนลงจอด ด้วยนวัตกรรมยางเพรสเซนส์ เรารับประกันการแจ้งค่าแรงดันลมยางที่ถูกต้องโดยใช้เวลาในการตรวจวัดที่สั้นลง ในทุกสถานการณ์ ทุกสนามบิน และทุกพื้นที่ปฏิบัติการ ไม่ว่าจะนำไปใช้ในกิจการทางทหารหรือกิจการพลเรือน ทั้งนี้ การยกระดับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเป็นส่วนสำคัญของแนวทางเพื่อมุ่งสู่การสัญจรอย่างยั่งยืนของมิชลิน เที่ยวบินแรกที่ใช้นวัตกรรมยางบนระบบเครือข่ายเชื่อมต่อเป็นก้าวสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของเรา และเรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมแบ่งปันช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งนี้กับพันธมิตรอย่างซาฟราน”

●   การทดสอบกับเที่ยวบินจริงเป็นขั้นตอนล่าสุดในการพัฒนานวัตกรรมยางเพรสเซนส์ของมิชลิน กับ ซาฟราน แลนดิ้ง ซิสเต็มส์ โดยเป็นการปูทางสู่การนำนวัตกรรมยางรุ่นนี้ไปใช้งานจริงในปี 2563

เกี่ยวกับซาฟราน

●   ซาฟราน (Safran) เป็นกลุ่มบริษัทไฮเทคข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในตลาดการขับเคลื่อนและอุปกรณ์อากาศยาน ตลอดจนตลาดอวกาศและระบบการป้องกัน โดยมีฐานตลาดทั่วโลกและมีพนักงานมากกว่า 92,000 คน ยอดขายในปี 2561 ของซาฟรานอยู่ที่ 21 พันล้านยูโร ทั้งนี้ ซาฟรานเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-ปารีส (Euronext Paris) และเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ CAC 40 ของฝรั่งเศส และ Euro Stoxx 50 ของกลุ่มยูโรโซน

●   ซาฟราน แลนดิ้ง ซิสเต็มส์ (Safran Landing Systems) เป็นผู้นำระดับโลกด้านระบบเบรกและระบบร่อนลงจอดของเครื่องบิน บริษัทฯ เป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตและออกแบบเครื่องบินกว่า 30 รายด้านการขนส่งทางทหาร การขนส่งทางการพาณิชย์ การขนส่งระดับภูมิภาค และการขนส่งพลเรือน โดยให้บริการสนับสนุนแก่เครื่องบิน 27,000 ลำ ซึ่งร่อนลงจอดมากกว่า 70,000 ครั้งต่อวัน

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.safran-group.com หรือ www.safran-landing-systems.com หรือทวิตเตอร์ @Safran หรือ @SafranLandingS

เกี่ยวกับมิชลิน

●   มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร

●   กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็องประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 125,000 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 67 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 190 ล้านเส้นในปี 2561 สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th  ●