2019 Suzuki Jimny แปลงโฉมเป็นตัวแข่ง Paris-Dakar Rally ปี 1982
เรื่อง : AREA 54
● จูนนิงช๊อปสัญชาติเยอรมนี delta4x4 แปลงโฉม Suzuki Jimny รุ่นใหม่เจนเนอเรชั่น 4 ให้กลายเป็นรถแรลลี่ย้อนยุคที่ลุยการแข่งขันรายการ Paris-Alger-Dakar Rally ในปี 1982 ตัวรถไม่ได้ทำมาเพื่อจำหน่ายโดยตรง แต่เป็นการสดุดีรุ่นพี่อย่าง Suzuki Jimny 8/LJ80 ในตลาดโลก ยักษ์เล็กที่วิ่งจนจบการแข่งขันแรลลี่ที่โหดที่สุดในโลกใบนี้… ทว่าใครอยากได้ delta4x4 ก็มีลิสท์ราคามาให้เป็นตัวอย่าง
● Jimny LJ80 นับเป็นรุ่นที่อยู่ในช่วงชีวิตของ Suzuki Jimny LJ10 เจนเนอเรชั่นแรกที่ผลิต/จำหน่ายในช่วงปี 1970 – 1982 รูปแบบตัวถังมี 2 ประตูแบบเปิดประทุน, 2 ประตู ตอนเดี่ยวกระบะลอย (Cab Chassis) และ 2 ประตูแวกอน ซึ่งเป็นรุ่นที่เห็นในภาพชุดนี้ โดย Jimny 8 หรือ LJ80 เวอร์ชั่นเยอรมนี มีการเปิดตัวในปี 1977 ตัวรถใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ SOHC ความจุกระบอกสูบ 797 ซีซี. กำลังสูงสุด 41 แรงม้า (HP) ในขณะที่ญี่ปุ่นเองซึ่งจำหน่ายในชื่อ Jimny SJ20 ถูกจำหน่ายในฐานะรถ Kei Car ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 2 จังหวะ ความจุ 539 ซีซี. กำลังสูงสุด 26 แรงม้า

Suzuki Jimny รหัสตัวถัง SJ (LJ) ทำตลาดช่วงปี 1976 – 1981
● LJ80 คันต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง Jimny ใหม่ที่เห็นนี้ คือคันจริงที่ลงวิ่งในรายการ 1982 Paris-Alger-Dakar Rally ซึ่งผู้ที่ครอบครองรถคันนี้ก็คือนักขับเยอรมัน และผู้ก่อตั้งทีม delta Geländesport และ CEO ของ delta 4×4 คนปัจจุบัน Josef Loder นั่นเอง
● การแข่งขันในครั้งนั้นนับเป็นการแข่งขัน Paris-Dakar ครั้งที่ 4 แยกเป็นสเตจย่อยทั้งหมด 17 สเตจ เริ่มออกวิ่งกันในวันที่ 1 มกราคม จนถึง 20 มกราคม 1982 ระยะทางรวมมากกว่า 6,300 กม. Loder ลงขับโดยมี Dr. Alois Schneck เป็นโค-ไดรเวอร์ มีรถเข้าแข่งขันทุกประเภทรวม 382 คัน และมีเพียง 85 คันเท่านั้นที่ผ่านถึงเส้นชัย

ภาพจาก www.lj-tour.de/Loder
● ตามข่าวระบุว่ามันถูกจูนกำลังเพิ่มเป็น 80 แรงม้า (PS) ซึ่งนอกจากมันจะรอดจากการแข่งขันแบบครบทุกสเตจแล้ว Loder ยังสามารถใช้งานมันได้ดีจนกระทั่งทุกวันนี้ (แน่นอน… เจ้าของเป็นจูนนิ่งช๊อปทั้งที วิ่งไม่ได้คงแปลกมากครับ)
● ตัวรถมาในโทนสีเคร่งขรึมตัดกับหลังคาขาวในรูปแบบเดียวกัน ตำแหน่งสติ๊กเกอร์ต่างๆ ใกล้เคียงกันในทุกจุด ราคาในการอัพเกรดหลักๆ ประกอบด้วย:
หมายเหตุ : ผู้แปลขอแปลงจากเงินยูโรเป็นเงินไทยไปเลยรวดเดียวนะครับ
● สปอร์ทไลท์เดี่ยวของ PIAA ราคา 1.37 หมื่นบาท, ชุดยกความสูง 1.96 นิ้ว ราคา 3.48 หมื่นบาท, ชุดยกเสริมด้วยสเปเซอร์อีก +1.18 นิ้ว ราคา 2.98 หมื่นบาท (หากต้องการ) และเซ็ทล้อ/ยางซึ่งประกอบด้วย ล้ออัลลอยที่ขึ้นรูปแบบฟอร์จ delta4x4 ผลิต/จำหน่ายในสโตร์ของช๊อปเอง ชื่อรุ่น Legacy Forged ขนาด 16 นิ้ว จับคู่ยาง Mickey Thompson Baja STZ ไซส์ 285/75 ราคารวม 1.34 แสนบาท
● จบจากชุดอัพเกรดหลักๆ ซึ่งแปลงโฉมให้ Jimny ใหม่กลายเป็น LJ80 Dakar แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ที่ต้องการเติมความอเนกประสงค์ในการใช้งานจริงอีก 1 ชุด ประกอบด้วย กันชนทรง bull bar ราคา 1.37 หมื่นบาท, รูฟแร๊คแบบเฮฟวี่ดิวตี้ ราคา 3.16 หมื่นบาท ปิดท้ายด้วยวินช์ไฟฟ้า 2 ตัน ราคา 4.21 หมื่นบาท
● รวมราคาชุดอัพเกรดคร่าวๆ แล้วอยู่แถวๆ 8.5 พันยูโร หรือเกือบๆ 3 แสนบาทไทยครับ บ้านเราใครขับ Jimny ใหม่แล้วอยากได้อะไรแบบนี้ คงทำกันได้ไม่ยากในระดับราคาที่ต่ำกว่าพอสมควร ●