Formula One News : อัพเดทความเคลื่อนไหว 11-07-2019

Posted by : FascinatorFJ

วิลเลียมส์ประกาศแยกทางกับโลว์หลังลางาน

●   ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของวิลเลียมส์ แพดดี้ โลว์ ซึ่งได้ลางานยาวๆ ไปก่อนเปิดฤดูกาล 2019 ได้มีการยืนยันแยกทางกับต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนั้นโลว์ยังได้ลงจากบอร์ดบริหารของทีมอีกด้วย โดยให้มีผลทันที

●   คำสัมภาษณ์ของโลว์ในแถลงการณ์จากวิลเลียมส์ : “หลังจากช่วงเวลาแห่งการเฝ้าระวังผลกระทบ ผมได้ตัดสินใจที่จะไม่กลับไปทำงานที่วิลเลียมส์ ผมปรารถนาให้ผู้ร่วมงานของผมได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในการพบเจอกับความท้าทายข้างหน้า ซึ่งผมมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับ ผมยังต้องการขอบคุณไปยังแฟนๆ วิลเลียมส์ ซึ่งให้การสนับสนุนที่ดีตลอดมา”

●   วิลเลียมส์นั้นมีปัญหากับผลงานที่ตกต่ำในปี 2018 และรถปี 2019 ยังล่าช้าจนทำให้พลาดการทดสอบไปถึง 2 วัน อีกทั้งมันยังโชว์ศักยภาพที่ด้อยกว่ารถคันที่แล้วเสียอีก นอกจากนั้นก่อนเปิดฤดูกาล FW42 ยังถูกร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบบางอย่าง เพื่อให้ตัวรถถูกต้องตามกติกา ซึ่ง ณ จุดนี้เป็นจุดที่โลว์นั้นได้ลางานออกไป

●   ในช่วงที่โลว์ไม่อยู่นั้น ดั๊ก แม็คคิเออร์แนน นักอากาศพลศาสตร์ชั้นนำ ได้ดูแลรับผิดชอบงานฝ่ายเทคนิคเกือบทั้งหมดภายในทีม นอกจากนั้นวิลเลียมส์ยังได้ขอให้ แพทริค เฮด อดีตผู้ร่วมก่อตั้งทีมและผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ เข้ามาให้คำปรึกษาทางเทคนิคกับรุ่นน้องด้วยเช่นกัน

แม็คลาเรนสร้างอุโมงค์ลมใหม่ในโวกกิ้ง

●   แม็คลาเรนกำลังเตรียมการสร้างอุโมงค์ลมใหม่ภายในฐานของตัวเองที่โวกกิ้ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการกลับมาอยู่หัวแถว

●   ถึงแม้ว่าในปีนี้แม็คลาเรนจะมีผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตา โดยพวกเขาทำผลงานเป็นรองเพียงแค่ 3 ทีมใหญ่ เท่านั้นใน 2 สนามล่าสุด แต่พวกเขายังคงตระหนักได้อยู่ถึงตัวรถที่ยังขาดประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์

●   หลังจากที่ อันเดรียส์ ไซเดิล ทีมบอสคนใหม่ ได้ทำการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อหาจุดที่จะปรับปรุง เขาก็พบว่าเรื่องอากาศพลศาสตร์ยังคงต้องมีการปรับปรุงอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อบอร์ดบริหาร และนำไปสู่การอนุมัติจัดทำอุโมงค์ลมใหม่ในที่สุด

●   อุโมงค์ลมใหม่นั้นจะถูกติดตั้งแทนที่อุโมงค์ลมเดิม และเมื่อการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์แล้ว แม็คลาเรนจะยุติการใช้อุโมงค์ลมของโตโยต้าในฐานโคโลญ

●   อันเดรียส์ ไซเดิล : “เวลาเราหายไป 1.5 วินาที จากท็อปทีมหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับสนาม ซึ่งเกิดจากอากาศพลศาสตร์ นี่คือสิ่งที่เรากำลังจัดการอยู่ทั้งวันทั้งคืนที่ฐาน พยายามเซตรถให้ถูกต้องในการใช้ดาวน์ฟอร์ซที่เราพัฒนาในอุโมงค์”

●   “หนึ่งในหัวข้อใหญ่ที่แซ็ค (บราวน์) และบรรดาผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ อยากให้ผมจัดการคือ บ่งชี้ว่าเรามีจุดอ่อนอยู่จุดใดในโครงสร้าง ทั้งที่ฐานและบนแทร็ค”

●   “หนึ่งในข้อด้อยที่ชัดเจนของเราก็คือ การที่เราไม่ได้ใช้อุโมงค์ลมของตัวเองที่โวกกิ้ง เกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา เราพัฒนารถจากอุโมงค์ลมของโตโยต้าที่โคโลญ”

●   ไซเดิลประมาณว่า การก่อสร้างน่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี และถึงแม้ว่าในปี 2021 กฎนั้นจะเข้มงวดกับการใช้อุโมงค์ลมมากขึ้น แต่พวกเขาก็ยังสามารถใช้มันได้กับธุรกิจอื่นๆ ของแม็คลาเรน

เรดบูลล์จะได้พัฒนาแอโรสกรีนสำหรับอินดี้คาร์ในปี 2020

●   รายการอินดี้คาร์ได้จับมือกับ เรดบูลล์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ในการพัฒนาแอโรสกรีน ที่ใช้กรอบโครงสร้างไทเทเนียม ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในการแข่งขันปี 2020 เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของนักขับจากเศษชิ้นส่วนปลิวเข้าค็อกพิท

●   คาดว่าพวกเขาจะออกแบบให้รับแรงได้เทียบเท่ากับเฮโลของ F1 โดยจะรับแรงได้มากถึง 150 กิโลนิวตัน ตัวสกรีนนั้นจะใช้โพลีคาร์บอเนต ซึ่งจะมีการเคลือบสารป้องกันการสะท้อนแสงด้านในฝั่งคนขับ อุปกรณ์ไล่ฝ้าจากการทำความร้อน และอาจจะมีเทียร์ออฟอีกด้วย โดยด้านบนและด้านล่างของโพลีคาร์บอเนตจะถูกยึดเข้ากับสตรัทไทเทเนียม ที่ออกแบบมาเป็นทรงเกือกม้า

●   นอกจากนั้นพวกเขาอาจจะมีออฟชั่นระบายความร้อนให้กับนักขับซึ่งออกแบบโดยดาลลารา พวกเขาจะทำช่องลมอยู่ด้านหน้าแอโรสกรีนซึ่งจะต่อตรงไปยังค็อกพิท แต่ออฟชั่นนี้ยังคงไม่ได้ข้อสรุปสุดท้าย

●   คริสเตียน ฮอร์เนอร์ เรดบูลล์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี CEO : “นับตั้งแต่ตัวต้นแบบตัวแรกที่ถูกพัฒนาในปี 2016 มันมีความชัดเจนถึงศักยภาพของแอโรสกรีนที่จะปรับปรุงความปลอดภัยให้กับนักขับ ความร่วมมือใหม่นี้กับอินดี้คาร์ได้ทำให้เรา เรดบูลล์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี มีโอกาสที่จะควานหาศักยภาพเพิ่มเติม และส่งมอบระบบการป้องกันที่จะช่วยรักษาชีวิตและป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงในการแข่งขันรถที่นั่งเดี่ยวของอเมริกา”

●   เจย์ ฟราย ประธานอินดี้คาร์ : “ความร่วมมือกันระหว่าง เรดบูลล์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี, ดาลลารา และ อินดี้คาร์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักขับ เราต้องการที่จะขอบคุณทุกๆ คนที่ เรดบูลล์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ในการสร้างสรรค์การออกแบบที่ไม่เพียงแต่ยกระดับความปลอดภัยของอินดี้คาร์ แต่เป็นการวิวัฒนาการของความปลอดภัยของมอเตอร์สปอร์ตในระดับสากล”

●   สก็อต ดิกสัน นักแข่งอินดี้คาร์ที่ได้ทดสอบแอโรสกรีนในปีที่แล้ว : “อินดี้คาร์นั้นเป็นผู้นำในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักขับเสมอมา พวกเขาคอยมองหาและประเมินสิ่งที่ต้องทำเพื่อที่จะปรับปรุง มันเป็นสิ่งที่พวกเขาทำมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน 100 ปี ที่ผ่านมา และแอโรสกรีนก็เป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะยกระดับความปลอดภัยของอินดี้คาร์ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป”  ●

ที่มา :
•  www.motorsport.com.