2020 Lotus Evija ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากโลตัส

3.3Kviews

เรื่อง : AREA 54

● หลังจากไม่มีความเคลื่อนไหวมานาน ยกเว้นรุ่นอัพเกรดเวอร์ชั่นต่างๆ ในแต่ละรุ่น ในที่สุด Lotus Cars Limited ก็เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่รหัส Type 130 โดยนับเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์โลตัส และเป็นรถในกลุ่มไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ของสหราชอาณาจักรด้วย (ในกรณีที่ Aston Martin Valkyrie ไม่ผลิตและส่งมอบไปเสียก่อน)

● ชื่อของ Lotus Evija นั้น โลตัสระบุการออกเสียงเป็นเท็กซ์มาว่า ‘ev-eye-a’ (ในวีดิโอส่วนใหญ่ออกเสียงว่า ‘อิฟ-ไว-อ่า’) ตัวรถผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่เอี่ยมเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี นับจากการเปิดตัว Lotus Exige ในปี 2000… จะว่าไปแล้ว Exige ก็ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มของ Lotus Elise ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 1996 กล่าวได้ว่า Evija เป็นรถรุ่นใหม่บนแพลทฟอร์มใหม่ของโลตัสจริงๆ ในรอบ 20+ ปีกันเลยทีเดียว

● โลตัสจะเปิดตัว Evija ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2019 นี้ที่อีเวนท์เฉพาะกิจในลอนดอน โดยแฟนๆ ชาวอังกฤษจะได้เห็นกันนิดหน่อยๆ แบบ sneak peek ก่อนในงาน 2019 Goodwood Festival of Speed ระหว่างวันที่ 4 – 7 กรกฏาคมที่ผ่านมา

● เบื้องต้น Evija จะมากับระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแยกขับเคลื่อนล้อทั้ง 4 กำลังสูงสุดผลิตได้มากกว่า 1,000+ แรงม้า (HP) มีระบบจัดการแอร์โรไดนามิคส์แบบแอคทีฟ แปรผันตามความเร็วรถ และจำกัดจำนวนการผลิตเพียง 130 คันตามรหัสตัวรถเท่านั้น

● นอกจากนี้ Phil Popham, CEO ของโลตัสยังระบุว่า Evija จะนับเป็นรถรุ่นแรกภายใต้การดูแลของเจ้าของใหม่อย่างจีลีด้วย (Zhejiang Geely Holding Group จากประเทศจีน ซึ่งถือหุ้น 51% ของโลตัสมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017) นั่นทำให้เราค่อนข้างแน่ใจในระดับหนึ่งว่า เทคโนโลยีไฟฟ้าของโลตัสนั้นน่าจะนำมาจากกลุ่มรถยุคใหม่ของวอลโว่, ลิงค์ แอนด์ โค หรือ โพลสตาร์ นั่นเอง

● รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดรออัพเดทอีกครั้งครับ ●

UPDATE 1 : 1,973 HP ไฮเปอร์คาร์ที่แรงที่สุดบนพื้นพิภพ

17 July, 2019 AT 1:49 PM

● โลตัสปล่อยภาพอย่างเป็นทางการของ Evija ออกมาแล้ว ตัวรถจะนับเป็นรถยนต์ในสายการผลิตที่วิ่งได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายบนท้องถนนที่มีพละกำลังมากที่สุดในโลก โดย Evija จะมีกำลังสูงสุดให้ใช้งานถึง 1,973 แรงม้า

● Evija เป็นรถรุ่นแรกของโลตัสที่ใช้แชสซีส์โมโนคอคแบบใหม่ ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ออกแบบในลักษณะชิ้นเดียว (ultra-lightweight : one-piece design) เฉพาะตัวแชสซีส์จะมีน้ำหนักสุทธิเพียง 129 กก. เท่านั้น ในขณะที่ตัวรถทั้งคันแบบไม่รวมของเหลวจะมีน้ำหนักรวม 1,680 กก. คิดเป็นน้ำหนักตัวที่บวกเพิ่มจาก Lotus Evora รุ่นพื้นฐานเพียง 238 กก. เท่านั้น

● ด้านอากาศพลศาสตร์จะมีระบบแอร์โรไดนามิคแบบแอคทีฟ สปอยเลอร์หลังทำงานแบบปีกหลังระบบ DRS (Drag Reduction System) ในรถ F1 สปอยเลอร์หลังจะยกตัวและเปิด-ปิดช่องระหว่างชั้นปีกเพื่อลดแรงต้าน ใช้เพิ่มความเร็วเฉพาะในทางตรงหรือโค้งที่กว้างมากๆ เท่านั้น (DRS จะแลกความเร็วกับการยึดเกาะชั่วคราว) โดยสปอยเลอร์หลังสไตล์ DRS นี้จะใช้งานได้เฉพาะการขับในโหมด Track เท่านั้น

● อีกหนึ่งจุดเด่นคือ กระจกมองข้างจะใช้กล้องแทนที่ โดยระบบจะเก็บกล้องเข้าไปในลำตัวของรถ และจะยืดออกมาด้วยกลไกเฉพาะตอนสตาร์ทรถแล้วเท่านั้น แสดงผลผ่านจอในห้องโดยสารที่ติดตั้งเอาไว้บริเวณแผงข้างประตูทั้ง 2 ฝั่ง ในขณะที่กระจกมองหลังก็จะใช้กล้องหลังแทนที่เช่นกัน แสดงผลผ่านจอในห้องโดยสารซึ่งติดตั้งเอาไว้ในตำแหน่งปกติ

● ช่วงล่างแบบใหม่มากับชุดระบบกันสะเทือนแบบปรับการตอบสนองอัตโนมัติ Spool Valve dampers เทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต แยกติดตั้งเป็น 3 ชุดต่อเพลาหน้า/หลัง ล้อแม็กนีเซียมขนาด 20 – 21 นิ้วน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ จับคู่ยาง Pirelli Trofeo R ส่วนชุดเบรคอลูมิเนียมเป็นของ AP Racing พร้อมดิสค์แบบคาร์บอนเซรามิค

● ห้องโดยสารออกแบบใหม่ทั้งหมด ดูทันยุคสมัยที่สุดเท่าที่โลตัสเคยมีมา ประตูเปิดแบบหมุนขึ้นทำมุม 90 องศา (Dihedral doors) ผู้ขับเป็นศูนย์กลางของรถ โลตัสเรียกการออกแบบแผงแดชบอร์ดทั้งหมดนี้ว่า floating wing มีจอฟูลดิจิทัลหลังวงพวงมาลัยบอกข้อมูลเพียงจุดเดียวเพื่อลดการรบกวนสมาธิผู้ขับ คอนโซลกลางใหม่แบบ ski slope-style ออกแบบเป็นก้านขนาดใหญ่คั่นผู้ขับและผู้โดยสาร แผงควบคุมบนคอนโซลกลางเป็นแบบสัมผัสพร้อมระบบสั่นเมื่อสัมผัส (ทำงานคล้ายๆ จอสมาร์ทโฟน)… ทว่าการควบคุมหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการขับ เช่น การปรับโหมดต่างๆ จะถูกโยกไปอยู่ที่พวงมาลัยทั้งหมด

● ชุดระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ของ Evija ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 4 ตัว แยกติดตั้งเพื่อหมุนล้อทั้ง 4 แบบ all-wheel drive กำลังสูงสุด 1,973 แรงม้า (HP หรือ 2,000 แรงม้า PS) แรงบิดสูงสุด 173.2 กก.-ม. (1,700 นิวตัน-ม.) อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ต่ำกว่า 3 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดเอาไว้ที่ 320 กม./ชม.

● แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ไม่ระบุความจุ ทว่าโลตัสให้ข้อมูลว่าสามารถวิ่งทำระยะทางได้สูงสุดถึง 400 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป ออนบอร์ดชาร์จเจอร์รองรับกำลังไฟได้สูงสุดถึง 800 กิโลวัทท์ สูงที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ยุคปัจจุบัน ผลงานพัฒนาร่วมกันระหว่างโลตัสและ Williams Advanced Engineering… ยังผลให้แบตเตอรี่แพคชุดนี้เป็นแบตเตอรี่แบบรีชาร์จซ้ำที่เร็วที่สุดในโลก

● อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีชุดชาร์จไฟที่มีกำลังสูงในระดับ 800 กิโลวัทท์ในเชิงพาณิชย์ ดังนั้นประสิทธิภาพในการชาร์จไฟด้วยชุดชาร์จ 350 กิโลวัทท์จะอยู่ที่ 12 นาทีในโหมดควิกชาร์จ (80% จากจำนวนเต็ม) ในขณะที่การชาร์จจนเต็มความจุจะใช้เวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น

● โลตัสจะผลิต Evija แบบจำกัดจำนวนเพียง 130 คันเท่านั้น ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,700,000 ปอนด์ หรือประมาณ 65.3 ล้านบาท… ใครสนใจโลตัสเปิดจองแล้วโดยจะต้องวางเงินมัดจำ 250,000 ปอนด์ หรือราว 9.6 ล้านบาท การผลิตจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2020 เป็นต้นไป ●