2020 KIA Soul EV ซับคอมแพคท์ไฟฟ้าเจนฯ ใหม่ เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในเอเชีย
ภาพ : motortrivia
● เกีย มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัวซับคอมแพคท์พลังงานไฟฟ้า KIA Soul EV รุ่นใหม่เจนเนอเรชั่น 3 เป็นครั้งแรกในเอเชีย ภายในงาน BIG Motor Sale 2019 พร้อมจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างดุเดือด 2,387,000 บาท
● นางสาวฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เกียเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่มีการเปิดราคา และจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คือ Soul EV โฉมก่อนหน้า โดยเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2560 ซึ่งถึงแม้ตลาดรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะยังเล็กอยู่ และมียอดขายที่ไม่สูงมากนัก แต่มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงมากขึ้นในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ เกียจึงได้ตัดสินใจนำ All New Soul EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โฉมใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ KIA Soul เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชีย ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล แกรนด์ มอเตอร์เซล 2019 และพร้อมให้เป็นเจ้าของก่อนใครที่งานนี้”
● ไฮไลท์พิเศษคือ KIA Soul EV BLACKPINK Edition รุ่นสีดำ-ชมพู ผลงานการออกแบบร่วมกันระหว่างเกีย และ BLACKPINK ซึ่งปัจจุบันอยู่ในฐานะ Global Brand Ambassador ของแบรนด์เกีย ความพิเศษคือมีเพียงคันเดียวในประเทศไทย ใครสนใจไปดูคันจริงกันได้ วันนี้ – 25 สิงหาคม 2562 ที่ไบเทค
All-New KIA Soul EV 3rd Gen
● Soul EV ใหม่ยังคงอยู่ในรูปโฉมของครอสโอเวอร์ทรงกล่องท้ายตัด ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มของ Hyundai Kona (Kona Electric เปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อต้นปี) ด้านหน้าดูเปรียวขึ้น ชุดโคมไฟหน้าทรงเรียวยาวเชื่อมต่อกันด้วยเส้นนอนบางๆ ด้านท้ายปรับทรงโคมไฟเป็นแนวตั้ง เพิ่มขาเป็นทรง L เชื่อมต่อกับด้านบนด้วยกรอบเป็นเส้นเดียวกับไฟเบรคดวงที่ 3 แนวหลังคาด้านหน้าและด้านหลังเป็นแบบลอยตัวทั้งหมด โดยผสมผสานระหว่างเส้นคาดดำหลังเสา C แบบ floating roof พร้อมประทับตราชื่อรุ่นลงไป และถมดำที่เสา A เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบบปีกหมวกบังแดด
● ห้องโดยสารใหม่เรียบร้อยสะอาดตาขึ้น มีลูกเล่นใหม่เป็นไฟ sound mood ที่สามารถซิงค์กับจังหวะเพลงที่กำลังเปิดอยู่ได้ อุปกรณ์มาตรฐานมีมาตรวัดดิจิทัลหลังวงพวงมาลัย, จอ HUD ขนาด 8 นิ้ว, จอทัชสกรีนส่วนกลางขนาด 10.25 นิ้ว ซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการใหม่รองรับฟังก์ชั่น split screen แสดงผล 2 แอพฯ พร้อมกันได้แบบสมาร์ทโฟน สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ผ่านบลูทูธ, Android Auto และ Apple CarPlay และจุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
● ชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS ที่เกียใช้ชื่อทางการค้าว่าแพคเกจระบบ Drive Wise ประกอบด้วย ระบบ Forward Collision Avoidance แจ้งเตือนในกรณีที่อาจเกิดการชนทางด้านหน้า, ระบบ Lane Keeping Assist ช่วยเตือนรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง, Lane Changing Assist ตรวจจับรถในเลนอื่นที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงขณะกำลังเปลี่ยนเลน, ระบบ Blind-spot Collision Warning เตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบ Driver Attention Warning ช่วยเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับอาจมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับ, ระบบ Rear Cross Collision Warning ตรวจจับวัตถุที่วิ่งตัดมาทางด้านหลังขณะถอย, ระบบ Smart Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติ และระบบ High Beam Assist ปรับไฟสูงอัตโนมัติ
● ชุดระบบขับเคลื่อนยกมาจาก KIA Niro EV ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวเอาท์พุท 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.1 กก.-ม. แบตเตอรี่แพคความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟภายใน 1 ชม. เท่ากับ 64 กิโลวัทท์-ชม. รองรับมาตรฐานเทคโนโลยี Combined Charging System (CCS) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับระบบชาร์จพลังงานทั้งแบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) และไฟฟ้ากระแสตรง (DC) โหมดในการขับเลือกได้ 4 แบบ Eco, Comfort, Sport และ Eco+ ซึ่งจะบริหารการทำงานของระบบปรับอากาศร้อน/เย็น, การจ่ายไฟ และระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรคแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
● ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค/ยกคันเร่ง Smart regenerative braking ใน Soul EV ยังสามารถควบคุมได้ผ่านแแป้นแพดเดิลชิฟท์บนพวงมาลัย ซึ่งระบบจะอนุญาตให้ผู้ขับชะลอความเร็วรถพร้อมเก็บเกี่ยวพลังงานจลน์ (ชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่) ได้ในเวลาเดียวกัน โดยปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เก็บกลับเข้าไปนั้น จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับหรือความเร็วรถในเวลานั้นๆ หรือขึ้นอยู่กับความเร็วของรถทางด้านหน้า (ในกรณีที่ใช้ Smart Cruise Control) ส่วนระยะทางในการขับต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อยู่ที่ประมาณ 391 กม. ตามมาตรฐาน EPA
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.kia.com/th ●
