August 22, 2019
Motortrivia Team (10071 articles)

Mazda Thailand Sneak Preview ลองขับมาสด้า 3 ใหม่ก่อนเปิดตัว

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : มาสด้า ประเทศไทย

●   มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม Mazda Thailand Sneak Preview ทดลองขับ มาสด้า 3 รุ่นใหม่ล่าสุดก่อนเปิดตัว ทั้งรุ่นซีดานและแฮทช์แบ็ก พร้อมเปรียบเทียบกับมาสด้า 3 รุ่นปัจจุบัน ณ สนามทดสอบยาง Yokohama Tire Test Center of Asia โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับสื่อมวลชน และ มร. โคอิชิโร ยามากุชิ ผู้จัดการโครงการ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น แนะนำแนวคิดการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่

จากซ้าย : นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   แบ่งกิจกรรมเป็น 2 ส่วนหลัก คือ การทดลองขับในสนาม ซึ่งแบ่งเป็น 2 สถานีย่อยคือที่ Multipurpose Track ดูแลโดย คุณคุณาวุฒิ วิบูลย์พันธุ์ เจ้าหน้าที่ส่วนงานผลิตภัณฑ์ และ Handling Track ดูแลโดย คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานประชาสัมพันธ์ อีกกิจกรรมเป็นการทำเวิร์คช็อป ซึ่งแบ่งเป็น 2 หัวข้อ ประกอบด้วยการอธิบายเรื่อง NVH, Craftsmanship และ HMI โดย คุณวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานผลิตภัณฑ์ และ Human Balance Exercise โดย มร. เคนโก ฟูคูชิมะ รองผู้จัดการโครงการ และ คุณนรินทร์ ลีลาวิวัฒน์ เจ้าหน้าที่อาวุโสส่วนงานผลิตภัณฑ์

●   คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข กล่าวในช่วงเปิดงานว่า มาสด้า3 เป็นรถยนต์รุ่นสำคัญกับมาสด้าทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก มาสด้า3 รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2547 สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย โดยมียอดจำหน่ายสูงถึง 30,000 คัน ส่วนรุ่นที่ 2 เปิดตัวเมื่อปี 2554 ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ชื่นชอบเครื่องยนต์ 1,600-1,800 ซีซี แต่มาสด้าสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้า ทำให้มียอดจำหน่าย 15,000 คัน ในเวลาเพียง 3 ปี ส่วนรุ่นที่ 3 เปิดตัวเมื่อปี 2557 เปลี่ยนเทคโนโลยีของโลกด้วย SKYACTIV Technology เทคโนโลยีในจินตนาการ แต่มาสด้าทำให้เป็นจริงด้วยรถยนต์ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน และมียอดจำหน่าย 33,000 คัน

มร. โคอิชิโร ยามากุชิ ผู้จัดการโครงการ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น

●   มร. โคอิชิโร ยามากุชิ ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของ ALL-NEW MAZDA3 เป็นการสร้างความประหลาดใจ และความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั่วโลก แนวทางของการพัฒนา คือ “ความปรารถนาของผู้คนทั่วโลก” มาสด้ามุ่งมั่นพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้โดยใช้หลักปรัชญาให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางของเราในการปรับปรุงทุกๆ ด้าน ได้แก่ การออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือน และความกระด้าง สมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม และความรู้สึกถึงคุณภาพอันปราณีต

●   ALL-NEW MAZDA3 มี 2 บุคลิกที่ดึงดูดใจเป็นอย่างมาก คือ วิญญาณความอิสระ มุ่งมั่น ที่จะทำตามความเชื่อของตนเอง และไม่ถูกจำกัดอยู่กับภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม ถูกนำเสนอในลักษณะของรถที่เป็นแบบรถด้านท้ายตัด หรือที่เรียกว่าแฮทช์แบค เพื่อให้บรรลุถึงรูปลักษณ์ดังกล่าว เราจึงใช้วิธีการที่ไม่เคยมีมาก่อนในการออกแบบ เพื่อกำจัดเส้นสายที่เป็นลักษณะจำเพาะออกทั้งหมด โครงสร้างตัวถังที่มีลักษณะโค้งมนและสวยงาม สะท้อนสภาพแวดล้อมโดยรอบ ดังนั้นโมเดลนี้จะสร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็นด้วยการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปตามฤดูกาล และเวลาของแต่วัน เราได้รักษารถให้อยู่ในกลุ่มของ C-Segment โดยนำข้อจำกัดทั้งหมดออก และขยายความยาวโดยรวม เอาชนะความท้าทายด้านเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ฝากระโปรงหน้ารถและท้ายรถลาดลง สัดส่วนที่ได้นั้นมีความโฉบเฉี่ยวและสง่างาม ทำให้เกิดความประทับใจเมื่อแรกพบ

●   มาสด้าต้องการทำให้การขับขี่มีความตึงเครียดน้อยลงและเป็นธรรมชาติมากขึ้นสำหรับทุกคน จึงตัดสินใจศึกษาทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเกี่ยวกับสรีระของมนุษย์ ธรรมชาติการเดินหรือวิ่งของมนุษย์ มีการขยับขา กระดูกเชิงกราน และกระดูกสันหลัง เพื่อให้สามารถควบคุมการแกว่งศีรษะได้โดยการขยับกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มาสด้าได้นำเอาท่วงท่าตามธรรมชาตินี้ มาพัฒนาให้เหมาะสมกับท่านั่งขับขี่ในมาสด้า ออกแบบและเชื่อมโยงองค์ประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อดึงขีดความสามารถตามหลักธรรมชาติของมนุษย์ในการรักษาสมดุล

●   ผลลัพธ์ที่ได้ คือ SKYACTIV-Vehicle Architecture ซึ่งเป็นเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังใหม่ ที่ทำให้การขับขี่ในรถดูเป็นธรรมชาติ และปราศจากความตึงเครียดเหมือนการเดินบน 2 เท้าของคุณเอง นอกจากนี้ยังมีความเงียบในห้องโดยสารที่สะดวกสบาย โดยไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่ระดับเสียงรบกวนเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับเสียงที่เดินทางตามเวลา และทิศทางที่มาของเสียง เราได้สร้างระบบเสียงที่ชัดเจน และถ่ายทอดเสียงโดยมีลำโพงอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปยังโสตประสาทของผู้ขับขี่โดยตรง และสร้างพื้นที่ห้องโดยสารที่สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน

คงเอกลักษณ์ เพิ่มความโดดเด่น

●   รูปลักษณ์ภายนอกเน้นความปราดเปรียว โดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงเอกลักษณ์ รุ่นแฮทช์แบค เน้นความสปอร์ตด้วยสีดำ ส่วนรุ่นซีดานหรูด้วยโครเมียม กระจังหน้าตอนยังไม่ติดป้ายทะเบียนก็ดูสวยดี ด้านข้างเรียบๆ ไม่มีเส้นสาย เน้นการสะท้อนของแสงทำให้เกิดมิติ ส่วนด้านท้ายต่างกันชัดเจน รุ่นแฮทช์แบค ดูกลมมน ส่วนรุ่นซีดานเน้นเหลี่ยมสัน มิติตัวถังเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นปัจจุบัน จะไม่แตกต่างกันมากนัก ขนาดโดยรวมใกล้เคียงกัน

มิติตัวถังของรุ่นแฮทช์แบ็คALL-NEW MAZDA3MAZDA3 รุ่นก่อน
ความยาวรวม (มม.)4,6604,470
ความกว้างรวม (มม.)1,7951,795
ความสูงรวม (มม.)1,4351,465 รวมเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ฐานล้อ (มม.)2,7252,700
ความกว้างช่วงล้อ (หน้า/หลัง) (มม.)1,570/1,5801,555/1,560
ระยะต่ำสุดจากพื้น (พร้อมคนขับ 75 กก.) (มม.)135155
มิติตัวถังของรุ่นซีดานALL-NEW MAZDA3MAZDA3 รุ่นก่อน
ความยาวรวม (มม.)4,6604,580
ความกว้างรวม (มม.)1,7951,795
ความสูงรวม (มม.)1,4401,450 รวมเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ฐานล้อ (มม.)2,7252,700
ความกว้างช่วงล้อ (หน้า/หลัง) (มม.)1,570/1,5801,555/1,560
ระยะต่ำสุดจากพื้น (พร้อมคนขับ 75 กก.) (มม.)135155

ภายในเนี๊ยบและดูดี

●   เช่นเดียวกับภายนอก ห้องโดยสารของมาสด้า 3 ใหม่ เน้นความเรียบง่าย ตัดสิ่งที่จะรบกวนสายตาออกไป แต่ก็ไม่ได้เรียบจนดูโล่ง สวิตช์ควบคุมระบบต่างๆ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบและเข้าถึงได้ง่าย ลองกดใช้งานดูแล้วรู้สึกถึงความหนักแน่น วัสดุภายในดูดี เข้ากับการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย มาตรวัดผสมผสานระหว่างดิจิตอลกับอะนาลอค พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน ขนาดวงใหญ่ไปนิด ประดับด้วยแถบเส้นโครเมียมในจุดต่างๆ ช่วยให้ตัวรถดูมีลูกเล่น

Multipurpose Track

●   สถานีแรกที่ได้ทดลองขับ จัดที่ลานเอนกประสงค์ ได้ลองอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเข้าโค้ง และการขับสลาลม เปรียบทียบกับรุ่นปัจจุบันแล้วพบว่า ดีกว่าในทุกด้าน อัตราเร่งไม่ถึงกับเร็วกว่ามากมาย แต่ได้เรื่องความต่อเนื่องของเกียร์ และการตอบสนองคันเร่งที่ทันใจ เร่งถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วลองแตะเบรก ให้ความรู้สึกที่ดี มีแรงดูด และให้แรงเบรกที่สัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่กดแป้นเบรก ช่วงสลาลมควบคุมง่ายกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใช้ความเร็วได้สูงกว่า แม้ Instructor ที่นั่งไปด้วยจะบอกให้พยายามใช้ความเร็วเท่ากัน เพื่อให้เห็นความแตกต่าง ในช่วงสลาลม มาสด้า 3 ใหม่ ควบคุมง่าย เบาแรง นิ่งหนึบและนุ่มนวล พวงมาลัยไม่เบาเกินไป ออกแนวสปอร์ตนิดๆ ตอบสนองเป็นธรรมชาติ สม่ำเสมอ และแม่นยำ

Handling Track

●   ขับเปรียบเทียบระหว่างรุ่นใหม่กับรุ่นปัจจุบันเหมือนเดิม เน้นไปที่การควบคุมรถที่ความเร็วไม่เกิน 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งเรื่องการเก็บเสียง และเรื่องความสั่นสะเทือน ซึ่งมาสด้า 3 ใหม่ ทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ให้อารมณ์การขับใกล้เคียงรถเซกเมนต์สูงกว่า คือ นิ่ง เงียบ นุ่มนวล แต่ยังคงมีความคล่องตัว และการตอบสนองที่ฉับไว เครื่องยนต์อาจไม่ใช่จุดเด่นของมาสด้า 3 รุ่นใหม่นี้ แต่สิ่งที่ปรับปรุงขึ้นมากคือ คุณภาพการขับ ที่ทำได้ดีจริงๆ

●   ขับเสร็จแล้วไปต่อด้วยเวิร์คช็อปที่เน้นเรื่องเสียงและการสั่นสะเทือน การลดจำนวนและขนาดรู บนชิ้นส่วนต่างๆ เพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้าง และเพิ่มการ Damping ในจุดรอยต่อต่างๆ เพื่อลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร รวมทั้งระบบเครื่องเสียงที่ออกแบบมาสำหรับการฟังอย่างจริงจัง เน้นเวทีเสียงทั้งเฉพาะผู้ขับหรือสำหรับทุกคนในห้องโดยสาร วางตำแหน่งลำโพงในจุดที่เหมาะสมและให้เวทีเสียงที่ดีที่สุด อีกเวิร์คช็อป เป็นการเรียนรู้ธรรมชาติการเคลื่อนไหวของมนุษย์ และนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบเบาะนั่ง เพื่อลดความเมื่อยล้าและลดอาการเมารถ ทำให้รู้ว่ามาสด้ามีความตั้งใจในการพัฒนามาสด้า3 ใหม่ ไม่ละเลยแม้ในรายละเอียดปลีกย่อย จึงไม่แปลกใจที่แม้จะได้สัมผัสแค่ช่วงสั้นๆ ก็รู้สึกได้ว่ามาสด้า3 ใหม่ ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งดีไซน์ คุณภาพของตัวรถ อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ รวมทั้งความรู้สึกในการขับซึ่งสัมผัสได้ชัดเจนที่สุด

ข้อมูลเบื้องต้น ALL-NEW MAZDA3

●   แนวคิดการออกแบบ KODO DESGN หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 2010 และถูกเปิดตัวด้วยรูปลักษณ์ผ่านการเปิดตัวรถรุ่น CX-5 และ MAZDA6 ในปี 2012 และกลายเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มมูลค่าระดับโลกของแบนต์มาสด้า ที่มีมิติและความชับซ้อนมาสู่ระดับที่สูงขึ้น เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนใหม่เพื่อยกระดับการออกแบบรถยนต์ให้มีความประณีตมากยิ่งขึ้น

●   เป้าหมายของวิวัฒนาการใหม่ของการออกแบบ KODO DESGN คือ การแสดงออกถึงรูปแบบใหม่ของความสง่างาม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น รถยนต์คันแรกที่รวบรวมภาษาการออกแบบออกแบบใหม่ของมาสด้า คือ รถต้นแบบ RX-VISION ที่แสดงในงาน Tokyo Motor Show 2015 และรถต้นแบบ VISION COUPE ที่จัดแสดงในงานเดียวกันมื่อปี 2017 องค์ประกอบที่ได้รับการยกย่องอย่างพิถีพิถัน สร้างการออกแบบที่สะอาดและสวยงาม ผสมผสานกับการเล่นแสงเงาและการสะท้อนที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้ได้สไตส์ที่หรูหรา

●   ALL-NEW MAZDA3 เป็นรูปแบบของกระบวนการในการผลิตครั้งแรกที่นำการออกแบบ KODO Design มาใช้ผสานกับ “การเคลื่อนไหวด้วยส้นสายเส้นดียว” เพื่อให้เกิดความเรียบง่ายที่สุดในองค์ประกอบโดยรวม ทิศทางของแสงและเงาสะท้อนให้เห็นการเคลื่อนไหว และสะท้อนไปบนตัวรถทำให้เกิดการแสดงออกที่มีนัยสำคัญ และน่าทึ่งเกินกว่าการออกแบบในรุ่นก่อนหน้า

●   เป้าหมายอีกประการหนึ่งในการออกแบบ ALL-NEW MAZDA3 คือ การออกแบบรถยนต์แบบแฮทช์แบคให้มีอารมณ์มากกว่าเดิม ในขณะที่รถซีดานมีเป้าหมายที่จะนำเสนอสัดส่วนที่หรูหรามากขึ้น แม้ว่าจะใช้ชื่อรุ่น MAZDA3 เหมือนกัน แต่รูปแบบทั้ง 2 นั้นแสดงถึงบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การออกแบบภายนอกที่มี 2 บุคลิกที่แตกต่างกัน ในการออกแบบรถแฮทช์แบคและซีดานของ ALL-NEW MAZDA3 ทีมพัฒนาได้มองถึงคุณค่าและบุคลิกลักษณะของแต่ละแบบอย่างถี่ถ้วน

●   รุ่นแฮทช์แบคนำเสนอรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและเย้ายวน ด้วยการดึงดูดอย่างไม่สามารถลดละสายตาได้เลย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกของประสบการณ์ที่นำตื่นเต้น ในทางตรงกันข้าม ความสวยงาม และดูสะอาดสะอ้านและทันสมัยของรุ่นซีดาน แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่และความประณีต ผลที่ได้คือตัวถัง 2 ประภทที่มีบุคลิกที่แตกต่งกัน ดังนั้นคนๆ หนึ่งอาจคิดว่ารถทั้ง 2 แบบเป็นโมเดลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

แนวคิดการออกแบบรุ่นแฮทช์แบค: หนักแน่นและเร้าใจ

●   แนวคิดการออกแบบสำหรับแฮทช์แบค มุ่งไปที่การสร้างรถที่ดูแข็งแกร่งและมีมนต์เสน่ห์ดึงดูด ซึ่งสื่อถึงการแสดงออกที่สดใหม่ของสไตล์แฮทช์แบค มุมมองด้านข้างของตัวรถใช้การสะท้อนแสงและเงา ที่สร้างการแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา โดยไม่ต้องใช้แนวเส้นตามลำตัวรถ เสา C ที่ดูทรงพลัง ช่วยสร้างการออกแบบด้านหลัง อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งห้องโดยสารและตัวถังดูเป็นรถที่แข็งแกร่ง สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความมีเสน่ห์ดึงดูดทุกสายตา สีเมทัลลิกเข้มของปีกที่เป็นสัญลักษณ์ เน้นความเด่นของรถสปอร์ตสไตล์แฮทช์แบค และแตกต่างจากรุ่นซีดาน

แนวคิดการออกแบบรุ่นชีดาน: โฉบเฉี่ยวและหรูหราสง่างาม

●   ในขณะที่สอดคล้องกับสไตล์ซีดานแบบดั้งเดิม โดยมีฝากระโปรงหน้า ห้องโดยสาร และกระโปรงท้ายเป็นองค์ประกอบ 3 อย่างที่ชัดเจน ALL NEW MAZDA3 ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับองค์ประกอบเหล่านั้น และบรรลุความงามระดับใหม่ที่เหมาะกับแบรนด์มาสด้า แนวคิดการออกแบบสำหรับซีดานนั้น “โฉบเฉี่ยวและหรูหราสง่างาม” ไหลลื่นจากด้านหน้าไปด้านหลังด้วย “การเคลื่อนไหวด้วยเส้นสายเส้นเดียว” ตัวถังนั้นนำเสนอสัดส่วนที่ทรงพลังด้วยรูปทรงที่นุ่มนวลและสง่างาม การใส่ใจรายละเอียดในการเคลื่อนไหวของพื้นผิวที่เรียบทำให้อากาศไหลเรียบ

การอัพเดทสู่ Mazda MZD Connect

●   ระบบเชื่อมต่อรถยนต์ใช้งานง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ในรถยนต์มีข้อมูลมากขึ้น Mazda MZD Connect มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย และเติมพลังชีวิตด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ การขับขี่ในรถที่เชื่อมต่ออยู่นั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย Mazda MZD Connect ใน ALL-NEW MAZDA3 ทั้งหมดได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้น จนสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าที่ผ่านมา มีการปรับปรุงประสิทธิภาพพื้นฐานของการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น และระบบมีคู่มือผู้ใช้อิเล็กทรอนิกส์

SKYACTIV-Vehicle Architecture รุ่นใหม่

●   ทั้งการเดินและวิ่งเกี่ยวข้องกับการโยกและการเคลื่อนไหว แต่การกระทำเหล่านี้ไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกเวียนศีรษะ เนื่องจากมนุษย์มีความสามารถในการควบคุมเท้า อุ้งชิงกราน และกระดูกสันหลัง ในลักษณะที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างสมดุล และศีรษะเคลื่อนไหวหน้อยที่สุด มาสด้าต้องการให้ผู้คนใช้ความสามารถตามธรรมชาตินี้ในรถได้เช่นกัน

●   เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ มาสด้าได้พัฒนาเบาะนั่งที่รองรับกระดูกเชิงกรานอย่างมั่นคงในตำแหน่งตั้งตรง ซึ่งกระดูกสันหลังของผู้ขับขี่จะรักษาเส้นโค้งรูปตัว S ตามธรรมชาติ รวมทั้งโครงสร้างตัวถังและช่วงล่างที่เป็นเสมือนเท้าของนุษย์ ในการส่งผ่านอินพุทจากถนนได้อย่างราบรื่นสู่กระดูกเชิงกราน ทุกแง่มุมของการออกแบบที่มนุษย์เป็นศูนย์กลางนี้ ถูกดำเนินการเพื่อทำงานร่วมกันในภาพรวม เป้าหมายคือเพื่อให้คนอยู่ในตำแหน่งที่นั่งตามธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบายขณะขับขี่ สถาปัตยกรรมยานพาหนะของ SKYACTIV ตระหนักถึงความลงตัวของความรู้สึกมนุษย์ในด้านความสะดวกสบายในการขับขี่และการทรงตัวที่ไม่พึงประสงค์ หรือองค์ประกอบที่ไม่เกี่ยวข้อง

เบาะนั่งที่ช่วยให้ผู้โดยสารคงท่าทางที่ดี

●   เบาะนั่งนำโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อรักษาเส้นโค้งรูปตัว S ตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง เบาะรองนั่งและเบาะรองหลังช่วงล่างรองรับกระดูกเชิงกรานส่วนล่าง กระดูกเชิงกรานส่วนบน และต้นขา เพื่อให้กระดูกเชิงกรานอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง ในขณะเดียวกันบาะนั่งด้านบนยังช่วยดึงจุดศูนย์ถ่วงของซี่โครง

●   ยิ่งไปกว่านั้นการปรับรูปทรงเบาะนั่งและเบาะหลัง พร้อมการปรับค่าคงที่ของสปริงสำหรับแต่ละส่วนให้เหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขยับเชิงกรานและกระดูกสันหลังเพื่อปรับสมดุลของจุดศูนย์ถ่วงร่างกาย โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก นอกจากนี้ยังช่วยให้ศีรษะผู้ขับขี่มันคงตามธรรมชาติ เพื่อตอบสนองต่ออินพุทจากพื้นผิวถนน เนื่องจากท่าทางนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการรองรับร่างกาย ผู้ขับขี่จึงมีความเหนื่อยล้าน้อยลง และรู้สึกสบายขึ้นแม้จะขับเป็นเวลานาน

ระบบกันสะเทือนจะส่งสัญญาณเข้าถนนด้วยวิธีการที่แม่นยำและเป็นเชิงเส้น

●   ระบบกันสะเทือนของ ALL-NEW MZDA3 ได้รับการออกแบบตามแนวคิดของการส่งกำลังที่ราบรื่นไปยังมวลใต้สปริงเมื่อเวลาผ่านไป เป้าหมายคือการเพิ่มเลเยอร์ใหม่ที่มีความแม่นยำสูง ที่มาสด้ามุ่งมั่นที่จะนำเสนอมาโดยตลอด – การควบคุมตามความตั้งใจของผู้ขับขี่ – และตระหนักถึงความมั่นคงขณะขับขี่ ในขณะที่ยังคงสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ระบบกันสะเทือนยังคงใช้ MacPherson Struts ที่มีการพัฒนาอยู่ด้านหน้า และการติดตั้งทอร์ชั่นบาร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ด้านหลัง

มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการเบรกที่ยอดเยี่ยม

●   ในอุดมคติ คือ การมีระบบเบรกที่ตอบสนองทันทีต่อการเหยียบของผู้ขับขี่ ด้วยแรงเบรกที่นุ่มนวล และรักษาระดับความแข็งแรงให้คงที่ นอกจากนี้ยังรวมถึงการถอนเบรกอย่างราบรื่นเมื่อค่อยๆ ยกเท้าออกจากเบรก หากพฤติกรรมของรถคันนี้ประสบความสำเร็จ ผู้ขับขี่ในห้องโดยสารจะสามารถควบคุมรถได้อย่างสมดุล และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย

เทคโนโลยีควบคุมรุ่นใหม่ของ SKYACTIV-Vehicle Dynamics

●   การควบคุม G-Vectoring ที่ถูกพัฒนา (GVC Plus) “GVC Pus” ที่ถูกพัฒนาขึ้นถูกติดตั้งเฉพาะรุ่น AL-NEW MAZDA3 ซึ่งเป็นการใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหักเหของตัวรถ (Yaw Moment) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus เพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยไปที่ล้อด้านนอกทำให้เกิดโมเมนต์ที่มีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิม

●   ระบบรับรู้ช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ราบเรียบอย่างต่อเนื่องของการหักเห (Yaw) การโคลงของตัวรถ (Roll) และการกระดกหน้า-หลัง (Pitch) แม้อยู่ภายใต้แรงเข้าสู่ศูนย์กลางมาก เป็นการปรับปรุงความสามารถของยานพาหนะ ในการตรวจสอบการหมุนพวงมาลัยอย่างฉับพลันและมุมทางออกจากโค้งที่แม่นยำ นอกเหนือจากการปรับปรุงการบังคับรถในการหลบหลีกจากการปะทะแบบฉุกเฉิน GVC Pus ยังให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมเมื่อ เปลี่ยนเลนบนทางหลวงและเมื่อขับบนหิมะหรือพื้นผิวถนนลื่นอื่นๆ

เงียบสงบสบาย แต่ได้ยินเสียงที่สำคัญในการขับขี่

●   มาสด้าคำนึงถึงสมรรถนะของเสียง การสั่นสะเทือน และความกระด้าง หรือ NVH (Noise, Vibration and Harshness) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบาย เช่นนี้จะใช้มาตรการที่หลากหลาย และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างชิ้นส่วนในการพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ รวมถึงการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมนุษย์ และ ALL-NEW MAZDA3 จึงเป็นหนึ่งในนั้นด้วย เนื่องจากความคิดนี้ถูกนำไปใช้ในทุกด้านของการออกแบบ ตัวอย่างเช่น ผู้โดยสารได้สัมผัสกับความสงบสุขที่แยกออกจากโลกภาย นอกเมื่อเข้าไปในห้องโดยสารและปิดประตู จากนั้นเมื่อไปที่ถนนจะได้ยินเฉพาะเสียงที่จำเป็นเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือความเงียบที่มากขึ้น

การศึกษาวิจัยในมนุษย์เพื่อแสวงหา “ความเงียบสงบคุณภาพสูง”

●   มาสด้าได้นำผลการศึกษาวิจัยในมนุษย์มาใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ในการเน้นไปที่คุณลักษณะของเสียง 3 ประการ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสาร คือ ระดับเสียง การเปลี่ยนแปลงระดับเสียง และโทนเสียงตามเวลา รวมถึงทิศทางที่เสียงเกิดขึ้น

●   เป้าหมายของ AL-NEW MAZDA3 นั่นเหนือกว่ามาตรการที่ผ่านมา เพื่อให้ห้องโดยสารเงียบขึ้นโดยควบคุมเสียงที่ได้ยินและกำจัดเสียงไม่พึงประสงค์ ลดเสียงรบกวน และลดระดับเสียงขณะที่ความผันผวนและทิศทางสียงถูกควบคุม เป้าหมายสุดท้ยคือการให้ “ความเงียบสงบคุณภาพสูง” ที่เป็นที่พอใจของผู้โดยสารทุกคน

●   เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มาสด้าได้ประกาศ “Sustainable ZOOM-ZOOM 2030” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ระยะยาว ในการพัฒนาเทคโนโลยี เผยให้เห็นว่ามาสด้าวางแผนที่จะใช้ความพึงพอใจในการขับขี่ เพื่อหาวิธีในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโลกของเรา สังคม และผู้คน ดังนั้น ALL-NEW MAZDA3 จึงถูกนำเสนอด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย เพื่อทำให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวเป็นจริง โดยร่วมกับเทคโนโลยีหลักที่เราเรียกว่า SKYACTIV-Vehicle Architecture นอกจากนี้มาสด้ายังเป็นรายแรกที่นำเสนอการออกแบบของ KODO DESIGN มาใช้มากขึ้น ซึ่งเป็นการเผยให้เห็นถึงแก่นแท้ของสุนทรียศาสตร์ในแนวทางของญี่ปุ่นตามสไตล์ที่หรูหราและเรียบง่าย

●   MAZDA3 ถือเป็นโมเดลเชิงกลยุทธ์ระดับโลก ที่ส่งผลให้มาสด้าเติบโตทั้งในเรื่องของการสร้างแบรนด์และธุรกิจ นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในโลกมือปีพศ. 2546 รถยนต์รุ่นนี้มียอดขายมากกว่า 6 ล้านคัน ซึ่งได้ส่งมอบความสุข ความสนุกสนานในการขับสไตล์มาสด้าให้กับลูกค้าทั่วโลก และสร้างความตระหนักถึงแบรนด์มาสด้าในระดับสากล ในฐานะที่เป็นรุ่นหลักของกลุ่มผลิตภัฑ์ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุด ในด้านวิศวกรรมยานยนต์และการผลิตของมาสด้า ที่มีการดำเนินงานของโรงานผลิตมาสด้าทั่วโลก เราต้องการให้รถมาสด้าเข้ามาเติมเต็มชีวิตของลูกค้า ดังนั้น ลูกค้าจึงมองว่เราเป็นส่วนสำคัญในการเดินทางของเขาตลอดชีวิต และเกิดความผูกพันธ์กับแบรนด์ในระยะยาว

●   มาสด้าจะเริ่มต้นยุคใหม่นี้ด้วย ALL NEW MAZDA โมเดลที่มีจุดประสงค์พื่อผู้ซื้อรถยนต์เป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า และกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขา กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ เป็นความมุ่งมั่นของเราที่จะทำให้มาสด้าพรีเมียม เป็นจริงขึ้นมาได้


Mazda Thailand Sneak Preview : All-New 2019 Mazda3