August 22, 2019
Motortrivia Team (10069 articles)

Mercedes-Benz A-Class เจนเนอเรชัน 4 ที่สุดของความพรีเมียมในกลุ่มคอมแพคท์

เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●   เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัวรถหรูในกลุ่มคอมแพคท์คาร์ Mercedes-Benz A-Class รุ่นใหม่ เจเนอเรชันที่ 4 เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เบื้องต้นรุ่นที่ทำการจำหน่ายในไทยคือ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมเครื่องยนต์บล็อคใหม่ที่มีอัตราการคายมลพิษต่ำลง ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,490,000 บาท

●   มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ (Roland Folger) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ครั้งแรกจากการเปิดตัว Mercedes-Benz A-Class ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปี 2540 นับเป็นเวลากว่า 20 ปี ที่รถตระกูล A-Class ได้รับการพัฒนาสมรรถนะในด้านต่างๆ รวมถึงการปรับรูปแบบดีไซน์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ A-Class ได้รับการตอบรับที่ดีจากสาวกดาวสามแฉกจากทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก”

มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   “ในปีที่ผ่านมา รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ถูกจำหน่ายทั่วโลกทุกๆ 4 คันจะเป็นรถยนต์ คอมแพ็คคาร์ 1 คัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในตลาดพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์ คือ การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของรถยนต์ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในรถยนต์ ตลอดจนความสามารถในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมในด้านสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และมอบความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อย่างเหนือระดับ”

●   “ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความมุ่งมั่นในการสานต่อความสำเร็จของรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ The new Mercedes-Benz A-Class เจเนอเรชันที่ 4 ในรุ่น Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic เจาะกลุ่มเป้าหมายยังก์เจเนอเรชัน เติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ปัจจุบันบริษัทฯ นำเสนอใน 5 รุ่นย่อยได้แก่ CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic (Night Edition), CLA 250 AMG Dynamic (WhiteArt Edition), GLA 200 Urban และ GLA 250 AMG Dynamic โดย Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตเร้าใจทั้งดีไซน์ภายนอก และภายในที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูล A-Class อยู่อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด เครื่องยนต์ที่ทันสมัยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยม และมีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ชื่นชอบดิจิทัลไลฟ์สไตล์ และให้ความสำคัญกับการสร้างบาลานซ์ให้กับการใช้ชีวิต”

●   “นอกจากนี้ A-Class 4 ประตู ยังมาพร้อมกับระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดอย่าง MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ โดยรถยนต์รุ่นนี้ ถือเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ระบบ MBUX จะทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง ลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงการบริการอื่นๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดายมากขึ้น”

●   “ยังมีความสามารถใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นการจากทำงานร่วมกันของสองระบบนี้อีกมากมาย เช่น การสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับการสั่งการด้วยภาษาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ (Natural speech recognition) ทำให้ระบบเข้าใจภาษาอังกฤษในหลายสำเนียงได้ เพียงแค่พูดคำว่า ‘Hey, Mercedes’ เพื่อเริ่มต้นการทำงาน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาธิกับการขับรถได้มากขึ้นระหว่างการสั่งการระบบ เป็นต้น”

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic

●   Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic เป็นหนึ่งในรุ่นรถที่เมอร์เซเดสใช้การออกแบบในรูปแบบใหม่ (new design body language) ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ที่เมอร์เซเดสใช้เป็นแนวทางมาโดยตลอด ตัวรถเน้นความเรียบง่าย ให้ความสำคัญกับผิวสัมผัส โครงสร้างภายนอกมีลักษณะการตัดทอนเส้นสายที่ไม่จำเป็นออกไปในแบบ AMG และมีช่องว่างให้น้อยที่สุด ฝากระโปรงหน้าลาดต่ำ กระจังหน้าแบบ diamond radiator grille ตราสัญญลักษณ์เมอร์เซเดสวางอยู่บนเส้นเดี่ยวแนวนอน ชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance เพรียวบาง มีกรอบเคลือบโครเมียมทำงานร่วมกับไฟวิ่งกลางวันแบบ LED ด้านข้างเด่นด้วยกระจกมองข้างที่อยู่ในระนาบเดียวกับขอบล่างของกระจกห้องโดยสาร และล้อขนาด 18 นิ้วแบบ 5 ก้านคู่

●   ห้องโดยสารจัดวางอุปกรณ์ในสไตล์สปอร์ตแบบ AMG พื้นที่บริเวณช่วงไหล่, ข้อศอก และเหนือศีรษะ มากกว่าค่าเฉลี่ยของรถในกลุ่มเดียวกัน ห้องโดยสารตอนหลังเข้า-ออกได้ง่าย ห้องเก็บสัมภาระมีความจุ 420 ลิตร ช่องกระโปรงหลังกว้าง 950 มม. มีระยะเส้นทแยงมุมจากตัวล็อคถึงขอบล่างของกระจกหลัง 462 มม. สามารถใส่หรือนำสัมภาระที่มีขนาดใหญ่เข้า-ออกได้สะดวก

●   อุปกรณ์มาตรฐานมีพวงมาลัยสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Nappa เบาะหุ้มหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre ทั้งหมด เบาะผู้ขับมีหน่วยบันทึกความจำ เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 แผงแดชบอร์ดมีฝาครอบทรงปีกนกที่ทอดยาวตั้งแต่ประตูหน้าผ่านคอนโซลกลางแบบไม่มีรอยต่อ เชื่อมไปจนถึงด้านบนของแผงมาตรวัดฝั่งผู้ขับ จอคู่ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้วเชื่อมต่อกัน 2 จอ จัดวางในลักษณะลอยตัว แยกการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ มาตรวัดต่างๆ บริเวณหลังวงพวงมาลัย และจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนต์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้จอฟูลดิจิทัลในกลุ่มรถคอมแพ็คท์คาร์ สามารถควบคุมได้ทั้งบนหน้าจอและ Touchpad ไฟแอมเบียนท์เลือกได้ 64 สี มากกว่ารุ่นก่อนหน้า 5 เท่า และยังสามารถผสมสีต่างๆ เพิ่มเป็นสีพิเศษได้อีก 10 สี

●   ชุดระบบความปลอดภัยได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เช่น ระบบช่วยหยุดรถ Active Brake Assist รุ่นใหม่ สามารถลดความเสียหายหรือป้องกันการพุ่งชนกับรถข้างหน้าที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า กำลังชะลอ หรือรถที่จอดอยู่ข้างหน้า และยังช่วยป้องกันไม่ให้รถเฉี่ยวชนกับผู้ที่ข้ามถนนหรือผู้ใช้จักรยานได้เช่นกัน และยังเป็นครั้งแรกของรถคอมแพ็คท์คาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มาพร้อมกับระบบช่วยจอดพร้อมกล้องหลัง Parking package with reversing camera อีกด้วย

●   นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีที่นับเป็นไฮไลท์ใหม่ ได้แก่บริการ Mercedes me connect สามารถเชื่อมต่อลูกค้าเข้ากับตัวแทนจำหน่าย ทำงานร่วมกับระบบมัลติมีเดียรุ่นใหม่ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) โดยฟีเจอร์หลักๆ ที่ควบคุมได้ผ่านแอพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน มีอาทิ:

●   Mercedes-Benz emergency call system ทำงานอัตโนมัติในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เซ็นเซอร์จะส่งตำแหน่งของรถให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที, Vehicle Monitoring เช็คตำแหน่งล่าสุด หรือเส้นทางการขับได้ผ่านแอพ Mercedes me connect, Vehicle Set-up ตรวจสอบสภาพรถได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถในขณะนั้น และส่งข้อมูลผ่านแอพให้ทั้งผู้ขับและศูนย์ซ่อมบำรุง, Maintenance Management ช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถเข้าตรวจสภาพ โดยจะตั้งวันและเวลาเข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้อัตโนมัติ, Remote Engine Start สั่งให้ตัวรถเปิดแอร์เพื่อทำความเย็นล่วงหน้า หรือสั่งเปิด-ล็อคประตูรถจากระยะไกล เป็นต้น ปิดท้ายด้วย Online Booking สำหรับนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ

●   เมอร์เซเดสระบุว่า ชุดระบบ MBUX รุ่นใหม่ สามารถเรียนรู้และจดจำความต้องการของผู้ขับได้จากความสามารถของ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ยังผลให้ MBUX เป็นระบบมัลติมีเดียที่สามารถปรับแต่งหรือปรับเปลี่ยนตามลักษณะการใช้งานจริงของเจ้าของรถได้ ซึ่งความสามารถหลักๆ มีอาทิ:

●   Navigation ระบบนำทางแบบใหม่ที่มาพร้อม GPS ที่แม่นยำขึ้น แผนที่แสดงผลแบบ 3D ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AR พร้อมรายงานสภาพถนนและสถานะของร้านค้าต่างๆ ได้แบบรีลไทม์, Personal profiles จดจำข้อมูลของผู้ขับแต่ละคน เช่น ลักษณะการปรับเบาะ สีไฟในห้องโดยสารที่ชอบ สถานที่ที่ไปเป็นประจำ ฯลฯ สามารถจดจำข้อมูลของผู้ขับได้ 22 โปรไฟล์ และ Linguatronic ระบบสั่งการด้วยเสียงที่รองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน และภาษาฝรั่งเศส แบบทุกสำเนียงทั่วโลก (natural speech recognition) สามารถรับรู้และเข้าใจเกือบทุกคำที่ปรากฏอยู่ในระบบอินโฟเทนเมนท์ของรถ ผู้ขับสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยคำสั่ง “Hey, Mercedes”

●   Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1,332 ซีซี. อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.4 กก.-ม. ที่ 1,620 รอบ/นาที อัตราการคายคาร์บอนไดในไอเสีย 119 – 124 กรัม/กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 19.2 กม./ลิตร

●   เมอร์เซเดส ประเทศไทย พร้อมจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่าย 33 แห่งทั่วประเทศ หรือในงาน Mercedes Star Fest ที่จะเริ่มคาราวานจัดแสดงทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2562 สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือ facebook.com/MercedesBenzThailand  ●


2019 Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic

2019 Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic : Official