September 24, 2019
Motortrivia Team (10069 articles)

Chevrolet Captiva Premier ช่วงล่างเด่น ห้องโดยสารกว้าง

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : เชฟโรเลต ประเทศไทย

●   ช่วงต้นเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา เชฟโรเลต ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์เอนกประสงค์ เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ ผลงานของบริษัทร่วมทุน SAIC-GM-Wuling Automobile ผลิตขึ้นจากแนวคิด 3s ประกอบด้วย Style โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน Space พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางเอนกประสงค์ และ S ตัวสุดท้ายคือ Smart Technology เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย ทำตลาดแบบนำเข้าจากอินโดนีเซีย ก่อนเปิดตัวมีการทดสอบขับทั่วโลกกว่า 250,000 กิโลเมตร และทดสอบในเมืองไทยอีก 90,000 กิโลเมตร

●   ก่อนอื่นให้ลืมภาพของ แคปติวา รุ่นเดิมที่เคยทำตลาดในเมืองไทยในแบบรถ SUV เพราะรถรุ่นใหม่นี้แม้ใช้ชื่อเดียวกัน แต่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นรถต่างประเภท โดยรุ่นใหม่ออกไปทางแนว MPV มากกว่า แม้ความสูงใต้ท้องจะมากกว่าเก๋งพอสมควร แต่ทั้งขนาดล้อและยาง รวมทั้งการเซตช่วงล่างก็เน้นใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก ลุยได้มากกว่าเก๋งเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขนาด SUV แท้ๆ

Chevrolet Captiva Premier

Style โฉบเฉี่ยวแหวกแนว

●   ด้านหน้าดูแปลกตาด้วยการออกแบบไฟ DRL แบบ LED ไว้ด้านบนสุดในตำแหน่งไฟหน้าของรถทั่วไป ส่วนโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์เลนส์รวมแสง จับคู่กับระบบ LED แยกติดตั้งต่ำลงมาเล็กน้อย ล้อแม็กทูโทนขนาด 6.5×17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60/17 เส้นตัวถังโดยรวมเน้นความเหลี่ยมคมต่อเนื่องเนื่องตลอดคันจรดด้านท้าย

●   บนหลังคาติดตั้งแร็คสำหรับยึดกับอุปกรณ์เสริม มาพร้อมพาโนรามิก ซันรูฟ ขนาดใหญ่ 0.82 ตารางเมตร เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch ด้านหลังเน้นเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวทั้งในส่วนองประตูบานท้ายและกันชน เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

●   มิติตัวถังมีความยาว 4,655 มิลลิเมตร กว้าง 1,835 มิลลิเมตร (รวมกระจกมองข้าง) สูง 1,760 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 175 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,630 กิโลกรัม

Chevrolet Captiva Premier

Space กว้างโปร่งกว่าเก๋ง

●   ทริปนี้นั่งกัน 4 คน เริ่มต้นเดินทางในตำแหน่งผู้โดยสารด้านหน้า ขยับเลื่อนเบาะเพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารด้านหลังแล้ว ยังนั่งได้สบาย มีที่เหยียดแข้งเหยียดขาสำหรับความสูง 169 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือ จากนั้นย้ายไปนั่งหลังพวงมาลัยที่ปรับได้เฉพาะสูง-ต่ำ ระยะปรับน้อยไปนิด เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ปรับท่านั่งให้ถูกต้องแล้วทัศนวิสัยรอบคันอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะปรับเบาะนั่งค่อนข้างต่ำตามความชอบส่วนตัว ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ

●   ปิดท้ายวันแรกของทริปด้วยตำแหน่งเบาะแถว 2 ฝั่งเดียวกับผู้โดยสารด้านหน้าที่มีความสูงกว่า 180 เซนติเมตร ปรับเลื่อนเบาะหน้าให้พอดีกับความสูงแล้ว ที่วางขาสำหรับเบาะแถว 2 ยังเหลือประมาณ 20 เซนติเมตร พื้นห้องโดยสารแบบเรียบ ทำให้วางเท้าได้อิสระขึ้น พื้นที่เหนือศีรษะยังคงเหลือเฟือกับความสูง 169 เซนติเมตร เพราะแนวหลังคาที่ราบตรง ไม่เทลาดไปด้านหลัง ชอบใจที่พนักพิงเบาะแถว 2 ปรับเอนได้หลายระดับ มีช่องแอร์สำหรับเบาะแถว 2 มีช่องจ่ายไฟฟ้าแบบ USB และมีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำกลางเบาะหลัง กระจกประตูคู่หลังบานใหญ่ เหมาะกับการเป็นรถครอบครัว นั่งชมวิวเพลินๆ

Chevrolet Captiva Premier

●   ไม่ได้ลองนั่งเบาะแถว 3 ที่พับราบไว้เพื่อใส่สัมภาระสำหรับ 4 คน กระเป๋าคนละใบสำหรับการเดินทาง 2 วัน 1 คืน วางได้เหลือๆ แบบไม่ต้องวางแผน แต่ถ้าเป็นการเดินทางไกลหลายวันแบบเต็มความจุ 7 ที่นั่ง อาจมีปัญหาเรื่องที่วางสัมภาระ

●   ความสะดวกสบายในการขับและนั่งบนเบาะหน้าและเบาะแถว 2 และการเก็บเสียงถือว่าทำได้ดี ทั้งเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกเมื่อขับในเมือง และเสียงจากลมปะทะเมื่อใช้ความเร็ว ส่วนเสียงจากเครื่องยนต์ก็มีกระหึ่มเข้ามาบ้างเมื่อลากรอบสูง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ

Chevrolet Captiva Premier

Smart Technology มีครบตามงบประมาณ

●   รุ่นที่ทดลองขับเป็นรุ่นสูงสุด Premier ให้อุปกรณ์มาตรฐานพอฟัดพอเหวี่ยงกับค่าตัว 1.199 ล้านบาท ไฮไลต์คงจะหนีไม่พ้นจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว ติดตั้งที่คอนโซลกลาง มีครบทั้ง 3 รุ่นย่อย แสดงภาพจากกล้องมองรอบคันได้อย่างคมชัด แตะที่จอเพื่อเปลี่ยนมุมมองภาพได้

Chevrolet Captiva Premier

●   การตอบสนองไหลลื่นรวดเร็วทันใจ แสดงภาพจากหน้าจอโทรศัพท์และสั่งงานผ่านจอของรถได้ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังใช้สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศและระบบเครื่องเสียงด้วย ในชุดมาตรวัดมีหน้าจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับต่างๆ ควบคุมด้วยปุ่มบนพวงมาลัย

●   Smart Technology ยังรวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น เบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Brake Hold, ระบบ Keyless Entry และ Push Start และระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน ไฟฉุกเฉินกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบตรวจวัดแรงดันและอุณหภูมิลมยาง

Chevrolet Captiva Premier

ความปลอดภัยมาตรฐานสากล

●   แคปติวา ใหม่ ปลอดภัยด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย และคานเหล็กนิรภัยลดแรงกระแทกจากด้านข้าง ติดตั้งแอร์แบ็กคู่หน้าและด้านข้างสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า รวม 4 จุด (สำหรับรุ่น LT และ Premier) ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัย 3 จุด สำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร พร้อมระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ตำแหน่งติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก มาตรฐาน ISOFIX ที่เบาะแถว 2

●   ส่วนระบบช่วยเหลือการขับก็ครบครัน เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบป้องกันการลื่นไถลและล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบช่วยการออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA)

Chevrolet Captiva LT

เครื่องยนต์ไม่หวือหวา

●   แคปติวา ทั้ง 3 รุ่นย่อย ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันแบบเบนซิน 4 สูบแถวเรียง ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว มีระบบวาล์วแปรผันคู่ DVVT กระบอกสูบ 73.8 มิลลิเมตร ช่วงชัก 84.7 มิลลิเมตร แอัตราส่วนการอัด 9.8:1 ความจุ 1,451 ซีซี อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร หรือ 25.5 กก.-ม. ที่ 2,400 รอบต่อนาที รอบรับแก๊สโซฮอล์ E10 ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมด Shift Control +/- 8 จังหวะ

●   ได้ทดลองขับจากปั๊มก่อนถึงแยกวังมะนาว ไปถึงร้านอาหารกลางวัน ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ม้า 143 ตัว ต้องรับภาระน้ำหนักรถเปล่า 1,630 กิโลกรัม ผู้ขับและผู้โดยสาร 4 คน ประมาณ 300 กิโลกรัม กับสัมภาระอีกเล็กน้อย รวมแล้วเกือบ 2 ตัน จึงเหมาะกับการขับไปเรื่อยๆ การเร่งแซงบนถนน 2 เลน ก็ยังทำได้ เพียงแต่ต้องดูจังหวะที่ไม่มีรถสวนมาหรือถนนโล่งมากหน่อย เพราะอัตราเร่งไม่หวือหวา ส่วนการขับที่ความเร็วต่ำ-ปานกลาง ยังเร่งได้ดี ความเร็วปลายเริ่มตันแถวๆ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

●   ลองใช้ครูสคอนโทรลที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์หมุนประมาณ 1,800 รอบต่อนาที รอบยังไม่ต่ำมากแม้เป็นเกียร์ CVT ที่อัตราทดต่ำสุดอยู่ที่ 0.378 เพราะทดเฟืองท้ายไว้ค่อนข้างสูง 5.511 น่าจะเพราะเครื่องยนต์บล็อกเล็กแล้วต้องเผื่อลากน้ำหนักเมื่อโดยสารเต็มความจุด้วย

●   ลองวัดอัตราสิ้นเปลืองคร่าวๆ ออกจากปั๊มแล้วกดเซต 0 อัตราสิ้นเปลือง ขับที่ความเร็วเดินทาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 13.3 กิโลเมตรต่อลิตร ยังไม่น่าพอใจนัก

Chevrolet Captiva LS

ช่วงล่างนุ่มหนึบมั่นใจ

●   แคปติวา ใหม่ ใช้ระบบกันสะเทือนอิสระพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์ ให้ยางสำหรับทางเรียบขนาด 215/60/17 ขับความเร็วต่ำดูดซับแรงกระแทกได้ดี และหนึบแน่นไม่โคลงเมื่อใช้ความเร็วสูง บนทางตรงลองใช้ความเร็วกว่า 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวรถก็ยังไม่โคลง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ายังนิ่งไม่วูบวาบ

●   ช่วงขับผ่านถนนขรุขระระดับรถเก๋งผ่านลำบาก ก็ยังรู้สึกนุ่มนวล การยืดยุบของช่วงล่างมีความหนืดรั้ง ไม่ยุบเร็ว ไม่ดีดแรง จึงควบคุมรถได้ง่าย ตัวรถไม่แกว่งหรือกระแทก กับระยะต่ำสุด 175 มิลลิเมตร ขับทางออฟโรดเบาๆ พอได้ ขับทางเรียบยิ่งสบาย ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยก็จะเบรกได้อย่างนุ่มนวลและมั่นใจ

●   ถ้ามองว่าเชฟโรเลต แคปติวา เน้นจุดเด่น 3s ก็ถือว่าทำรถได้บรรลุจุดประสงค์ ที่ทำได้ดีใน 3 จุดหลักทั้งดีไซน์ ความกว้างขวางเอนกระสงค์นั่งสบาย และเทคโนโลยี ส่วนเครื่องยนต์ก็เน้นใช้งานทั่วไปไม่หวือหวา ติดตรงที่น่าจะประหยัดน้ำมันกว่านี้อีกนิด แถมให้อีก 1 จุดเด่นคือ ระบบกันสะเทือนที่ทำได้ดีสำหรับรถประเภทนี้ มีทั้งความนุ่มนวลและหนักแน่น นอกเหนือจากรุ่นท๊อปที่ได้ทดสอบแล้ว แคปติวา ใหม่ ก็ยังมีรุ่นพื้นฐาน LS ราคา 999,000 บาท และรุ่นกลาง LT ราคา 1,099,000 บาท ให้เลือกอีกด้วย

Chevrolet Captiva Premier

●   สร้างความมั่นใจด้านบริการหลังการขาย ด้วยศูนย์บริการมาตรฐาน 87 แห่งทั่วประเทศ มีเครื่องมือพิเศษ มีโปรแกรมฝึกอบรม Master Technician พร้อมเตรียมสั่งอะไหล่เข้ามาสำรองไว้ลอตแรกกว่า 41,000 ชิ้น และจะมีการสั่งเพิ่มเติมเข้ามาอีก ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเมื่อเข้าศูนย์บริการ ที่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ไม่เกิน 30,000 บาท ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับรถแบรนด์อื่นในปัจจุบัน

●   ช่วงนี้มีข้อเสนอพิเศษในช่วงฟรีบุ๊คกิ้ง มอบส่วนลด 40,000 บาท สำหรับ 300 ท่านแรกที่จองรุ่น LS และลงทะเบียนรับส่วนลดที่โชว์รูมเชฟโรเลต, สำหรับรุ่น LT และ Premier มีโปรแกรมเช็คระยะครอบคลุมค่าแรงและค่าอะไหล่ 50,000 กิโลเมตร หรือ 30 เดือน และมีดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.89 เปอร์เซ็นต์ และประกันชั้น 1 ฟรี 1 ปี สำหรับแคปติวา ใหม่ ทุกรุ่น  ●

ขอบคุณ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง


2019 Chevrolet Captiva : Group Test