2020 Peugeot e-2008 รถกรีนในกลุ่ม BEV รุ่นที่ 2 ของเปอโยท์

527views

เรื่อง : AREA 54

● ต่อจาก รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นเล็กในกลุ่ม Supermini (ซับคอมแพคท์) อย่าง e-208 เปอโยท์เตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 โดยจะขยับไซส์ขึ้นไปเล็กน้อยเป็นรถครอสโอเวอร์ที่ใช้พื้นฐานจาก Peugeot 2008 เจนเนอเรชั่น 2 ใช้ชื่อในการจำหน่ายแบบเรียบง่ายว่า Peugeot e-2008

● เช่นเดียวกับ 208 รถรุ่นใหม่อย่าง e-2008 ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม Common Modular Platform (กลุ่มย่อย e-CMP platform สำหรับผลิตรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ออกแบบร่วมกับ Dongfeng ประเทศจีน) ของ Groupe PSA แบบเดียวกับที่ใช้ในการผลิตรถยุคใหม่ของ DS ซึ่งเป็นซับแบรนด์หรูของซีตรอง และโอเปิล/วอกซ์ฮอลล์ นั่นเอง

● ดังนั้น ชุดระบบขับเคลื่อนจึงสามารถใช้งานร่วมกับ e-208 ได้ ซึ่งชุดระบบจะประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวกำลังสูงสุด 100 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 136 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 26.4 กก.-ม. เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟภายใน 1 ชม. เท่ากับ 50 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 310 กม. ตามมาตรฐาน WLTP น้อยกว่า e-208 เล็กน้อย (340 กม.) จากขนาดตัวที่ใหญ่กว่านิดหน่อย

● และเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า e-2008 ใหม่จะมีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 4.30 ม. (+14 ซม.) ความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้นเป็น 2.65 ม. (+6 ซม.) การรันตีว่าห้องโดยสารจะมีพื้นที่ให้มากกว่าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้โดยสารทางด้านหลัง ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระยังคงเท่าเดิม สูงสุด 434 ลิตร

● แบตเตอรี่แพคชุดนี้ เปอโยท์ระบุว่าจะมีการรับประกันเป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่ว่าอย่างใดจะถึงก่อน คิดจากพื้นฐานการชาร์จแบตเตอรี่เฉลี่ย 70% จากจำนวนเต็ม ส่วนระยะเวลาในการชาร์จจะเท่ากับ e-208 โดยชุดชาร์จไฟพื้นฐานประจำบ้าน 11 กิโลวัทท์ (Wall Box) จะใช้เวลาราว 5 ชม. ส่วนโหมดฟาสท์ชาร์จ กำลังไฟ 100 กิโลวัทท์ ณ สถานีบริการ จะใช้เวลา 30 นาที สำหรับการชาร์จในปริมาณ 80% จากจำนวนเต็ม

● ผู้ขับสามารถเลือกการขับได้ 2 โหมด ประกอบด้วยโหมด D ผู้ขับสามารถปล่อยให้ระบบบริหารจัดการระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรคเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้การขับเป็นธรรมชาติเหมือนกับการขับรถยนต์ที่ใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซิน/ดีเซลตามปกติ ส่วนโหมด B นั้น ผู้ขับสามารยืดระยะเวลาระบบชาร์จไฟกลับได้ด้วยการถอนคันเร่งเองในบางจังหวะ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ขับต้องการการเก็บเกี่ยวพลังงานที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ เมื่อคำนวณจากปริมาณกระแสไฟฟ้าที่คงเหลือในแบตเตอรี่ และระยะทางที่จะถึงจุดหมาย (หรือสถานีชาร์จ)

● นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ 2008 รุ่นพื้นฐาน e-2008 จะได้รับการปรับปรุงตามจุดต่างๆ เล็กน้อย เพื่อให้ตัวรถในทุกๆ ส่วน สามารถช่วยยืดระยะทางในการขับได้มากที่สุด เช่น การติดตั้งแผ่นเพลทใต้ท้องรถ (underbody) เพื่อให้อากาศไหลผ่านได้ราบรื่น, ใช้ air intakes แบบควบคุมด้วยอิเลคทรอนิคส์, ปรับปรุงชิ้นส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับแอร์โรไดนามิคส์รอบๆ คัน และปิดท้ายด้วยการใช้ยางในกลุ่มลดแรงต้านการหมุน (Low rolling resistance tire)

● ราคาจำหน่าย e-2008 ยังไม่ระบุในเวลานี้ครับ เบื้องต้นน่าจะสูงกว่า e-208 ที่มีราคาเริ่มต้น 30,450 ยูโร หรือประมาณ 1.03 ล้านบาทนิดหน่อย ●