2019 Toyota Altis เจนเนอเรชั่น 12 เปิดตัวพร้อมรุ่นย่อยใหม่พลังไฮบริด
ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ – จันทนา เจริญทวี
● โตโยต้า ประเทศไทย เปิดตัว Toyota Corolla Altis เจนเนอเรชั่นใหม่ในไทยอย่างเป็นทางการ ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวรุ่นไฮบริด แยกจำหน่ายเป็น 3 เกรด Hybrid High, Hybrid Mid และ Hybrid Entry ซึ่งมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 9.39 แสนบาท พร้อมปรับไลน์อัพรุ่นย่อยใหม่ ใช้รุ่น Hybrid Tech ทำตลาดแทนที่รุ่น 1.8V เดิม ใช้รุ่น GR Sport แทนที่รุ่น 1.8 Esport Option ในขณะที่รุ่นย่อย 1.6G จะมีราคาเท่าเดิม แต่เพิ่มอุปกรณ์พื้นฐานให้ใหม่ทั้งหมด
● นอกจากนี้ Altis จะมีรุ่นย่อยสปอร์ตรุ่นใหม่ Altis GR-Sport ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด Gazoo Racing Sport โดยตัวรถจะมากับแพคเกจพิเศษ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านอากาศพลศาสตร์ด้วย
มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
● มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โคโรลล่าได้สร้างตำนานมาแล้วมากกว่า 50 ปี นับตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด เรายังคงรักษาไว้ซึ่งพื้นฐานอันสำคัญทางด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือที่ไม่มีใครเทียบ ทำให้กลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดภายใน 3 ปี และได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันนี้มียอดขายสะสมมากกว่า 47 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งโคโรลล่า 1 คันจะถูกขายทุกๆ 15 วินาที ในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และถือเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดสำหรับโตโยต้าทั่วโลก”
● “ในประเทศไทย กว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โคโรลล่าสามารถครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่งที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในประเทศไทย และเดินเคียงข้างกับคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยยอดขายสะสมกว่า 800,000 คัน ในฐานะที่โคโรลล่าเป็นรถซีดานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งในประเทศไทย ทำให้ความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อรถรุ่นนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เราสรรสร้างยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าของเรา และในวันนี้ผมมีความยินดีที่จะแนะนำโคโรลล่า อัลติส ใหม่ รุ่นที่ 12 อย่างเป็นทางการ ซึ่งรถรุ่นนี้จะเปลี่ยนความคิดของทุกท่านที่มีต่อโคโรลล่าอย่างสิ้นเชิงและจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับในกลุ่มนี้อย่างแน่นอน”
● “เรามีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า รถรุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดเต็มรูปแบบคันแรกในตลาดนี้ สำหรับประเทศไทย และเมื่อไม่นานมานี้ เราเพิ่งฉลองความสำเร็จ 10 ปีของรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดในประเทศไทย พร้อมกับการเปิดตัวโครงการการบริหารจัดการแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดใช้แล้วแบบครบวงจร ซึ่งความรับผิดชอบของเราในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด รวมไปถึงการเดินทางสารธารณะอีกด้วย เราเชื่อว่าการแพร่หลายของเทคโนโลยีไฮบริดไฟฟ้าถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อการมุ่งไปสู่การขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต”
นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
● นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ยังคงรักษาไว้ซึ่งแกนหลักของความเป็นรถยนต์โคโรลล่า โดยมีการพัฒนารถยนต์เพื่อให้ทุกๆคนได้รู้สึกสนุกสนานไปกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการขับ อีกทั้งยังคงเป็นรถที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งโคโรลล่า อัลติส ใหม่ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ก่อให้เกิดการพัฒนาครั้งใหญ่ และเป็นรถที่ดีกว่าเดิมอย่างก้าวกระโดด โดยในครั้งนี้ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มี 5 จุดขายหลัก ได้แก่ 1. ด้านการออกแบบ, 2. ด้านประสิทธิภาพของการขับ, 3. ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4, 4. ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า และ 5. ระบบการเชื่อมต่อ”
● Altis ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 12 พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA (Toyota New Global Architecture) เช่นเดียวกับ Toyota Camry ตัวรถมากับชุดระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Toyota Safety Sense และยังนับเป็นครั้งแรกของรถตระกูล Corolla Altis ที่มาพร้อมกับระบบชุดระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ยังผลให้ Altis ใหม่นี้ เป็น Altis ที่มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีที่สุดในสายการผลิตของโตโยต้า
● Altis ใหม่มากับไฟหน้า LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ, ไฟ LED Daytime Running Lights, ไฟท้าย LED และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
● ห้องโดยสารสะดวกด้วยระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry ปลดล็อคประตูอัตโนมัติ, จอ Head Up Display, ปุ่ม Push Start, มาตรวัด Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 7 นิ้ว, จอบอกข้อมูลส่วนกลางขนาด 8 นิ้ว รองรับฟังก์ชั่น Apple CarPlay, ระบบนำทาง, บริการ T-Connect Telematics, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบกรองอากาศ Nanoe, จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ EC Mirror, ระบบ Auto Brake Hold หน่วงแรงเบรคอัตโนมัติ, เบรคมือไฟฟ้า, ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง และม่านบังแดดที่กระจกหลัง
● รุ่นพื้นฐานใช้งานเครื่องยนต์ 4 สูบ 1ZR-FBE ความจุ 1.6 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 จังหวะ พร้อม Sequential Shift กำลังสูงสุด 125 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 15.9 กก.-ม. ส่วนรุ่น GR Sport ขยับขึ้นไปใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2ZR-FBE ความจุ 1.8 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ลูกเดียวกัน เพิ่มแพดเดิลชิฟท์ กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 18.5 กก.-ม. รองรับการใช้งาน E20 และ E85
● สำหรับรุ่นไฮบริด จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2ZR-FXE ความจุ 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า รองรับการใช้งาน E20 และ E85 จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส กำลังสูงสุด 53 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิด นิคเกิล เมทัล ไฮไดรด์ กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า อัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 23 กิโลเมตรต่อลิตร
● ชุดระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Active Safety) มีระบบ Blind Spot Monitor ช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนในขณะถอยรถ, ระบบ VSC ช่วยควบคุมการทรงตัว และระบบ Hill Start Assist Control ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ทั้งหมดนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่นย่อย ส่วนชุดระบบความปลอดภัยหลังการชน (Passive Safety) มีการเสริมโครงสร้างด้านหน้าช่วยถ่ายเทแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ, โครงสร้างด้านข้างแบบวงแหวน ลดการยุบตัวจากการชน และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
● ปิดท้ายด้วยชุดระบบ Toyota Safety Sense ประกอบด้วยระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed range สามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า และระบบ Lane Tracing Assist ช่วยประคองรถให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ในขณะเข้าโค้ง
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
โปรโมชั่น
● นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวทางการสื่อสารของโคโรลล่า อัลติส ใหม่ จะใช้สโลแกน All New Corolla Altis, Make A New High : ข้ามสู่ขีดสุดที่เหนือกว่า โดยมีพรีเซนเตอร์ใหม่เป็น ณเดชน์ คูกิมิยะ
● สำหรับโปรโมชั่นในช่วงเปิดตัว โตโยต้าจะจัดกิจกรรมเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศในวันที่ 13 – 15 กันยายน 2562 ข้อเสนอพิเศษหลักๆ มี ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 8,500 บาทต่อเดือน และครั้งแรกกับแพคเกจขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพ ฟรีค่าแรงเช็คระยะ และแพคเกจการรับประกันรถไฮบริด ครอบคลุมแบตเตอรี่ ระบบไฮบริด และการรับประกันราคาขายต่อที่โตโยต้า ชัวร์ เช่นเดียวกับ Toyota C-HR และ Toyota Camry Hybrid
ราคาจำหน่าย
● Altis ใหม่จะแยกจำหน่ายเป็น 6 รุ่นย่อย สีภายนอกเลือกได้ 7 สี ประกอบด้วย White Pearl (เฉพาะรุ่น Hybrid และ GR Sport เพิ่ม 10,000 บาท), Phantom Brown, Super White II, Attitude Black Mica, Silver Metallic, Red Mica Metallic และสีใหม่ Celestite Gray
- Altis Hybrid High ราคา 1,099,000 บาท
- Altis Hybrid Mid ราคา 959,000 บาท
- Altis Hybrid Entry ราคา 939,000 บาท
- Altis GR Sport ราคา 999,000 บาท
- Altis 1.6G ราคา 869,000 บาท
- Altis Limo ราคา 829,000 บาท
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2562 เป็นต้นไป รวมทั้งศูนย์ทดลองขับรถ Toyota Driving Experience Park บางนา กม.3 และเว็บไซท์ www.toyota.co.th ●
