F1 Mexican GP 2019 : แฮมิลตันยังต้องรอลุ้นแชมป์โลกสนามหน้า
Posted by : FascinatorFJ.
● ลูวอิส แฮมิลตัน กู้คืนสถานการณ์ย่ำแย่ในช่วงสตาร์ทกลับมาชนะเม็กซิกันกรังด์ปรีซ์ ส่วนการลุ้นแชมป์โลกยังคงต้องรอต่อไปสนามหน้า
● แฮมิลตันนั้นถูกเบียดออกนอกแทร็คไปในช่วงสตาร์ท แถมยังหลุดลงไปในหญ้าที่โค้งแรก แต่นักแข่งเมอร์เซเดสก็สามารถรีดประสิทธิภาพกลยุทธ์พิทเดียวออกมาได้ดีที่สุด พลิกกลับมาชนะเฟอร์รารี และเก็บชัยชนะครั้งที่ 10 ของฤดูกาลไปได้สำเร็จ
● เซบาสเตียน เวทเทล ไม่สามารถสร้างความกดดันให้กับแฮมิลตันได้หลังจากพิทสุดท้าย นักแข่งเฟอร์รารีตามหลังอยู่ในระยะ 2 – 3 วินาที จนกระทั่งถึงเส้นชัย คว้าอันดับ 2 ไปในสนามนี้ ส่วน วาลท์เทรี บ็อตตาส เพื่อนร่วมทีมของแฮมิลตัน เข้าเส้นชัยในอันดับ 3
● ทางด้าน ชาร์ล เลอแคลร์ อีกหนึ่งนักขับเฟอร์รารีและผู้ที่ได้โพลสนามนี้ กลับต้องจบการแข่งขันเพียงแค่อันดับ 4 หลังจากที่เฟอร์รารีให้เขาเข้าพิท 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์นั้นได้ดีเสียเท่าไร
● เฟอร์รารีนั้นเป็นผู้เริ่มต้นคุมเกมการแข่งขัน เลอแคลร์ออกสตาร์ทขึ้นนำตามมาด้วยเวทเทล ซึ่งเบียดแฮมิลตันหลุดออกแทร็คไปเล็กน้อย หลังจากนั้นที่โค้งแรกแฮมิลตันก็ได้เบียดบี้กับรถเรดบูลล์ของ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น จนทั้งคู่หลุดลงไปในหญ้าที่โค้ง 2 นั่นทำให้แฮมิลตันหล่นลงไปอยู่อันดับ 5 ตามหลัง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน จากเรดบูลล์ และ คาร์ลอส ซายน์ซ จากแม็คลาเรน ส่วนเวอร์สแท็พเพ่นนั้นหล่นลงไปถึงอันดับ 8
● แฮมิลตันนั้นผ่านซายน์ซขึ้นมาได้ในรอบที่ 4 และเขาก็อยู่ในอันดับ 4 ยาวๆ นับแต่นั้น จนกระทั่งเลอแคลร์และอัลบอนเข้าพิท เขาจึงขยับขึ้นมาตามเวทเทล
● ทางด้านเวอร์สแท็พเพ่นก็ไล่แซงบ็อตตาสที่อยู่ข้างหน้าขึ้นมาได้ในโค้ง 14 แต่นักแข่งดัตช์แซงด้วยความเสี่ยงและมาในจังหวะที่นักแข่งฟินน์ไม่ทันได้ตั้งตัว ปีกหน้าของนักแข่งฟินน์ไปเกี่ยวยางหลังขวาของนักแข่งดัตช์เล็กน้อย แต่นั่นมากพอที่จะทำให้ยางค่อยๆ รั่วซึมและฉีกขาด เวอร์สแท็พเพ่นจึงต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางและหล่นไปอยู่อันดับท้ายๆ
● อัลบอนและเลอแคลร์คือ 2 คนแรกในกลุ่มหน้าที่เข้าพิท ทั้ง 2 คนนี้ ทางทีมวางกลยุทธ์ให้ใช้พิท 2 ครั้ง แฮมิลตันเข้าพิทตามมาในรอบที่ 23 หรือ 8 รอบ หลังจากเลอแคลร์ และ 9 รอบ หลังจากอัลบอน
● เวทเทลและบ็อตตาสเป็น 2 คน ที่ทางทีมเลือกให้วิ่งยาวและใช้พิทเดียวอย่างแน่นอน เวทเทลนั้นเข้าพิทหลังจากแฮมิลตันเข้าไปแล้วถึง 13 รอบ และบ็อตตาสเข้าพิทหลังเวทเทล 1 รอบ นั่นทำให้แฮมิลตันอันเดอร์คัทขึ้นมาเป็นผู้นำในช่วงนี้
● แฮมิลตันได้วอหาทีมงานอยู่เป็นระยะๆ ว่ายางของเขาอาจอยู่ไม่รอดหากใช้พิทเดียว อย่างไรก็ตามแชมป์โลก 5 สมัย ก็ยังยืนระยะและตรึงไม่ให้เวทเทลขยับเข้ามาใกล้เกินกว่า 2 วินาที ได้
● ทางด้านบ็อตตาสขยับเข้ามาใกล้เวทเทล เช่นเดียวกับเลอแคลร์ที่ขยับเข้ามาใกล้บ็อตตาสเรื่อยๆ แต่แล้วนักแข่งชาวโมนาโคก็ทำพลาดล้อล็อก ซึ่งนั่นทำให้รถของเขาสั่นอย่างหนักและเข้าใกล้นักแข่งฟินน์ไม่ได้อีกเลย
● เวทเทลใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายในการขยับเข้ามาให้ใกล้แฮมิลตัน แต่แฮมิลตันนั้นก็ตอบกลับด้วยการกดเวลาหนีทุกครั้งไป ท้ายที่สุดแฮมิลตันจึงเข้าเส้นชัยไปก่อน ตามมาด้วยเวทเทลและบ็อตตาสไม่ห่าง
● อัลบอนยังคงเดินหน้าค่อยๆ เก็บแต้มให้กับทีม สนามนี้เขาเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 อยู่หน้าเวอร์สแท็พเพ่นที่ตามมา หลังจากที่นักแข่งดัตช์ร่วงลงไปอยู่ท้ายๆ
● เซอร์จิโอ เปเรซ ไม่ทำให้กองเชียร์เจ้าถิ่นผิดหวัง นักแข่งเม็กซิกันสังกัดเรซซิ่งพอยต์ เข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดต่อจาก 3 ทีมใหญ่ โดยมี แดเนียล ริคคิอาร์โด จากเรโนลต์ ซึ่งพยายามแซงแล้วแซงอีกตามมาในอันดับ 8
● ถึงแม้จะมีอาการปวดท้องอาหารเป็นพิษจากวันศุกร์ แต่ ปิแอร์ แกสลีย์ ก็พารถโทโรรอสโซของเขาเก็บคะแนนได้ในอันดับ 9 ส่วนอันดับ 10 นั้นตอนแรกเป็น ดานีล คฟยาต แต่ว่ากรรมการปรับเวลานักแข่งรัสเซียน 10 วินาที จากการที่เขาไปสอยท้าย นิโค ฮูลเคนเบิร์ก จนรถเรโนลต์ของนักแข่งเยอรมันหมุนในโค้งสุดท้าย นั่นทำให้ฮูลเคนเบิร์กขึ้นมารับอันดับ 10 แทน
● แม็คลาเรนสนามนี้เรียกได้ว่าเป็นเกือบจะหายนะ คาร์ลอส ซายน์ซ นั้นรีดความเร็วรถบนยางฮาร์ดไม่ออกเลย และต้องเปลี่ยนแผนไปเป็นเข้าพิท 2 ครั้ง เพื่อเอายางมีเดียมออกมาวื่งอีกครั้ง นักแข่งสแปนิชจึงจบการแข่งขันในอันดับ 13 ส่วน แลนโด้ นอริส นั้นเกิดปัญหากับล้อในการเข้าพิท ทำให้เขาต้องจอดรถและทีมงานกลับมาเข็นรถของเขากลับพิทบ็อกซ์เพื่อขันน็อตล้อใหม่ นั่นทำให้เขาเสียเวลาไป 1 รอบ และเลือกที่จะรีไทร์ในรอบที่ 48
● รถอีกคันหนึ่งที่ไม่จบการแข่งขันคือรถ อัลฟ่า โรเมโอ ของ คิมี ไรค์โคเนน นักแข่งฟินน์ดีกรีแชมป์โลก เกิดการปะทะในโค้งแรกตอนสตาร์ท เขาถูกบีบจากทั้งซ้ายขวาทำให้พื้นรถและระบบระบายความร้อนเสียหาย ทำให้เขาต้องรีไทร์จากการแข่งขันไปในรอบที่ 58 เนื่องจากความร้อนขึ้นสูง ●
สรุปผลการแข่งขัน
- ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.36.48.904 – กริด 3
- เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +1.766 – กริด 2
- วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – +3.553 – กริด 6
- ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +6.368 – กริด 1
- อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +21.399 – กริด 5
- แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +1.08.807 – กริด 4
- เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1.13.819 – กริด 11
- แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – +1.14.924 – กริด 13
- ปิแอร์ แกสลีย์ – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 10
- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 12
- ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 9
- แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 16
- คาร์ลอส ซายน์ซ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 7
- อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 15
- เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – +2 รอบ – กริด 17
- จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 19
- โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – +2 รอบ – กริด 18
- โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 20
- DNF – คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – รอบที่ 58 – เสียหายจากอุบัติเหตุ ความร้อนขึ้นสูง – กริด 14
- DNF – แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – รอบที่ 48 – รีไทร์ – กริด 8
- เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 1.19.232 – รอบที่ 53
คะแนนสะสมประเภทนักขับ
- ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 363
- วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 289
- ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 236
- เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 230
- แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 220
- ปิแอร์ แกสลีย์ – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 77
- คาร์ลอส ซายน์ซ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 76
- อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 74
- เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 43
- แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – 38
- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 35
- แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 35
- ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 34
- คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 31
- แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 21
- เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 20
- โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – 8
- อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 4
- โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 1
- จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
- เมอร์เซเดส – 652
- เฟอร์รารี – 466
- เรดบูลล์ ฮอนด้า – 341
- แม็คลาเรน เรโนลต์ – 111
- เรโนลต์ – 73
- โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 64
- เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 64
- อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 35
- ฮาส เฟอร์รารี – 28
- วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 1
ที่มา :
• autosport.com.
• espnf1.com.
ผลการแข่งขันฤดูกาล 2019
● สนามที่ 01 : Australian GP : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
● สนามที่ 02 : Bahrain GP : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหา.
● สนามที่ 03 : Chinese GP : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2.
● สนามที่ 04 : Azerbaijan GP : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาด 1-2 เป็นสนามที่ 4.
● สนามที่ 05 : Spanish GP : แฮมิลตัน/บ็อตตาส เข้าเส้นชัย 1-2 เป็นสนามที่ 5.
● สนามที่ 06 : Monaco GP 2019 : แฮมิลตันรอดการจู่โจมอย่างหนัก.
● สนามที่ 07 : Canadian GP : เวทเทลต้องปล่อยชัยชนะแรกของฤดูกาล.
● สนามที่ 08 : French GP : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย.
● สนามที่ 09 : Austrian GP : เรดบูลล์หยุดสถิติชนะต่อเนื่องของเมอร์เซเดส.
● สนามที่ 10 : British GP : แฮมิลตันทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ.
● สนามที่ 11 : German GP : เมอร์เซเดสพบกับฝันร้ายเป็นครั้งแรก.
● สนามที่ 12 : Hungarian GP : แฮมิลตันแย่งแชมป์จากมือเวอร์สแท็พเพ่น.
● สนามที่ 13 : Belgian GP : เลอแคลร์ คว้าชัยแรกให้ตัวเองและเฟอร์รารี.
● สนามที่ 14 : Italian GP : เลอแคลร์โชว์ฟอร์มเหนือ รั้งคู่หูเมอร์เซเดส.
● สนามที่ 15 : Singapore GP : เวทเทล คว้าชัยชนะแรกในรอบ 1 ปีกว่า.
● สนามที่ 16 : Russian GP : แฮมิลตันคว้าชัย เฟอร์รารี่วุ่นกับทีมออเดอร์.
● สนามที่ 17 : Japanese GP : บ็อตตาสช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ 6 สมัย.
● สนามที่ 18 : Mexican GP : แฮมิลตันยังต้องรอลุ้นแชมป์โลกสนามหน้า.