F1 Russian GP 2019 : แฮมิลตันคว้าชัย หลังเฟอร์รารี่วุ่นกับทีมออเดอร์
Posted by : FascinatorFJ.
● ลูวอิส แฮมิลตัน คว้าชัยรัสเซียนกรังด์ปรีซ์ หลังจากที่เฟอร์รารีถกเถียงกันใช้ทีมออเดอร์ และ เซบาสเตียน เวทเทล รีไทร์จากปัญหา MGU-K
● ในช่วงแรกนั้นเฟอร์รารีขึ้นมานำการแข่งขันได้ โดยเวทเทลชิงขึ้นนำในโค้งแรกได้ก่อน แต่จุดเปลี่ยนมาถึงในช่วงหลังเข้าพิทแรก รถของเวทเทลนั้นมีปัญหากับ MGU-K และทีมงานสั่งจอดรถ มี เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ ออกมาในช่วงนี้ซึ่งเป็นจังหวะเหมาะสมที่เมอร์เซเดสจะเรียกแฮมิลตันเข้าพิท นั่นทำให้แฮมิลตันขึ้นมานำการแข่งขันจนกระทั่งเข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรก
● ดราม่าในค่ายม้าลำพองนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่สตาร์ทการแข่งขัน เมื่อพวกเขาตกลงกันก่อนการแข่งจะเริ่มขึ้นว่า จะให้ เซบาสเตียน เวทเทล ซึ่งสตาร์ทในกริดที่ 3 ใช้สลิปสตรีมจาก ชาร์ล เลอแคลร์ ที่อยู่ในตำแหน่งโพล โดยเลอแคลร์จะไม่ป้องกันตำแหน่งของตัวเองเพื่อให้เวทเทลได้เปรียบที่สุดและขึ้นมาอยู่หน้า ลูวอิส แฮมิลตัน ที่สตาร์ทจากกริดที่ 2 ให้ได้
● เวทเทลทำสำเร็จสตาร์ทได้ดีจนชิงขึ้นมาอยู่หัวแถวได้ตั้งแต่โค้งแรก เลอแคลร์ตามมาเป็นอันดับ 2 แฮมิลตันอันดับ 3 แต่หลังจากนั้นเมื่อทีมงานสั่งให้เวทเทลสลับตำแหน่งคืนให้เลอแคลร์ เขากลับอิดออดและบอกให้เลอแคลร์เร่งขึ้นมาให้ทันท้ายรถเขา ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปรถของเลอแคลร์นั้นก็ยิ่งห่างออกไปจากการที่ยางโอเวอร์ฮีทเพราะต้องตามหลังเวทเทล ทีมงานจึงได้สั่งให้เลอแคลร์ตามเวทเทลไปก่อนและจะสลับตำแหน่งให้ในภายหลัง
● เลอแคลร์เป็นคนแรกที่เข้าพิทในบรรดารถ 4 คันแรก โดยนักแข่งโมเนแกสเข้าพิทในรอบที่ 22 และเปลี่ยนเป็นยางมีเดียมออกมา ส่วนเวทเทลนั้นยังคงวิ่งต่อไปเพราะทีมงานกลัวว่าจะเกิดเหตุเซฟตี้คาร์ขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้แฮมิลตันที่ตามมาไม่ห่างได้เปรียบ
● เวทเทลเข้าพิทไปหลังจากที่เลอแคลร์เข้าพิทไปแล้ว 4 รอบ แต่เมื่อออกมาวิ่งได้ไม่ทันไรรถของเขาก็เกิดปัญหากับ MGU-K และต้องออกจากการแข่งขันไป ในช่วงนี้มี เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ ออกมาเพื่อเคลียร์รถของเวทเทล และนั่นเป็นจังหวะให้แฮมิลตันและบ็อตตาสเข้าพิท ซึ่งทำให้แฮมิลตันออกมาอยู่หน้าเลอแคลร์ทันที
● ในช่วงที่ยังคงเป็น เวอร์ชวล เซฟตี้คาร์ นั้น รถวิลเลียมส์ของ จอร์จ รัสเซล ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยนักแข่งวัย 21 ปี เบรกล็อคพุ่งตรงออกจากโค้ง 9 ไปชนกำแพง ทำให้เซฟตี้คาร์ตัวจริงต้องออกมาวิ่งเพื่อเคลียร์รถวิลเลียมส์อีกคัน
● เมื่อเซฟตี้คาร์ออกมา เฟอร์รารีจึงได้ตัดสินใจยอมสละอันดับ 2 ไปให้บ็อตตาสเพื่อเรียกเลอแคลร์เข้ามาเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์ เนื่องจากเมอร์เซเดสทั้ง 2 คัน ที่พึ่งเข้าพิทไปนั้นใช้ยางซอฟต์ทั้งคู่ เลอแคลร์ออกจากพิทมาเป็นอันดับ 3 ในช่วงนี้
● ถึงแม้ว่าจะเหลือการแข่งขันอีก 20 รอบ แต่เลอแคลร์นั้นไม่สามารถจู่โจมสร้างความกดดันให้กับบ็อตตาสได้เลย นั่นทำให้แฮมิลตันซึ่งอยู่หน้าบ็อตตาสอีกทีนั้นขับอย่างสบายตัวและเข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรก คว้าชัยชนะครั้งที่ 82 ของตัวเองได้สำเร็จ บ็อตตาสตามมาเป็นอันดับ 2 และเลอแคลร์อันดับ 3
● คู่หูเรดบูลล์นั้นจบการแข่งขันในอันดับ 4 และ 5 โดย แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ที่สตาร์ทจากกริดที่ 9 จากการเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์นั้น ค่อยๆ ไล่ทำอันดับขึ้นมา แต่กว่าจะทำอันดับขึ้นมาตามหลัง 2 ทีมใหญ่ 4 คันแรกนั้นก็หนีหายไปไกลเกินกว่าจะไล่ทันเสียแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีเซฟตี้คาร์ออกมาก็ยังไม่ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับเวอร์สแท็พเพ่น เนื่องจากวันนี้นั้นเมอร์เซเดสและเฟอร์รารีเร็วกว่าเรดบูลล์อย่างเห็นได้ชัด ส่วน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ที่สตาร์ทจากพิทเลน ทำอันดับขึ้นมาได้ช้ากว่าที่เจ้าตัวคาดหวังไว้ โชคดีที่มีเซฟตี้คาร์ออกมาจึงทำให้นักแข่งไทยจบการแข่งขันในอันดับ 5 ตามหลังเพื่อนร่วมทีมได้
● คาร์ลอส ซายน์ กลับมาเก็บแต้มได้อีกครั้งหลังจากขลุกขลักมา 3 สนาม สนามนี้เขาเข้าเส้นชันในอันดับ 6 โดยในตอนแรกเขาวิ่งอยู่ในอันดับ 4 ก่อนที่จะต้านทานบ็อตตาสและเวอร์สแท็พเพ่นไว้ไม่ไหว
● อันดับ 7 ตกเป็นของ เซอร์จิโอ เปเรซ ซึ่งทำได้ตามที่เขาให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนการแข่งขันว่า เรซซิ่งพอยต์น่าจะทำผลงานในสนามนี้ได้ดีกว่าที่สิงคโปร์ เควิน แม็กนุสเซน ในรถฮาส ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 8 แต่เขาถูกลงโทษบวกเวลา 5 วินาที ในจังหวะที่เบียดกับเปเรซและหลุดแทร็คออกไปโดยไม่อ้อมไปตามจุดที่กำหนด นั่นส่งผลให้ แลนโด้ นอริส ขึ้นมารับอันดับ 8 แทน ส่วนนักแข่งแดนตกไปอยู่อันดับ 9 อยู่หน้า นิโค ฮูลเคนเบิร์ก ซึ่งเก็บแต้มสุดท้ายของสนามนี้ให้กับเรโนลต์
● วันนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นวันที่ โรมัง โกรส์ฌอง จะทำผลงานให้กับฮาสได้อย่างดี แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันตั้งแต่ช่วงสตาร์ท เมื่อรถของเขา รถอัลฟ่า โรเมโอ ของ อันโตนิโอ โจวินาซซี และรถเรโนลต์ของ แดเนียล ริคคิอาร์โด ได้เบียดกันเข้าโค้ง 5 และชนกัน
● รถของโจวินาซซีวิ่งไปต่อได้โดยแทบไม่เกิดความเสียหาย แต่รถของริคคิอาร์โดนั้นยางหลังแตกและต้องคลานกลับไปเปลี่ยนยางที่พิท ส่วนโกรส์ฌองนั้นรถไถลไปฟาดกำแพงและต้องออกจากการแข่งขันไปชนิดที่นักแข่งเฟรนช์หัวเสียมากทีเดียว ●
สรุปผลการแข่งขัน
- ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.33.38.992 – กริด 2
- วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – +3.829 – กริด 4
- ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +5.212 – กริด 1
- แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +14.210 – กริด 9
- อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +38.348 – กริด 20 (พิทเลน)
- คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +45.889 – กริด 5
- เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +48.728 – กริด 11
- แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +57.749 – กริด 7
- เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – +58.779 – กริด 13
- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – +59.841 – กริด 6
- แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1.00.821 – กริด 14
- ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1.02.496 – กริด 19
- คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1.08.910 – กริด 15
- ปิแอร์ แกสลีย์ – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1.10.076 – กริด 16
- อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1.13.346 – กริด 12
- DNF – โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – รอบที่ 28 – รีไทร์ – กริด 18
- DNF – จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – รอบที่ 27 – เบรก / อุบัติเหตุ – กริด 17
- DNF – เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – รอบที่ 26 – MGU-K – กริด 3
- DNF – แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – รอบที่ 24 – เสียหายจากอุบัติเหตุ – กริด 10
- DNF – โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – รอบที่ 0 – อุบัติเหตุ – กริด 8
- เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.35.761 – รอบที่ 51
คะแนนสะสมประเภทนักขับ
- ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 322
- วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 249
- ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 215
- แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 212
- เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 194
- ปิแอร์ แกสลีย์ – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 69
- คาร์ลอส ซายน์ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 66
- อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 52
- แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 35
- แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – 34
- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 34
- ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 33
- เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 33
- คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 31
- เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 20
- แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 19
- โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – 8
- อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 4
- โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 1
- จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส
คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
- เมอร์เซเดส – 571
- เฟอร์รารี – 409
- เรดบูลล์ ฮอนด้า – 311
- แม็คลาเรน เรโนลต์ – 101
- เรโนลต์ – 68
- โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 55
- เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 52
- อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 35
- ฮาส เฟอร์รารี – 28
- วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 1
ที่มา :
• autosport.com.
• espnf1.com.
ผลการแข่งขันฤดูกาล 2019
● สนามที่ 01 : Australian GP : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
● สนามที่ 02 : Bahrain GP : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหา.
● สนามที่ 03 : Chinese GP : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2.
● สนามที่ 04 : Azerbaijan GP : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาด 1-2 เป็นสนามที่ 4.
● สนามที่ 05 : Spanish GP : แฮมิลตัน/บ็อตตาส เข้าเส้นชัย 1-2 เป็นสนามที่ 5.
● สนามที่ 06 : Monaco GP 2019 : แฮมิลตันรอดการจู่โจมอย่างหนัก.
● สนามที่ 07 : Canadian GP : เวทเทลต้องปล่อยชัยชนะแรกของฤดูกาล.
● สนามที่ 08 : French GP : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย.
● สนามที่ 09 : Austrian GP : เรดบูลล์หยุดสถิติชนะต่อเนื่องของเมอร์เซเดส.
● สนามที่ 10 : British GP : แฮมิลตันทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ.
● สนามที่ 11 : German GP : เมอร์เซเดสพบกับฝันร้ายเป็นครั้งแรก.
● สนามที่ 12 : Hungarian GP : แฮมิลตันแย่งแชมป์จากมือเวอร์สแท็พเพ่น.
● สนามที่ 13 : Belgian GP : เลอแคลร์ คว้าชัยแรกให้ตัวเองและเฟอร์รารี.
● สนามที่ 14 : Italian GP : เลอแคลร์โชว์ฟอร์มเหนือ รั้งคู่หูเมอร์เซเดส.
● สนามที่ 15 : Singapore GP : เวทเทล คว้าชัยชนะแรกในรอบ 1 ปีกว่า.
● สนามที่ 16 : Russian GP : แฮมิลตันคว้าชัย เฟอร์รารี่วุ่นกับทีมออเดอร์.