ถอดรหัสความซับซ้อนของพวงมาลัย ในรถแข่ง Formula 1

5.1Kviews

● หนึ่งในอุปกรณ์ที่ซับซ้อนที่สุดบนรถแข่ง นั่นคือ พวงมาลัย โดยพวงมาลัยของรถ F1 นั้น นอกจากจะมีแป้นเกียร์และคลัตช์แล้ว มันยังมีปุ่มลูกเล่นต่างๆ อีกถึง 25 ปุ่ม ด้วยกัน ซึ่งเมอร์เซเดสได้ออกมาเปิดเผยถึงผังของปุ่มต่างๆ ในการทำงานบนพวงมาลัยที่ถูกใช้ในการแข่งขันฤดูกาล 2019 นี้

● ปุ่มควบคุมต่างๆ นั้น ยังสามารถแยกย่อยลงไปได้อีก โดยจะมีปุ่มแบบสวิตช์ล้อหมุน สวิตช์แบบบิดหมุน และปุ่มกดสไตล์เครื่องบิน ซึ่งนักขับจะต้องกดอย่างหนักให้มันทำงาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกดโดยความผิดพลาด

● ที่ด้านล่างของพวงมาลัยนั้นจะเป็นสวิตช์แบบบิดหมุน 3 อัน ซึ่งควบคุมพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น ปรับแสงหน้าจอ ปรับโหมดเครื่องยนต์ หรือตั้งเซตติ้ง MGU-K

● สวิตช์ล้อหมุน 3 อัน มี 2 อัน อยู่ทางซ้าย และอีก 1 อัน อยู่ทางขวาของพวงมาลัย (Entry, Mid, Exit) 3 ปุ่มนี้จะควบคุมรถในช่วงจังหวะอยู่ในโค้ง ทั้งการเข้าโค้ง กลางโค้ง และออกจากโค้ง โดยมันจะปรับตั้งดิฟเฟอเรนเชียลเพื่อกระจายแรงบิดไปยังแต่ละฝั่งของล้อหลัง

● ส่วนอีก 2 ปุ่มนั้น ใช้โมดิฟายผลของเอ็นจิ้นเบรก (EB) และปรับตั้งเบรกบาลานซ์ (BBAL) นอกจากนั้นเบรกบาลานซ์ยังมีปุ่มแยกออกมาอีก 2 ปุ่ม โดยเป็นปุ่มกดทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาซึ่งอยู่ด้านล่างของพวงมาลัย (BB-, BB+) ปุ่มพวกนี้ใช้ในการปรับแต่งเบรกบาลานซ์อย่างละเอียด

● ในส่วนของปุ่มที่เหลือนั้นจะมีตั้งแต่ ปุ่มเปิด DRS, ปุ่มล็อคความเร็วในพิทเลน, ปุ่มเพิ่มกำลังเครื่องยนต์สูงสุด, ปุ่มเกียร์ว่าง (แทนที่จะให้นักขับดึงคลัตช์), ปุ่มพูดคุยสื่อสารผ่านวิทยุและปุ่มยืนยัน และ ปุ่มดื่มน้ำ

● ลูวอิส แฮมิลตัน และ วาลท์เทรี บ็อตตาส อาจจะใช้พวงมาลัย 3 – 4 อัน/ปี ซึ่งแต่ละอันนั้นจะใช้เวลาผลิตอยู่ที่ 80 ชั่วโมง

● การที่ทั้งคู่ต้องใช้พวงมาลัยแตกต่างกันก็เนื่องจากลักษณะทางร่างกายที่แตกต่างกัน เช่น ขนาดของมือ หรือความถนัดในการจับ พวงมาลัยจะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของนักขับทั้งสอง นอกจากนั้นการที่จะต้องมีพวงมาลัยมากกว่า 1 อัน นั้นเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละสนามที่ทำให้นักขับต้องจับพวงมาลัยและกดปุ่มลักษณะแตกต่างกันออกไป

● สำหรับพวงมาลัยอันซับซ้อนของเมอร์เซเดสนี้จะถูกผลิตที่ฐานแบร็คลีย์ โดยมันทำมาจาก คาร์บอนไฟเบอร์, ไฟเบอร์กลาส, ซิลิโคน, ไทเทเนียม และ ทองแดง

● ทว่าในส่วนของหน้าจอและแผงวงจรภายในนั้นไม่ได้ถูกทำขึ้นที่เมอร์เซเดส เนื่องจากมันเป็นชิ้นส่วนมาตรฐาน ●

ที่มา :
• www.motorsport.com.