2020 Volkswagen Golf เจนเนอเรชั่น 8 กรีนด้วย Mild hybrid และ PHEV

เรื่อง : AREA 54

●   โฟล์คสวาเกน เปิดตัวคอมแพคท์ แฮทช์แบค รุ่นที่เรารู้จักกันดี Volkswagen Golf รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 8 หรือ Mk8 ตัวรถจะมีทางเลือกในแบบกรีนๆ เป็นรุ่นไฮบริด (Mild hybrid) หลายรุ่นย่อย เสริมด้วยรุ่น plug-in hybrid อีก 2 รุ่น เพื่อรองรับความเข้มงวดของกฏด้านการปลดปล่อยมลพิษในยุโรป การเปิดตัวเป็นทางการมีขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมาในอีเวนท์เฉพาะกิจที่โวล์ฟบวร์ก

●   Golf ใหม่ยังคงมีการออกแบบที่ไม่ฉีกแนวไปจากรุ่นเดิมนัก ความเปลี่ยนแปลงโดยรวมมีไว้ให้แฟนพันธุ์แท้สังเกตเห็น เทียบกับรุ่นก่อนหน้าตัวรถมากับความยาวรวม 4,284 มม. (+29 มม.) กว้าง 1,789 มม. (-10 มม.) สูง 1,456 มม. (+4 มม.) ตัวถังวางอยู่บนฐานล้อ 2,636 มม. (-1 มม.)… เรียกว่าแทบจะคงเดิมทุกประการ

●   แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูอนุรักษ์ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเท่าไหร่นัก (ใครๆ ก็รัก Golf แต่นี่ว่ากันตามตรง) แต่ภายในนั้นใหม่หมดชนิดที่เรียกว่า ใหม่ในทุกสัดส่วน

●   มาตรวัดหลังวงพวงมาลัยมาในแบบฟูลดิจิทัล ซึ่งโฟล์คฯ จับควบรวมเอาไว้ในกรอบเดียวกับจอแสดงผลส่วนกลาง บริเวณปลายสุดทางด้านขวาของมาตรวัด (พวงมาลัยซ้าย) มีจอแสดงผลชุดระบบไฟส่องสว่างแยกตัวเป็นเอกเทศ การออกแบบโดยรวมเป็นแบบมินิมอลตามยุคสมัย และมีความล้ำกว่ารุ่นก่อนหน้ามาก

เทคโนโลยี Car2X มีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

●   Golf ใหม่เจนฯ 8 นับเป็นรถรุ่นแรกในเครือโฟล์คสวาเกน ที่ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ด้วยเทคโนโลยีในกลุ่ม V2X หรือ Vehicle-to-Everything โฟล์คฯ ใช้ชื่อทางการค้าว่า “Car2X” เชื่อมต่อรถเข้ากับฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญให้กับผู้ขับ ผ่านระบบที่โฟล์คฯ เรียกว่า OCU หรือ online connectivity unit ซึ่งรถแต่ละคันที่มีระบบ Car2X จะช่วยกันส่งข้อมูลสภาพการจราจรรอบๆ คันในรัศมีสูงสุด 800 เมตรขึ้นไปบนฐานข้อมูลส่วนกลาง จากนั้นจะส่งข้อมูลกลับไปยังรถคันอื่นๆ เพื่อแจ้งเหตุล่วงหน้าตามแต่ละกรณี เช่น มีอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้า, มีน้ำท่วมขังอยู่ข้างหน้า หรืออื่นๆ

●   เบื้องต้น OCU จะควบรวมการทำงานเข้ากับ eSIM (ซิมการ์ดแบบอิเลคทรอนิค) หมายความว่าในการให้บริการแต่ละบุคคล ต้องมีการพึ่งพาเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรคมนาคมด้วย ดังนั้น แม้ว่าโฟล์คฯ จะติดตั้งระบบ Car2X มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็จำเป็นต้องแยกแพคเกจบริการเชื่อมต่อในชื่อ We Connect และ We Connect Plus ออกมาเพื่อให้บริการออนไลน์ใช้งานได้ด้วย

●   สิ่งที่น่าชื่นชมคือ รุ่นพื้นฐานจะมีให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นตามยุคสมัยแบบครบถ้วน โดย Golf ใหม่รุ่นพื้นฐานจะมากับชุดไฟรอบคันแบบ LED, ระบบ Keyless, มาตรวัดฟูลดิจิทัลพร้อมจอแสดงผลระบบอินโฟฯ ขนาด 8.25 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Climatronic และชุดระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับ Car2X เช่น ระบบรักษาตำแหน่งรถในเลน หรือระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในยามคับขัน เป็นต้น

●   อื่นๆ ที่จะแยกไปตามเกรดรุ่นย่อยมีอาทิ ระบบไฟอัจฉริยะรุ่นใหม่ IQ.Light (ชุดไฟ LED Matrix ที่มีระบบการทำงานตามสภาพแวดล้อมในการขับ และทำงานร่วมกับระบบช่วยเหลืออื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ), จอ Head-up Display จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 10 นิ้ว, ระบบช่วยจอด ParkPilot, จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ชุดซาวด์ซิสเต็มของ Harman Kardon ไล่ไปจนถึงวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงาม

Mild hybrid มีให้หลายรุ่นย่อย

●   ด้านพละกำลัง Golf ใหม่ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล จะมากับระบบจ่ายเชื้อเพลิงตรง และเทอร์โบชาร์จ รุ่นเกียร์ธรรมดาเป็นเกียร์ 6 จังหวะรุ่นใหม่ พัฒนาขึ้นมาแบบเฉพาะตัวสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า มุ่งเน้นไปที่การลดมลพิษ (หมายถึงมีส่วนช่วยในการลดมลพิษ) โดยกลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน TSI จะมีรุ่น 3 สูบ 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 90 และ 110 แรงม้า (PS) ต่อด้วยรุ่น 4 สูบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 130 และ 150 แรงม้า และมีเกียร์ดูอัลคลัทช์ DSG 7 จังหวะเป็นออปชั่น

●   เครื่องยนต์ดีเซล TDI มาแบบบล็อคเดียวโดดๆ โฟล์คฯ ระบุว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้ออกแบบงานวิศวกรรมใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นฐาน ตัวเครื่องยนต์เป็นแบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา, เกียร์อัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MOTION all-wheel drive กำลังสูงสุดมีรุ่นย่อย 115 และ 150 แรงม้า

●   รุ่นเครื่องยนต์ Mild hybrid โฟล์คฯ เรียกมันว่าเครื่องยนต์ “eTSI” พื้นฐานการทำงานไม่ต่างจากผู้ผลิตแบรนด์อื่นๆ คือมี Belt Starter Generator ที่ออกแบบมาให้ควบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว พ่วงเอาไว้กับเครื่องยนต์เบนซิน (มีรุ่นย่อยให้ทั้งรุ่น 1.0 และ 1.5) ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน เทคโนโลยี 48 โวลท์ และมี Converter แปลงกระแสไฟฟ้าแรงสูงจากแบตเตอรี่ไปจ่ายไฟให้ระบบ ช่วยลดการทำงานของเครื่องยนต์ กำลังสูงสุดมีรุ่นย่อย 110, 130 และ 150 แรงม้า

●   ปิดท้ายด้วยรุ่น ปลั๊ก-อิน ไฮบริด โฟล์คฯ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน TSI แบบ 4 สูบ 1.4 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ความจุ (หรือความสามารถในการจ่ายไฟใน 1 ชม.) เท่ากับ 10.6 กิโลวัทท์-ชม. กำลังสูงสุดแยกเป็นรุ่น 204 และ 245 แรงม้า โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 60 กม.

●   โฟล์คฯ ยังไม่ระบุราคาจำหน่าย Golf ใหม่ในเวลานี้ การทำตลาดในยุโรปจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2019 เป็นต้นไป      ●

2020 Volkswagen Golf Mk8