Audi A7 Sportback 55 TFSI : ขับ A7 ไปเปิดตัว Q3

1.8Kviews

เรื่อง : สันติภพ นิ่มเล็ก • ภาพ : อาวดี้ ประเทศไทย

● เมื่อวันที่ 5 – 6 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา อาวดี้ ประเทศไทย จัดกิจกรรม Press Trip by Audi โดยจัดให้สื่อมวลชนไทยรวมถึง Motortrivia ร่วมพิสูจน์สมรรถนะและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถทุกเซ็กเมนต์ของอาวดี้ อาทิ สปอร์ตพรีเมียม ลักซ์ชัวรี่ซีดาน พรีเมียม SUV คอมแพคท์คาร์ และ Avant บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา รวมระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร แถมยังเปิดตัวสุดยอดพรีเมียม คอมแพคท์ครอสโอเวอร์ลุคสปอร์ต Audi Q3 ให้สัมผัสเป็นครั้งแรกในงานนี้อีกด้วย

● นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวถึง วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม Press Trip by Audi ประจำปี 2562 ว่า “เรามุ่งให้สื่อมวลชนไทย ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในด้านการนำเสนอและสื่อสารข้อมูลยนตรกรรม ได้มีโอกาสสัมผัสกับรถหลากรุ่น ส่วนหนึ่งเพื่อเข้าถึงวิสัยทัศน์ของทีมวิศวกรอาวดี้ที่สะท้อนผ่านการออกแบบที่ล้ำสมัย และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ รวมทั้งประสบการณ์แห่งสุดยอดสมรรถนะของยนตรกรรมอาวดี้แต่ละรุ่น ที่เกิดจากผสานเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro โครงสร้างตัวถัง และเทคโนโลยีความปลอดภัย ระบบข้อมูลและความบันเทิง ที่ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความมั่นใจ มีความสะดวกสบาย และมีความเพลิดเพลิน ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยวที่แตกต่าง”

● ความน่าสนใจของ Press Trip ที่จัดขึ้น คือ มียนตรกรรมอาวดี้มาให้สื่อมวลชนได้ลองขับมากถึง 16 รุ่น จำนวนทั้งหมดกว่า 40 คัน โดยไฮไลท์จะเป็น 3 รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกคือ Audi A1 Sportback, Audi A6 Avant 2.0L Black Edition และ Audi A7 Sportback รุ่น 2.0L และอีกหนึ่งความสำคัญที่สร้างความเร้าใจตลอดทริป คือ ฝูงตระกูล Audi TT ที่มาร่วมทริปครบทั้ง 3 รุ่น คือ Audi TT Coupé, Audi TT Roadster และ Audi TTS ส่วนกลุ่มตระกูล Q ซีรีส์ ที่ได้รับความนิยมสูงตลอดกาล อาวดี้จัดมาร่วมทริปทั้ง 3 รุ่น คือ Audi Q8, Audi Q7 และ Audi Q5 รวมถึง Audi A4 Avant, Audi A5 Coupé, Audi A5 Sportback, Audi A7 Sportback 3.0L และ Audi A8L ลักซ์ชัวรี่พรีเมียมซีดาน ที่ตอบโจทย์ผู้นำและผู้บริหารทุกมิติและกวาดรางวัลรถยอดระดับโลกมาหลายรายการ

● หนึ่งในจุดเด่นของอาวดี้ที่สื่อมวลชนจะได้สัมผัสประสบการณ์ตลอดการเดินทาง คือ ประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ที่สร้างความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน และมีความปลอดภัย ซึ่งในรุ่น Q5, A6 Avant, A7 จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro with Ultra Technology ที่จะมีการประมวลผลอัตโนมัติในการถ่ายทอดกำลังหน้า-หลัง เมื่อจำเป็นเพื่อลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง

● ส่วนในรุ่น A5, A8L, A4 Avant, Q8 และ Q7 จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro แบบกลไกหรือเรียกว่า Self-locking Centre Differential ที่ได้รับการพัฒนามาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุด สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลัง ได้อย่างอิสระ และมีการตอบสนองการปรับสัดส่วนกระจายแรงบิดอย่างฉับไวเพียงเสี้ยววินาที

● ขณะที่ผู้ที่ขับ Audi TT จะได้ประสบการณ์ของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro แบบอิเล็กทรอไฮดรอลิค มัลติเพลทคลัทช์ ที่จะจัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้าในการขับขี่ปกติ แต่หากอยู่ในบางสถานการณ์ที่ล้อหลังต้องการกำลังเพื่อเพิ่มการทรงตัว หรือเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ระบบจะส่งกำลังไปยังล้อหลังภายในเสี้ยววินาทีในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไปในกิจกรรม Press Trip นี้ตลอดเส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ นำโดยไอคอนสปอร์ตคูเป้ตระกูล Audi TT ครบทั้ง 3 รุ่น อาทิ TT Roadster, TTS Coupé และ TT Coupé ที่จัดมาให้สื่อมวลชนขับถึง 12 คัน ด้วยดีไซน์และรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น สีสัน สะดุดตา

● นอกจากสื่อมวลชนจะได้ขับขี่สนุก เต็มอารมณ์สปอร์ตแล้ว ตลอดเส้นทาง ฝูง TT ยังได้รับความสนใจจากว่าที่ลูกค้าอาวดี้อีกด้วย รวมไปถึง Audi A1 Sportback 35 TFSI S line อีกหนึ่งไฮไลท์เด่น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของสื่อมวลชนที่จะได้สัมผัสกับความเยี่ยมยอดของคอมแพคท์คาร์ที่แม้จะมีขนาดกะทัดรัด เหมาะใช้ในเมือง แต่ในเส้นทางท่องเที่ยวที่มีสภาพการจราจรหลากหลาย ทั้งติดขัดในบางช่วง และมีช่วงโค้ง ลาดชัน Audi A1 Sportback ก็สามารถตอบสนองได้ฉับไว อีกทั้งให้ความสะดวกสบาย จากห้องโดยสารที่กว้างขวาง พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังจุได้มาก

● อีกรุ่นใหม่อย่าง Audi A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition เอกลักษณ์แห่งสมรรถนะและดีไซน์ของอาวดี้ ที่มาพร้อมขุมพลังแบบไมล์ด ไฮบริด (Mild Hybrid) ที่ผสานอย่างลงตัวกับสมรรถนะและเทคโนโลยีแบบมาเต็ม และชุดแต่งที่เพิ่มความดุดัน Black Edition ตอบทุกความต้องการของคนไทยมากที่สุด เป็นอีกรุ่นที่เพียบพร้อม หรูหรา ให้ทั้งความสะดวกสบาย ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

● รุ่นที่มีความโดดเด่น มีดีไซน์ที่สวยงาม สปอร์ต หรูหรา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ การออกแบบที่ผสานความเป็นรถสปอร์ตคูเป้ และรถซีดานได้อย่างลงตัว คือ Audi A7 Sportback ที่มาให้สัมผัสพร้อมกันถึง 2 รุ่นพละกำลังที่มีอย่างเต็มเปี่ยมไม่แพ้ดีไซน์ ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเขาใหญ่ ด้วย Audi A7 Sportback เป็นไปอย่างสบายๆ และในช่วงรถติดก็สามารถเร่งแซงได้ฉับไว ขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro with ultra-technology ยังคงช่วยเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ทดลองขับ Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line 340 แรงม้า

● อย่างที่ได้รับทราบมาเบื้องต้นแล้วว่า กิจกรรม Press Trip by Audi ในครั้งนี้มีรถยนต์อาวดี้ถึง 16 รุ่นเลยทีเดียว ดังนั้นการทดลองขับเลยต้องวัดดวงกันว่าเราจะได้รับรุ่นใดมาขับ ซึ่ง Motortrivia ก็ได้เจ้า Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line สปอร์ต 4 ประตู มาเป็นพาหนะการเดินทางในครั้งนี้

● Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยว สวยงามด้วยกระจังหน้าแบบชิ้นเดียว มีขนาดกว้างและติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า Audi A8 โคมไฟหน้ารูปทรงเรียวและโฉบเฉี่ยว โดยชุดไฟหน้าเป็นแบบ HD Matrix LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า-หลัง (Light staging) ซึ่งประกอบด้วยชุดไฟ 12 ชุด ที่แยกจากกันด้วยเส้นแบ่งเล็กๆ ดักลมทรงโค้ง แบน ให้อารมณ์ที่ดุดันแบบสปอร์ต ฐานล้อที่ยาวและระยะโอเวอร์แฮงก์ที่สั้นช่วยเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตอย่างเต็มเปี่ยม

● เส้นสายหลังคาแบบไดนามิค ใน Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line ให้ความรู้สึกทรงพลัง โดยเส้นหลังคาลาดลงที่ด้านท้าย เพิ่มมุมมองที่โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์คล้ายรถ Coupé ยิ่งรวมกับขนาดตัวถังที่มีความยาว 4,969 มม. ฐานล้อยาว 2,926 มม. กว้าง 1,908 มม. แต่ความสูงนั้นแค่ 1,422 มม. เท่านั้น ทำให้ช่วยเพิ่มบุคลิกสปอร์ตได้เป็นอย่างดี และในส่วนท้ายยังถูกออกแบบให้มีความล้ำหน้ามากขึ้นไปอีก ด้วยสปอยเลอร์ที่อยู่ตรงฝากระโปรงหลังซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติด้วยการยื่นออกมาเมื่อขับขี่ถึงความเร็ว 120 กม./ชม. เพื่อช่วยให้รถมีการทรงตัวและการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น ส่วนของพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระมีความจุระดับ 535 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงยังสามารถเพิ่มพื้นที่ขึ้นไปอีกถึง 1,390 ลิตร เลยทีเดียว

● ห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายในให้มีความกลมกลืนกันในทุกส่วนภายใต้แนวคิด คลีน ดีไซน์ ซึ่งพยายามลดสิ่งที่รกเกะกะออกไป ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยได้เป็นอย่างดี เส้นสายแนวนอนถูกนำมาใช้ในการออกแบบภายในเช่นกันเพื่อเพิ่มมุมมองด้านความกว้างขวาง โปร่งโล่ง หรูหรา คอนโซลกลางที่เข้าหาผู้ขับขี่ ตามรูปแบบนิยมในอารมณ์สปอร์ตของ Sportback ทั้งนี้แนวคิดการออกแบบภายในอยู่บนพื้นฐานของ 4 องค์ประกอบหลัก คือ ได้ในสิ่งที่มากกว่า, สปอร์ต, ง่ายต่อการใช้งาน และสร้างแรงดึงดูด ระบบควบคุมการทำงานในห้องโดยสาร ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายด้วยระบบสัมผัส และคำสั่งเสียง โดยต่อยอดมาจากความสำเร็จในการนำกลยุทธ์ Digitalization มาใช้ใน A8 ที่ปุ่มหมุนต่างๆ ที่มีอยู่เดิม ถูกแทนที่ด้วยปุ่มระบบดิจิทัลบนหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 2 จอ ที่ผู้ขับสามารถควบคุมระบบบันเทิง หรือว่าข้อมูลต่างๆ ผ่านหน้าจอด้านบนที่ติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง

● ส่วนจอด้านล่างขนาด 8.6 นิ้ว ใช้สำหรับควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ ฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบายต่างๆ รวมถึงการป้อนคำสั่งด้วยตัวอักษร ทั้งนี้ผู้ขับสามารถวางข้อมือไว้บนคันเกียร์ควบคุมปุ่มหมุนตรงคอนโซลกลาง เพื่อป้องกันการเมื่อยล้าได้อีกด้วย อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบคำสั่งเสียงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่รวมถึง MMI Navigation plus ขณะที่ระบบควบคุม MMI Touch responses และการควบคุมเสียงออนไลน์ ติดตั้งระบบเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ

● สัมผัสแรกเมื่อได้ลองเข้าไปนั่งแล้วจะรู้สึกถึงความเป็นสปอร์ตอย่างเต็มเปี่ยม ตัววัสดุภายในตัวรถดีมาก การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆลงตัวและใช้งานง่าย แถมยังไม่ดูรกจนสับสนเวลาใช้งานในชีวิตประจำวัน ตัวเบาะนั่งปรับไฟฟ้าได้จุใจทำให้นั่งสบายทุกการเดินทาง เอื้อมมือไปขยับตำแหน่งเกียร์เพื่อออกเดินทางต้องรู้สึกประทับใจการการออกแบบคันเกียร์ที่ดูหรูหราและสวยงามเป็นอย่างมาก ช่วงแรกขับจากจุดสตาร์ทแถวริมถนนประดิษฐ์มนูธรรมมุ่งสู่ทางด่วนพิเศษฉลองรัช

● ขับไปได้สักพักก็ลองปรับโหมดการขับขี่ของตัวรถเล่นหน่อย คือเจ้า Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line สามารถปรับการทำงานของรถได้ถึง 5 รูปแบบในโหมด Audi Drive Select ทั้งแบบขับช้าๆ ประหยัดน้ำมัน ปรับอัตโนมัติหรือเลือกปรับเองว่าจะเอาแบบซิ่งหรือขับง่ายแบบนุ่มๆ ลองเลือกเล่นสักหน่อยแล้วก็ขับมุ่งหน้าต่อไป เส้นทาง กาญจนาภิเษก-บางปะอิน แล้วต่อด้วยถนนพหลโยธินเพื่อมุ่งสู่จังหวัดสระบุรีและเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

● สภาพเส้นทางช่วงถนนพหลโยธินเป็นถนนเรียบที่พอจะเพิ่มความเร็วในการเดินทางได้อีกหน่อย Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร 2,995 ซีซี. เทอร์โบชาร์จ กำลังอัด 11.2:1 กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,000-6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,370-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ S tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อมติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ (BAS) 48V (Mild Hybrid : MHEV) และแบตเตอรี่ Lithium-ion เพื่อช่วยในการออกตัว และประหยัดน้ำมันมากขึ้น

● เมื่อได้ลองขับก็ยอมรับเลยว่าอัตราเร่งช่วงต้นดีมาก การเร่งแซงทำได้ดีเยี่ยม แถมบางช่วงต้องเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกหน่อยก็ทำได้อย่างทันใจ ยิ่งเมื่อรวมกับระบบส่งกำลังทั้งหมดยิ่งทำให้เป็นรถที่ขับสนุกอีกหนึ่งคันเลยทีเดียว

● ส่วนของระบบช่วงล่างด้านหน้าใช้ช่วงล่างแบบดับเบิ้ลวิชโบน ปีกนกอะลูมิเนียมคู่และเหล็กกันโคลง แขนยึดโยงของช่วงล่างด้านหน้าทำจากอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก ส่วนช่วงล่างหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ จุดยึดต่างๆ ของช่วงล่างด้านหลังยังคงใช้อะลูมิเนียมเช่นกัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีมาก กระชับฉับไว เกาะทุกพื้นผิวถนน สมกับเป็นรถยนต์สปอร์ต 4 ประตูที่สามารถใช้งานในเมืองและเดินทางไกลได้อย่างลงตัว

เปิดตัว Q3 พร้อมราคา 3 รุ่นย่อย

● กิจกรรม Press Trip by Audi ในครั้งนี้ อาวดี้มีการเปิดตัวสุดยอดพรีเมียม คอมแพคท์ครอสโอเวอร์ลุคสปอร์ต Audi Q3 เป็นครั้งแรกด้วย และยังเพิ่มอีกความแรงด้วย Q3 Sportback

● Q3 มากับขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์เจอร์ขนาด 1,400 ซีซี พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงหรือไดเร็คอินเจ็คชั่น ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่รอบกว้าง 1,500-3,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อ ชม. ในเวลาเพียง 9.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 207 กม./ชม.