November 6, 2019
Motortrivia Team (10180 articles)

MG Extender 2.0 Grand เกาะทางเรียบ แกร่งทางลุย

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : MG ประเทศไทย

●   ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มทางเลือกในตลาดปิกอัพ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ EXTENDER มาพร้อมสโลแกน กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง ในงานเปิดตัวที่สนาม 8 Speed มีการทดลองขับเรียกน้ำย่อย ทิ้งช่วงประมาณ 3 เดือนจึงจัดทดสอบเต็มรูปแบบอีกครั้งจากใต้ขึ้นเหนือ ระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตร ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ได้ขับช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทางรวมประมาณ 350 กิโลเมตร

●   นั่งเครื่องบินไปลงสนามบินพิษณุโลก จากนั้นนั่งรถตู้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายเอ็มจี วีจี คาร์ พิษณุโลก เพื่อฟังบรรยายสรุปผลิตภัณฑ์และเริ่มขับรถทดสอบ จุดหมายแรกอยู่ที่ร้านอาหารกลางวัน By The River Restaurant จังหวัดอุตรดิตถ์ ระยะทางช่วงนี้ประมาณ 115 กิโลเมตร จากนั้นสลับผู้ขับเพื่อเดินทางต่อไปยังที่พัก โรงแรมเวียงลคอร จังหวัดลำปาง ระยะทางวันแรกประมาณ 250 กิโลเมตร ส่วนวันที่ 2 ขับจากลำปางมุ่งหน้าเชียงใหม่ประมาณ 100 กิโลเมตร

●   รุ่นที่ได้ทดลองขับคือ 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT ตัวรถมีความยาว 5,365 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,850 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,155 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,580 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 183 มิลลิเมตร (รุ่นยกสูง 4×2 มีระยะต่ำสุด 216 มิลลิเมตร) ล้อและยางขนาด 255/60 R18

คันใหญ่แต่ขับง่าย ภายในกว้างและเงียบ

●   เห็นโฆษณาว่ากระบะพันธุ์ยักษ์ ก็คิดว่าน่าจะขับยาก แต่หลังจากขับออกจากโชว์รูมเอ็มจี พิษณุโลก ฝ่าเมืองมุ่งหน้าจังหวัดอุตรดิตถ์ ก็ไม่รู้สึกว่าใหญ่จนเกะกะหรือขับยาก ด้วยทัศนวิสัยรอบคันที่มองได้สูงและกว้าง ทำให้กะระยะได้ง่าย ใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็ขับได้คล่อง และขณะถอยหลังหรือขับด้วยความเร็วต่ำ ก็มีกล้องมองรอบคันพร้อมสัญญาณเตือนกะระยะ แสดงผลบนจอสัมผัสขนาด 10 นิ้วที่คอนโซลกลาง ช่วยให้ขับง่ายขึ้น

●   ระบบไฟหน้าแบบ AFS หรือ Adaptive Front Lightning System ปรับทิศทางของไฟหน้าตามการหมุนพวงมาลัย ช่วยให้ขับทางโค้งตอนกลางคืนได้อย่างปลอดภัย มาพร้อมสวิตช์เปิด-ปิดการทำงาน เพิ่มความปลอดภัยในการขับรถคันใหญ่ๆ ด้วย BSD หรือ Blind Spot Detection System เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ทำงานที่ความเร็วเกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระบบเตือนเมื่อขับรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ สามารถปิดระบบได้เช่นกัน

●   เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า พวงมาลัยปรับได้แค่สูง-ต่ำ ปรับระยะใกล้-ไกลไม่ได้ เบาะนั่งค่อนข้างแข็งและไม่โอบกระชับเท่าไร นั่งแล้วรู้สึกลอยๆ ไปนิด ทัศนวิสัยรอบคันอยู่ในเกณฑ์ดี การจัดวางตำแหน่งสวิตช์ควบคุมและบางสัญลักษณ์จะแตกต่างจากรถญี่ปุ่น ต้องทำความคุ้นเคยสักพัก พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางโปร่งสบาย เอ็มจีระบุว่ามีการลดเสียงรบกวนด้วยการติดตั้งฉนวนกันเสียง 9 จุด ทั้งใต้ฝากระโปรงหน้า, ฝาครอบเครื่องยนต์, ในห้องเครื่องยนต์, ในบานประตู, บริเวณพื้นห้องโดยสาร, หลังคา, เสาหลังคา, ผนังห้องโดยสารด้านหลัง รวมทั้งการใช้พรมแบบดูดซับเสียง เอ็มจีระบุว่าในห้องโดยสารจะมีเสียงระดับ 43 เดซิเบลเมื่อจอด และ 64 เดซิเบล เมื่อขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

●   เมื่อถนนโล่งลองเร่งความเร็วไปที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเก็บเสียงทำได้ดี มีเสียงลมปะทะในระดับที่รับได้สำหรับรถทรงสูงต้านลม และด้านหน้ารถก็ไม่ได้แหลมเพรียมลมแหวกอากาศสักเท่าไร เสียงเครื่องยนต์ก็ค่อนข้างเงียบ ทั้งตอนที่อยู่นอกรถและนั่งในรถ ความสั่นสะเทือนถูกลดทอนลงไปมาก ใช้ความเร็วเดินทาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารเงียบและนิ่งไม่เขย่า ขับได้ไกลโดยไม่เหนื่อยล้ามากนัก

●   หลังจากสลับผู้ขับแล้วลองย้ายไปนั่งเบาะหลัง สังเกตว่าแม้ผู้ขับจะค่อนข้างสูง แต่เบาะหลังก็ยังมีพื้นที่วางขาที่กว้างเหลือเฟือ พนักพิงเบาะหลังตั้งชันไปนิด ถ้าเอนอีกหน่อยจะนั่งได้สบายขึ้น กับหมอนรองศีรษะที่รู้สึกว่าดันหัวมาข้างหน้ามากไปนิด ส่วนเรื่องความเย็นไม่ต้องห่วงเพราะมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์มาให้พร้อม

●   วัสดุและการประกอบดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เป็นเอ็มจียุคใหม่ยุคเดียวกับ HS การออกแบบดูสากลมากขึ้น คุณภาพวัสดุโดยเฉลี่ยแล้วดีขึ้น อาจมีบางจุดที่ยังขัดตาอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่อรวมกับการประกอบที่เนี๊ยบขึ้น ทำให้สภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสารดูน่าขับ ใช้งานเป็นรถส่วนตัวหรือใช้แทนเอสยูวีพอได้

เครื่องยนต์และเกียร์ยังขัดใจ

●   EXTENDER ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล หัวฉีดจาก Bosch แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง 2,000 บาร์ เทอร์โบแบบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1,996 ซีซี กำลังสูงสุด 119 กิโลวัตต์ หรือ 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โอเวอร์ไดรฟ์อัตราทดต่ำกว่า 1.000 ที่เกียร์ 5 และ 6

●   ช่วงแรกขับในเมืองที่ต้องออกตัวจากจุดหยุดนิ่งบ่อยๆ รู้สึกว่าคุมคันเร่งยาก แตะคันเร่งเบาๆ รถไม่ค่อยขยับ พอกดคันเร่งลึกๆ รถก็จะพุ่งเร็วเกินความต้องการ หลังจากขับได้พักใหญ่ๆ อาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่หายขาด ขับในเมืองต้องใจเย็นๆ ปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกให้รถไหลไปเล็กน้อยแล้วค่อยๆ เติมคันเร่งจะได้ความนุ่มนวลนั่งสบาย แต่ถ้าเป็นการเร่งรวดเดียวยาวๆ ทั้งเครื่องยนต์และเกียร์จะตอบสนองได้ต่อเนื่องและลื่นไหลดี ไม่ต้องเค้นกันมากก็ไล่ไปถึงความเร็ว 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้สบายๆ การเปลี่ยนเกียร์น่าจะเซตมาเน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก เลยมีจังหวะหน่วงนิดๆ ก่อนเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลง ทั้งแบบคุมด้วยคันเร่งและคุมด้วยการโยกคันเกียร์ไปตำแหน่ง +/-

ช่วงล่างนุ่มหนึบถูกใจ

●   ประสิทธิภาพระบบกันสะเทือนของรถกระบะ ยังคงถูกจำกัดด้วยการใช้งานที่ต้องรองรับการบรรทุกหนักได้ด้วย รูปแบบของช่วงล่างก็ไม่ต่างจากแบรนด์อื่นมากนัก ด้านหน้าอิสระปีกนก 2 ชั้น ด้านหลังคานแข็ง แหนบซ้อนวางบนเพลา ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ และพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฮดรอลิก

●   เริ่มชอบช่วงล่างของ EXTENDER ตั้งแต่เมื่อวาน ช่วงมุ่งหน้าจังหวัดอุตรดิตถ์ ถนนไฮเวย์ทำความเร็วได้ แต่คดเคี้ยวขึ้นลงเขา ตัวรถนิ่ง ไม่ออกอาการโยนหรือเหวี่ยง ทั้งที่ลองแกล้งรถด้วยการไม่ขับตัดเลน การควบคุมพวงมาลัยใช้แรงไม่มากนัก เข้าโค้งกว้างๆ ด้วยความเร็วค่อนข้างสูงได้อย่างมั่นใจ ลองอีกครั้งช่วงเดินทางจากลำปางมุ่งหน้าเชียงใหม่ ช่วงผ่านอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ขับทางคดเคี้ยวได้เนียนและเบาแรง การดูดซับแรงสะเทือนก็ทำได้ดี นุ่มนวลนั่งสบาย มีบางจังหวะที่เจอกับถนนคลื่นลอนต่อเนื่อง จะเริ่มมีอาการหน้าสับอยู่บ้าง แก้ไขแบบไม่เสียเงินด้วยการลดความเร็วลง หรือจะหาช็อคฯ ที่หนืดขึ้นอีกนิดก็น่าจะช่วยได้ แต่ก็น่าจะสูญเสียความนุ่มนวลไปบ้าง

●   พวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิก ดีในแง่ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ แต่การแปรผันการผ่อนแรงยังเป็นรองพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เพราะที่ความเร็วต่ำพวงมาลัยค่อนข้างหนัก และรู้สึกว่าน่าจะหนืดกว่านี้อีกนิดเมื่อใช้ความเร็วสูง โดยรวมถือว่าไม่แย่แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นจุดเด่น ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ สร้างแรงเบรกได้ดี เบรกอยู่ แต่ช่วงแรกที่แตะเบรกเบาๆ จะไม่รู้สึกถึงแรงดูดแรงดึงมากนัก ต้องเพิ่มแรงกดแป้นเบรกอีกระดับ โดยรวมเป็นระบบเบรกที่ดี แต่ต้องใช้แรงเหยียบมากสักนิด

●   ขับคนเดียวจากโรงแรมเวียงลคอรจังหวัดลำปาง ถึงห้วยตึงเฒ่าจังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร แวะสลับผู้ขับแล้วเข้าสู่ทางออฟโรด อ้อมลงทางดอยสุเทพ สภาพเส้นทางส่วนใหญ่เป็นดินและหินลอย มีร่องน้ำเซาะขนาดใหญ่และก้อนหินใหญ่ประปราย โชคดีที่ก่อนหน้านี้ฝนขาดเม็ดทำให้เส้นทางไม่ลื่นไม่โหดเกินไป ช่วงแรกใช้ 4H ซึ่งจริงๆ ก็เหลือเฟือสำหรับตลอดเส้นทาง แต่เพื่อความชัวร์จึงเปลี่ยนเป็น 4L จอดรถนิ่งสนิท พวงมาลัยตรง ปลดเกียร์หลักเป็นเกียร์ว่าง แล้วหมุนปุ่มเลือกโหมด 4×4 เป็น 4L ใช้ประโยชน์จากอัตราทดที่สูงช่วยเพิ่มพลังการขับเคลื่อน ปล่อยให้รถมี Walking Speed ไต่ขึ้นเนินด้วยความนุ่มนวล ผู้ขับแค่มองทางล่วงหน้าเพื่อเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด

●   นอกเหนือจากพละกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์และอัตราทดในเกียร์ขับเคลื่อน 4 ล้อแล้ว ตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ใน EXTENDER ก็ทำให้การขับออฟโรดเป็นสันทนาการ เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist System หรือ HAS ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descend Control System หรือ HDC รวมทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล Traction Control System หรือ TCS ประกอบกับผิวทางที่ไม่เละ ทำให้ยางเดิมติดรถขับผ่านได้สบาย

●   MG EXTENDER 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT ราคา 1,029,000 บาท กระบะ 4 ประตูที่ให้ความนุ่มนวลนั่งสบายแบบเอสยูวี และลุยได้พอสมควรแบบรถขับเคลื่อน 4 ล้อ อุปกรณ์มาตรฐานเหลือเฟือ ตัวรถดูคันใหญ่แต่ขับไม่ยาก ภายในกว้างสูงโปร่งทัศนวิสัยดี ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบและไม่สั่นเขย่า เครื่องยนต์เงียบนิ่ง แรงพอตัว อัตราสิ้นเปลืองยังวัดไม่ได้ จังหวะของระบบส่งกำลังต้องอาศัยการปรับตัวจากผู้ขับ ช่วงล่างโดดเด่นทั้งการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวล

●   เอ็มจี ตอบโจทย์เรื่องความมั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพ 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร พร้อม Call Center บริการ 24 ชั่วโมง ทุกวัน, Mobile Service หน่วยเซอร์วิสเคลื่อนที่, Roadside Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง, Application บนสมาร์ทโฟนรองรับภาษาไทย พร้อมศูนย์บริการ 108 แห่งทั่วประเทศ และอยู่ในช่วงก่อสร้างอีก 31 แห่ง  ●


2019 MG Extender : Group Test