December 7, 2019
Motortrivia Team (10180 articles)

F1 Abu Dhabi GP 2019 : แฮมิลตันขับกินลมชมวิวปิดฤดูกาล

Posted by : FascinatorFJ.

●   ลูวอิส แฮมิลตัน ปิดฉากฤดูกาล 2019 ด้วยการขับกินลมชมวิวเข้าเส้นชัยไปแบบชิลๆ ส่วน แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ก้าวข้ามปัญหารถ ซิ่งแซง ชาร์ล เลอแคลร์ รับอันดับ 2

●   ชัยชนะครั้งที่ 11 ของแฮมิลตันในฤดูกาลนี้ดูจะไม่เป็นที่ต้องสงสัยแต่อย่างใด เมื่อนักขับเมอร์เซเดสออกตัวนำจากตำแหน่งโพล ตามมาด้วยเลอแคลร์ในรถเฟอร์รารีที่แซงเวอร์สแท็พเพ่นขึ้นมาได้บนทางตรงยาว

●   การแข่งขันนั้นยังคงนิ่งอยู่ในช่วง 10 รอบแรก และเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเฟอร์รารีทั้ง 2 คัน เข้าพิทแบบดับเบิ้ล ในรอบที่ 12 ซึ่งเลอแคลร์ที่อยู่ข้างหน้านั้นทำพิทได้เป็นปกติ แต่ เซบาสเตียน เวทเทล ที่เข้าพิทตามมานั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกรั้งในพิท แต่ทีมงานก็มีปัญหากับการเปลี่ยนยางทำให้นักแข่งเยอรมันสูญเสียเวลาไปมากทีเดียว

●   เวทเทลออกจากพิทตกไปอยู่ข้างหลัง วาลท์เทรี บ็อตตาส นักแข่งเมอร์เซเดสที่สตาร์ทจากท้ายแถวเนื่องจากเปลี่ยนเครื่องยนต์ยกชุด และนี่ทำให้นักแข่งเยอรมันมีปัญหาเนื่องจากเซิร์ฟเวอร์การใช้งาน DRS ขัดข้อง และ FIA ตัดสินใจสั่งห้ามนักแข่งใช้ DRS นั่นทำให้เวทเทลติดอยู่ข้างหลังบ็อตตาสไม่สามารถแซงขึ้นไปได้ เพราะบ็อตตาสเองก็ติดอยู่ข้างหลังนักแข่งเรโนลต์อย่าง นิโค ฮูลเคนเบิร์ก เช่นกัน

●   ที่ด้านหน้า ทั้งแฮมิลตันและเวอร์สแท็พเพ่นยืดระยะการวิ่งออกไป จนถึงรอบที่ 25 เวอร์สแท็พเพ่นก็ได้เข้าพิทมา และแฮมิลตันเข้าพิทในรอบถัดมา ทั้งคู่นั้นเปลี่ยนเป็นยางฮาร์ด

●   ในช่วงนี้เวอร์สแท็พเพ่นพบปัญหากับคันเร่ง โดยคันเร่งของเขานั้นมีการตอบสนองที่แปลกประหลาด บางครั้งต้องรอเวลากว่าคันเร่งจะตอบสนอง บางครั้งทอร์คก็หายไป อย่างไรก็ตามแม้จะพบกับปัญหาเหล่านี้ เวอร์สแท็พเพ่นก็ยังสามารถไล่จี้เลอแคลร์เข้าไปได้เรื่อยๆ และแซงผ่านนักแข่งโมนาโคขึ้นมาได้

●   ทางเฟอร์รารีได้เรียกเลอแคลร์เข้าพิทมาเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์ช่วงสุดท้ายเพื่อกดเวลา แต่ดูเหมือนว่าวันนี้รถเฟอร์รารีจะเครื่องไม่ร้อน เลอแคลร์ไม่สามารถกดเวลาต่อรอบที่รวดเร็วออกมาได้เลย และทำให้เขาต้องเข้าเส้นชัยอันดับ 3 ตามหลังเวอร์สแท็พเพ่นถึงเกือบ 30 วินาที

●   นอกจากนั้นบ็อตตาสซึ่งเข้าพิทครั้งเดียวและเปลี่ยนยางฮาร์ดออกมาวิ่งช่วงสุดท้าย ได้ไล่หลังเลอแคลร์เข้ามาจนเกือบจะแซงได้ โดยนักแข่งฟินน์ตามหลังนักแข่งโมนาโคเข้าเส้นชัยไม่ถึง 1 วินาที

●   เลอแคลร์เองถึงแม้ว่าจะเข้าเส้นชัยในอันดับ 3 แต่เจ้าตัวกลับต้องมานั่งลุ้นว่าจะรักษาอันดับของตัวเองไว้ได้หรือไม่ เมื่อเฟอร์รารีนั้นถูกสอบสวนตั้งแต่ก่อนการแข่งขันเนื่องจากทางทีมแจ้งปริมาณเชื้อเพลิงไว้ไม่ตรงกับที่กรรมการตรวจสอบได้จากบนรถ อย่างไรก็ตามกรรมการตัดสินให้เลอแคลร์ยังเก็บรักษาอันดับของตัวเองเอาไว้ได้ แต่ได้ปรับเงินต้นสังกัดไปเป็นจำนวนถึง 50,000 ยูโร

●   ทางด้านบ็อตตาสที่สตาร์ทจากกริด 20 จนขึ้นมาจบอันดับ 4 นั้น ในช่วงแรกเขายังคงขยับอันดับได้อย่างเชื่องช้า เนื่องจากระบบการส่งข้อมูลของ DRS จากนายสนามไปยังรถแข่งนั้นมีปัญหา นั่นทำให้นายสนามสั่งปิดการใช้งาน DRS ไปถึงเกือบครึ่งการแข่งขัน ซึ่งทำให้นักแข่งฟินน์ติดอยู่หลังรถเรโนลต์อยู่นานทีเดียว ก่อนที่ DRS จะถูกอนุญาตให้ใช้งาน และบ็อตตาสไม่รอช้ารีบเคลียร์รถคันหน้าและขยับอันดับขึ้นมาทันที

●   ทางด้านเวทเทลที่ใช้กลยุทธ์ 2 พิท ก็สามารถแซง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน จากเรดบูลล์ ในขณะที่เหลืออีก 2 รอบ ขึ้นมาจบในอันดับ 5 ได้ในที่สุด

●   เป็นอีกครั้งที่ เซอร์จิโอ เปเรซ ทำผลงานได้ดีที่สุดต่อจาก 3 ทีมใหญ่ นักแข่งเม็กซิกันพารถเรซซิ่งพอยต์แซง แลนโด้ นอริส จากแม็คลาเรน ได้ในรอบสุดท้าย ส่งผลให้เขาจบการแข่งขันในอันดับ 7 โดยนักแข่งวัย 20 ปี ตามมาเป็นอันดับ 8

●   ทางด้าน คาร์ลอส ซายน์ซ พารถแม็คลาเรนแซง นิโค ฮูลเคนเบิร์ก ในรถเรโนลต์ รอบสุดท้ายเช่นกัน นั่นทำให้นักแข่งสแปนิชเก็บแต้มสุดท้ายและทะยานคว้าอันดับ 6 ในคะแนนสะสมประเภทนักขับไปจนได้ ส่วนฮูลเคนเบิร์กตกลงไปเป็นอันดับ 12 เนื่องจากถูกเพื่อนร่วมทีม แดเนียล ริคคิอาร์โด อาศัยจังหวะที่ซายน์ซแซงมุดตามขึ้นมาอีกคัน

●   แต่ถึงแม้ว่าเรโนลต์จะไม่ได้แต้มในสนามนี้ แต่โทโรรอสโซเองก็ทำได้ดีที่สุดกับ ดานีล คฟยาต ในอันดับ 9 นั่นทำให้เรโนลต์คว้าอันดับ 5 ในคะแนนสะสมประเภททีม เฉือนโทโรรอสโซไป 6 คะแนน

●   มีรถไม่จบการแข่งขันอยู่ 1 คัน นั่นคือ แลนซ์ สโตรล ซึ่งรถเรซซิ่งพอยต์ของเขามีปัญหากับระบบเบรก โดยวันนี้ไม่ใช่วันที่ดีเท่าไรนักของสโตรล เพราะเขาเกิดการปะทะกับ ปิแอร์ แกสลีย์ ในรถโทโรรอสโซ ตั้งแต่โค้งแรก  ●

สรุปผลการแข่งขัน

  1. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.34.05.715 – กริด 1
  2. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +16.772 – กริด 2
  3. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – +43.435 – กริด 3
  4. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – +44.379 – กริด 20
  5. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – +1.04.437 – กริด 4
  6. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – เรดบูลล์ ฮอนด้า – +1.09.205 – กริด 5
  7. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 10
  8. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 6
  9. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +1 รอบ – กริด 13
  10. คาร์ลอส ซายน์ซ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 8
  11. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 7
  12. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – +1 รอบ – กริด 9
  13. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 17
  14. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 14
  15. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 15
  16. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – +1 รอบ – กริด 16
  17. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +1 รอบ – กริด 18
  18. ปิแอร์ แกสลีย์ – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – +2 รอบ – กริด 11
  19. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – +2 รอบ – กริด 19
  • DNF – แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – รอบที่ 45 – เบรก – กริด 12
  • เวลาต่อรอบเร็วที่สุด – ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 1.39.283 – รอบที่ 53

คะแนนสะสมประเภทนักขับ

  1. ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส – 413
  2. วาลท์เทรี บ็อตตาส – เมอร์เซเดส – 326
  3. แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 278
  4. ชาร์ล เลอแคลร์ – เฟอร์รารี – 264
  5. เซบาสเตียน เวทเทล – เฟอร์รารี – 240
  6. คาร์ลอส ซายน์ซ – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 96
  7. ปิแอร์ แกสลีย์ – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 95
  8. อเล็กซานเดอร์ อัลบอน – เรดบูลล์ ฮอนด้า – 92
  9. แดเนียล ริคคิอาร์โด – เรโนลต์ – 54
  10. เซอร์จิโอ้ เปเรซ – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 52
  11. แลนโด้ นอริส – แม็คลาเรน เรโนลต์ – 49
  12. คิมี ไรค์โคเนน – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 43
  13. ดานีล คฟยาต – โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 37
  14. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก – เรโนลต์ – 37
  15. แลนซ์ สโตรล – เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 21
  16. เควิน แม็กนุสเซน – ฮาส เฟอร์รารี – 20
  17. อันโตนิโอ โจวินาซซี – อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 14
  18. โรมัง โกรส์ฌอง – ฮาส เฟอร์รารี – 8
  19. โรเบิร์ต คูบิคซ่า – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 1
  20. จอร์จ รัสเซล – วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส

คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต

  1. เมอร์เซเดส – 739
  2. เฟอร์รารี – 504
  3. เรดบูลล์ ฮอนด้า – 417
  4. แม็คลาเรน เรโนลต์ – 145
  5. เรโนลต์ – 91
  6. โทโรรอสโซ ฮอนด้า – 85
  7. เรซซิ่งพอยต์ เมอร์เซเดส – 73
  8. อัลฟ่า โรเมโอ เฟอร์รารี – 57
  9. ฮาส เฟอร์รารี – 28
  10. วิลเลียมส์ เมอร์เซเดส – 1

ที่มา :
•  autosport.com.
•  espnf1.com.


ผลการแข่งขันฤดูกาล 2019

●   สนามที่ 01 : Australian GP : บ็อตตาสเชือดคู่แข่งทุกคนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก.
●   สนามที่ 02 : Bahrain GP : แฮมิลตันคว้าชัยแบบส้มหล่น หลังเลอแคลร์มีปัญหา.
●   สนามที่ 03 : Chinese GP : แฮมิลตันคว้าชัย พร้อมพาเมอร์เซเดสจบ 1-2.
●   สนามที่ 04 : Azerbaijan GP : บ็อตตาส/แฮมิลตัน กวาด 1-2 เป็นสนามที่ 4.
●   สนามที่ 05 : Spanish GP : แฮมิลตัน/บ็อตตาส เข้าเส้นชัย 1-2 เป็นสนามที่ 5.
●   สนามที่ 06 : Monaco GP 2019 : แฮมิลตันรอดการจู่โจมอย่างหนัก.
●   สนามที่ 07 : Canadian GP : เวทเทลต้องปล่อยชัยชนะแรกของฤดูกาล.
●   สนามที่ 08 : French GP : แฮมิลตันนำตั้งแต่โพลจนกระทั่งถึงเส้นชัย.
●   สนามที่ 09 : Austrian GP : เรดบูลล์หยุดสถิติชนะต่อเนื่องของเมอร์เซเดส.
●   สนามที่ 10 : British GP : แฮมิลตันทำสถิติเป็นผู้ชนะสูงสุดคนใหม่ในรายการ.
●   สนามที่ 11 : German GP : เมอร์เซเดสพบกับฝันร้ายเป็นครั้งแรก.
●   สนามที่ 12 : Hungarian GP : แฮมิลตันแย่งแชมป์จากมือเวอร์สแท็พเพ่น.
●   สนามที่ 13 : Belgian GP : เลอแคลร์ คว้าชัยแรกให้ตัวเองและเฟอร์รารี.
●   สนามที่ 14 : Italian GP : เลอแคลร์โชว์ฟอร์มเหนือ รั้งคู่หูเมอร์เซเดส.
●   สนามที่ 15 : Singapore GP : เวทเทล คว้าชัยชนะแรกในรอบ 1 ปีกว่า.
●   สนามที่ 16 : Russian GP : แฮมิลตันคว้าชัย เฟอร์รารี่วุ่นกับทีมออเดอร์.
●   สนามที่ 17 : Japanese GP : บ็อตตาสช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ 6 สมัย.
●   สนามที่ 18 : Mexican GP : แฮมิลตันยังต้องรอลุ้นแชมป์โลกสนามหน้า.
●   สนามที่ 19 : US GP : ลูวอิส แฮมิลตัน ครองแชมป์โลกสมัยที่ 6.
●   สนามที่ 20 : Brazilian GP : แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่นฝ่าดราม่าคว้าชัย.
●   สนามที่ 21 : Abu Dhabi GP : แฮมิลตันปิดฉากฤดูกาล ขับกินลมชมวิว.