2020 Lordstown Endurance ปิคอัพไฟฟ้ามอเตอร์ 4 ตัว

536views

เรื่อง : AREA 54

● Lordstown Motors อีกหนึ่งผู้ผลิตหน้าใหม่ในกลุ่มปิคอัพไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ เตรียมเปิดตัวรถรุ่นแรก Lordstown Endurance โดยใช้โรงงานเก่าของ GM ในเมืองลอร์ดสทาวน์ รัฐโอไฮโอ เป็นฐานการผลิต ระบบขับเคลื่อนแปลกแยกจากคู่แข่งอื่นๆ ณ วันปัจจุบันด้วยการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าควบรวมไว้ในฮับล้อทั้ง 4

● ในความเป็นจริง การแยกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้ในฮับล้อ หรือ In-Wheel Motor ไม่ใช่เรื่องใหม่ รถไฟฟ้าขนาดจิ๋วในบ้านเราอย่าง FOMM One ก็ใช้งานระบบนี้ และในส่วนของงานวิจัยพัฒนานั้น ผู้ผลิตมากมายต่างก็ใช้แนวคิดนี้มานานพอสมควร… ใหม่หน่อยก็เช่น SIN Concept ของบริษัท Biomega, Fine-Comfort Ride Concept ของโตโยต้า หรือแม้แต่ในผู้ผลิตยางเช่นบริดจสโตนก็เคยนำเสนอแนวคิดนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2006 หรือราว 13 ปีมาแล้ว

● อย่างไรก็ตาม ลอร์ดสทาวน์ขอเคลมว่าเป็นผู้ผลิตรายแรกของโลกในกลุ่มปิคอัพไฟฟ้า ที่จะใช้งานระบบ In-Wheel Motor หรือ “In-Wheel Hub Motor” แทนที่การใช้มอเตอร์หมุนเพลาครับ ตรงนี้ลอร์ดสทาวน์ระบุว่า มันจะช่วยให้มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่น้อยลง บำรุงรักษาง่าย ลดค่าใช้จ่ายในการดูแล และยังช่วยให้ตัวรถมีการควบคุมที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากการใช้ระบบอิเลคทรอนิคส์ในการควบคุมการกระจายแรงบิดในล้อทั้ง 4 อย่างเป็นเอกเทศและแม่นยำ

● โดยรวมแล้วลอร์ดสทาวน์ต้องการให้ Endurance เป็นรถไฟฟ้าในกลุ่มพาณิชย์ เน้นการใช้งานจริงเป็นหลัก และต้องบอกว่าเป็นผู้เล่นรายแรกในกลุ่มนี้ที่พูดถึงการลดค่าใช้จ่ายหลังการเป็นเจ้าของอย่างจริงจัง (ในขณะที่คู่แข่งเริ่มต้นด้วยการพูดถึงสินค้าตัวเองในลักษณะรถพรีเมียมเป็นส่วนใหญ่)

● เพื่อการนี้ ลอร์ดสทาวน์ได้ทำตารางเปรียบเทียบการใช้งานระหว่าง Endurance และ Ford F-150 เกรด Lariat 4WD ในด้านค่าใช้จ่ายในการชาร์จพลังงาน การเติมเชื้อเพลิง การบำรุงรักษา ภาษีประจำปี ฯลฯ ซึ่งรวมแล้ว “ในระยะเวลา 5 ปีของการใช้งาน” Endurance จะประหยัดเงินได้ราว 27,059 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8.2 แสนบาท (เฉลี่ยปีละ 1.64 แสนบาท)

● สำหรับงานออกแบบนั้น Endurance อยู่ในลักษณะรถร่วมสมัย ไม่เชย และไม่ล้ำจนเกินไป จากภาพร่างแรกตัวรถอยู่ในรูปโฉมของปิคอัพห้องโดยสาร 4 ประตู 5 ที่นั่ง รูปทรงของรถมีเหลี่ยมสันที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง กรำงานหนักได้ และมีชุดไฟทรงเรียวเล็ก ช่วยขับภาพลักษณ์ความทันสมัยของเทคโนโลยีไฟฟ้า

● ข้อมูลในเบื้องต้น Endurance จะมีประสิทธิภาพในการลากจูงประมาณ 2,721 กก. มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 4 ลูกผลิตกำลังรวมได้ราว 600 แรงม้า (HP) ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ไม่น้อยกว่า 320 กม. วิ่งทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 128 กม./ชม. แบตเตอรี่แพคคาดว่าจะมีความจุ (หรือความสามารถในการจ่ายไฟต่อเนื่องภายใน 1 ชม.) ราว 70 – 80 กิโลวัทท์-ชม.

ลอร์ดสทาวน์… สำคัญต่อลอร์ดสทาวน์

● แม้จะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แต่ CEO ของบริษัทลอร์ดสทาวน์ Steve Burns ไม่ใช่นักธุรกิจที่ตั้งบริษัทสตาร์ทอัพแบบมือเปล่า เขาคืออดีตผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ Workhorse Group ผู้ผลิต ปิคอัพปลั๊ก-อิน ไฮบริด Workhorse W-15 ซึ่งปัจจุบันเวิร์คฮอร์สก็มีหุ้นอยู่ในบริษัทลอร์ดสทาวน์อยู่ 10% ในขณะที่ตัวรถ Endurance ก็มีการระบุว่าใช้ชิ้นส่วนบางจุดจากเวิร์คฮอร์สด้วย และในการซื้อโรงงงานผลิตรถยนต์เก่าของ GM ในโอไฮโอ พร้อมกับดัดแปลงสายการผลิตจากรถสันดาปฯ เป็นรถไฟฟ้า ก็ได้รับการอนุมัติทุนกู้ยืมจากยักษ์ใหญ่อย่าง GM เป็นจำนวนถึง 40 ล้านดอลลาร์

● Endurance นั้นนับว่าเป็นรถรุ่นสำคัญมากทีเดียวสำหรับโอไฮโอ โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา สหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งสหรัฐฯ หรือ UAW (United Auto Workers) ระบุว่า การผลิตรถรุ่นนี้จะช่วยให้มีอัตราการจ้างงานถึง 400 ตำแหน่งในเมืองลอร์ดสทาวน์ช่วงปี 2020 และน่าจะมีคนงานบางส่วนของ GM ที่ไม่ยอมรับข้อเสนอในการย้ายไปทำงานที่โรงงานในเมืองอื่นๆ ได้รับโอกาสในการทำงานที่นี่ด้วย

● เดิมทีโรงงาน Lordstown Assembly หรือ Lordstown Complex ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลอร์ดสทาวน์ รัฐโอไฮโอแห่งนี้ รับหน้าที่ผลิต Chevrolet Cruze และเริ่มตัดกะงานลงทีละกะ เริ่มตั้งแต่ช่วงในปี 2017 ซึ่งค่อยๆ ส่งผลกระทบกับคนงานราวกะละ 1,200 – 1,500 คน ก่อนจะปิดตัวลงในเวลาไม่นาน ซึ่ง GM และ UAW มีการเจรจาหาทางออกให้กับคนงานกันหลายครั้ง ก่อนจะมีการขายโรงงานแห่งนี้ให้กับลอร์ดสทาวน์ (ปัจจุบันตัว Chevy Cruze ยังคงมีจำหน่ายในอเมริกาใต้)

● ลอร์ดสทาวส์ตั้งเป้าหมายเดินสายการผลิต Endurance ให้ได้ภายในครึ่งหลังของปี 2020 เนื่องจากต้องการเปิดตัวรถให้ได้ก่อนสิ้นปี เบื้องต้นการจำหน่ายจะเน้นไปที่การขายแบบฟลีท (มีข่าวว่าลอร์ดสทาวน์ต้องการได้สิทธิ์ในการจำหน่ายรถให้กับไปรษณีย์สหรัฐฯ เพื่อใช้ในกิจการขนส่ง) รุ่นพื้นฐานราคาเริ่มต้น 52,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.59 ล้านบาทครับ ●