December 26, 2019
Motortrivia Team (10161 articles)

Dendo Drive House ระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าจาก Mitsubishi

ประชาสัมพันธ์

●   เมื่อมิตซูบิชิทำการเผยโฉม Mitsubishi Outlander PHEV ครั้งแรกในปี 2012 นั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ไม่เพียงนำเสนอรถอเนกประสงค์อีกหนึ่งรุ่นออกสู่ตลาดเท่านั้น แต่รถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินกลยุทธ์ด้านพลังงานไฟฟ้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าเพื่อความยั่งยืน โดยองค์ประกอบสำคัญของระบบนิเวศดังกล่าวคือระบบ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ (Dendo Drive House) หรือชื่อทางการค้าของระบบ V2H (vehicle-to-home) ของมิตซูบิชินั่นเอง

●   เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ถูกจัดแสดงครั้งแรกที่งาน เจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคม 2019 โดย เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นนั้น คำว่า ‘เดนโด’ หมายถึง ‘การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า’ คือการยกระดับกลยุทธ์ด้านพลังงานไฟฟ้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส และแสดงถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนโลกด้วยพลังงานไฟฟ้า

●   เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือระบบสำหรับที่พักอาศัยซึ่งประกอบด้วย Mitsubishi Outlander PHEV, อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า 2 ทิศทาง (Bi-Directional), แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่แพคสำหรับที่พักอาศัย โดยมีการจำหน่ายชุดอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การขาย การติดตั้ง ตลอดจนบริการบำรุงรักษาหลังการขาย โดยรวมแล้ว เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือระบบที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากที่พักอาศัย เพื่อนำไปใช้ในการชาร์จยานพาหนะ และในทางกลับกันก็ยังสามารถดึงพลังงานไฟฟ้ากลับจากยานพาหนะเพื่อนำไปใช้ในที่พักอาศัย

●   เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถผลิต จ่าย และเก็บพลังงานไฟฟ้าได้อัตโนมัติตามความต้องการ โดยทั่วไปแล้วในช่วงเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้พลังงานต่ำ แผงโซลาร์เซลล์จะผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่สำหรับบ้านและแบตเตอรี่รถจนแบตเตอรี่เต็ม ในช่วงกลางวันแผงโซลาร์เซลล์จะยังคงผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องสำหรับที่พักอาศัย โดยในช่วงเย็นพลังงานที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์จะลดน้อยลง และไฟฟ้าที่ชาร์จเก็บไว้ในแบตเตอรี่จะถูกนำมาใช้ภายในบ้าน ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงด้วย

●   และหาก Outlander PHEV จอดอยู่ และมีการเชื่อมต่อกับระบบ ตัวรถก็จะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ที่พักอาศัยด้วยเช่นกัน ผ่านอุปกรณ์ชาร์จไฟ 2 ทิศทาง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินและไฟดับ แบตเตอรี่ในที่พักอาศัยและใน Outlander PHEV จะสามารถเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรองได้ โดยสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ที่พักอาศัยได้ด้วยแบตเตอรี่ขนาดความจุ 13.8 กิโลวัตต์-ชม.

●   Mitsubishi Outlander PHEV ยังสามารถจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ได้สูงสุด 1,500 วัตต์ ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น เครื่องทำกาแฟ หม้อหุงข้าว หรือสำหรับชาร์จจักรยานไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบ Bi-Directional

●   เมื่อ Outlander PHEV ทำงานร่วมกับ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ จะเกิดเป็นระบบนิเวศด้านพลังงานที่สร้างประโยชน์มากมายให้แก่ผู้ใช้งาน โดยแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัยและรถ ยังสามารถชาร์จไฟฟ้าได้ในเวลากลางคืน ซึ่งค่าไฟจะมีราคาถูกที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถลดการพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า และที่สำคัญยิ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่ความยั่งยืน

●   ด้วยระบบนิเวศนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แสดงให้เห็นว่า ยานยนต์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัยได้อย่างไร และสะท้อนถึงการลงทุนของบริษัทฯ ในเทคโนโลยีการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมุ่งสู่พลังงานที่ยั่งยืนในอนาคต

●   ด้วยแนวโน้มของจำนวนรถพลังงานไฟฟ้าบนท้องถนนอีกหลายล้านคันในทศวรรษหน้า และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของระบบแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัย รวมถึงการรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ร่วมกับแบตเตอรี่ที่พักอาศัย จะช่วยให้ระบบพลังงานไฟฟ้าดังกล่าวเป็นที่ยอมรับอย่างรวดเร็ว และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันก็มอบประโยชน์ด้านความประหยัดคุ้มค่า และช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ปลอดมลพิษ

●   เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนและจ่ายพลังงานกลับคืนสู่โครงข่าย พร้อมกันนี้ยังพัฒนาให้สามารถใช้งานกับแบตเตอรี่ของ Mitsubishi Outlander PHEV และแบตเตอรี่ของที่พักอาศัยได้อย่างไร้ความกังวล และเต็มประสิทธิภาพ

●   มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้เริ่มจำหน่าย เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ เป็นครั้งแรกในโลกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา และกำลังเตรียมที่จะเริ่มจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ต่อไป  ●