January 24, 2020
Motortrivia Team (10167 articles)

Toyota ประเทศไทย แถลงยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำปี 2562

ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●   มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมคณะผู้บริหาร จัดงานแถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2562 (2020 Toyota Annual Press Conference) พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2563 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

●   มร. ซึงาตะ กล่าวว่า “ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2562 ลดลง 3% โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,007,552 คัน แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ยังถือได้ว่าเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของตลาดรถยนต์ไทย ที่มียอดขายถึงระดับ 1 ล้านคัน แม้ว่าตลาดรถยนต์มีจะการหดตัวอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2562 ผ่านมา”

มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

สถิติการขายรถยนต์ในประเทศปี 2562

ยอดขายปี 2562เทียบกับปี 2561
ปริมาณการขายรวม1,007,552 คัน-0.033%
รถยนต์นั่ง398,386 คัน-0.003%
รถเพื่อการพาณิชย์609,166 คัน-0.051%
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)492,129 คัน-0.038%
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)431,677 คัน-0.034%

●   สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2563 มร. ซึงาตะ กล่าวว่า “ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายอีกปีหนึ่งสำหรับตลาดรถยนต์ไทย เนื่องจากตลาดรถยนต์ยังคงเผชิญกับหลายปัจจัย จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน และมาตรการควบคุมสินเชื่อรถยนต์ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวมในประเทศจะอยู่ที่ 940,000 คัน ลดลงประมาณ 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2563

ยอดประมาณการปี 2563เทียบกับปี 2562
ปริมาณการขายรวม940,000 คัน-0.067%
รถยนต์นั่ง358,500 คัน-0.1%
รถเพื่อการพาณิชย์581,500 คัน-0.045%

●   สำหรับยอดจำหน่ายเฉพาะในส่วนของโตโยต้า มร. ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ยอดขายโตโยต้าในปี 2562 สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น สวนทางกับสถานการณ์ตลาดที่หดตัวลง โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 332,380 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 6% ครองส่วนแบ่งการตลาด 33.0% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2.8 จุด”

●   “ปัจจัยหลักมาจากการตอบรับที่ดีของลูกค้า และจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และรุ่นปรับปรุงใหม่ของรถยนต์นั่งอย่าง Toyota Camry และ Toyoya Corolla Altis รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายของ Toyota Yaris และ Yaris ATIV ตลอดจนรถเพื่อการพาณิชย์อย่าง Toyota Hilux Revo Z Edition, Toyota Commuter และ Toyota Majesty”

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2562

ยอดขายปี 2562เทียบกับปี 2561ส่วนแบ่งตลาดส่วนแบ่งตลาดเติบโต (จุด)
ปริมาณการขายโตโยต้า332,380 คัน0.0550.332.8
รถยนต์นั่ง117,708 คัน0.0470.2951.4
รถเพื่อการพาณิชย์214,672 คัน0.0590.3523.6
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)191,669 คัน0.0830.3894.3
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)165,452 คัน0.0960.3834.5

●   มร. ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเป้าหมายของโตโยต้าในปี 2563 โตโยต้ามีเป้าหมายการขายที่ 310,000 คัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 33.0% ลดลงประมาณ 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้เราจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น พร้อมยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าด้วยการดูแลเอาใจใส่ลูกค้านับตั้งแต่วันแรกที่ซื้อรถยนต์ ตลอดจนวันสุดท้ายของการใช้งาน”

ประมาณการขายของโตโยต้าในปี 2563

ยอดขายประมาณการปี 2563เทียบกับปี 2562
ปริมาณการขายรวม310,000 คัน-0.067%0.33%
รถยนต์นั่ง103,000 คัน-0.125%0.287%
รถเพื่อการพาณิชย์207,000 คัน-0.036%0.356%

●   ด้านการส่งออกในปี 2562 โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 264,775 คัน ลดลง 10% ทั้งนี้ปริมาณการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 570,850 คัน ลดลง 3% สืบเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในหลายภูมิภาค เช่น โอเชียเนีย อเมริกากลางและอเมริกาใต้

ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2562

ปี 2562เทียบกับปี 2561
ปริมาณการส่งออก264,775 คัน-0.1%
ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ570,850 คัน-0.03%

●   สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 263,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา 1% อันเนื่องมาจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศคู่ค้ายังไม่คลี่คลาย นอกจากนี้แผนการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกจะอยู่ที่ 556,000 คัน ลดลง 3%

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2563

ปี 2563เทียบกับปี 2562
ปริมาณการส่งออก263,000 คัน-0.01%
ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ556,000 คัน-0.03%

●   มร. ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการปฏิรูปในรอบศตวรรษ โดยโตโยต้ามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรจากเดิมที่เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อน (Mobility Company) ซึ่งหมายความว่าเราจะมุ่งเดินหน้าพัฒนาการบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

●   “ตลอดระยะเวลากว่า 57 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โตโยต้ามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเดินหน้าพัฒนาให้เกิดสังคมที่ดียิ่งขึ้น (Ever-Better Society) ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการแนะนำรถยนต์ไฮบริดในหลากหลายรุ่น รวมไปถึงการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดในประเทศไทย และการพัฒนาไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ไม่เพียงเท่านี้ โตโยต้ายังพัฒนาระบบการจัดการแบตเตอรี่ไฮบริดแบบครบวงจร ซึ่งเราเชื่อว่าความพยายามทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำการสร้างสรรค์สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง”

●   “นอกจากนี้โตโยต้ายังเน้นย้ำต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากโครงการที่มีมากกว่า 30 ปี นั่นคือ“โตโยต้า ถนนสีขาว” โครงการที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อนำไปสู่การสร้าง สังคมคนขับรถดี (Good Driver Society) โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมากับหลักสูตรการขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม (Safe Eco Driving) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้แทนจำหน่าย ประชาชน นักศึกษาและผู้ขับขี่รถสาธารณะ โดยปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 70,000 คน ซึ่งเป็นความตั้งใจของโตโยต้าในการที่จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสังคมคนขับรถดี (Good Driver Society)”

●   “สำหรับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม โตโยต้ามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญคือ โตโยต้า ปลูกป่าชายเลน (Toyota Mangrove Reforestation) ซึ่งเราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องภายใต้ชื่อ โตโยต้า เมืองสีเขียว (Toyota Green Town) โดยในปีนี้โตโยต้าวางแผนที่จะปลูกป่าชายเลนเพิ่มขึ้นอีก 50,000 ต้น ส่งผลให้จำนวนต้นไม้ที่เราปลูกนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในปี 2547 มีรวมทั้งหมดถึง 692,000 ต้น”

●   “นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าจัดกิจกรรมเก็บขยะชายเลน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเรามีเป้าหมายเก็บขยะให้ได้ 20 ตันในปีนี้ ซึ่งเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วนับได้ว่าเราจะสามารถช่วยให้มีการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 9,100 ตัน ในขณะเดียวกัน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เราได้ตั้งเป้าหมายที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนในท้องถิ่นต่างๆ ผ่านศูนย์การเรียนรู้ 2 แห่งของเรา ได้แก่ โตโยต้าไบโอโทป (Toyota Biotope) ที่โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้า บ้านโพธิ์ และ โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา (Toyota Green Town Ayutthaya) ซึ่งประชาชนได้ให้ความสนใจศูนย์การเรียนรู้ทั้ง 2 แห่งนี้เป็นอย่างดี โดยมีจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมรวมตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ กว่า 77,000 คน”

●   “และอีกหนึ่งความมุ่งมั่นในการส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเรามีโครงการ โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ (Toyota Social Innovation) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจและหลักปฏิบัติของโตโยต้าให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มผลกำไรและพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาเราได้ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ธุรกิจชุมชน 19 แห่งทั่วประเทศ และในปีนี้เราวางแผนที่จะขยายการดำเนินการเพิ่มเติมอีก 13 แห่ง ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในท้ายที่สุด”

●   “อย่างที่ทุกท่านทราบ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ภายใต้แนวคิดเพื่อทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้…ให้เป็นไปได้ (Start Your Impossible) โดยมีฐานะเป็นผู้สนับสนุนด้านการขับเคลื่อนในระหว่างช่วงการแข่งขัน ซึ่งโตโยต้าไม่เพียงแต่จะสนับสนุนยานพาหนะในการสัญจรไปมาเท่านั้น แต่จะยังมอบการบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนการขับเคลื่อน ซึ่งรวมไปถึงหุ่นยนต์ด้วย ทั้งนี้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2563 นี้ ตามมาด้วยกีฬาพาราลิมปิกซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม – 6 กันยายน 2563 นี้”

●   “สำหรับโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มพันธมิตรภายใต้โครงการ The Power of Unity เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาชาวไทยก่อนการแข่งขัน พร้อมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่กำลังจะมาถึง ตลอดจนเฉลิมฉลองความสำเร็จของฮีโร่ชาวไทยผู้นำชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศ ซึ่งในขณะนี้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว และเรากำลังอยู่ในช่วงของการคัดเลือกตัวนักกีฬา ผมขอให้ทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสู่ความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2020 ด้วยการส่งแรงเชียร์และกำลังใจให้กับบรรดานักกีฬาชาวไทยทุกคน”

●   “นอกจากนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังได้ให้การสนับสนุนรถโตโยต้า คอมมิวเตอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับนักกีฬาโอลิมปิก และรถโตโยต้า คอมมิวเตอร์ เวลแค็บ ที่มีการปรับแต่งพิเศษสำหรับนักกีฬาพาราลิมปิก ยิ่งไปกว่านั้น จากการที่โตโยต้ามีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อน เราจึงตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ความสามารถที่มีในการช่วยพัฒนาอุปกรณ์ในการฝึกซ้อมของนักกีฬาพาราลิมปิก ที่สำคัญเรามีความยินดีที่จะมอบโอกาสให้นักกีฬาพาราลิมปิกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโตโยต้า เริ่มต้นด้วยการรับนักกีฬาพาราลิมปิก 4 คนเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทฯ ทั้งหมดนี้คือความภาคภูมิใจของเราที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างสังคมไทย”

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนธันวาคม 2562

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 89,285 คัน ลดลง 21.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า29,487 คันลดลง5.3%ส่วนแบ่งตลาด 33.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ15,767 คันลดลง28.1%ส่วนแบ่งตลาด 17.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า9,537 คันลดลง28.2%ส่วนแบ่งตลาด 10.7%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 32,766 คัน ลดลง 18.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า10,080 คันเพิ่มขึ้น9.4%ส่วนแบ่งตลาด 30.8%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า6,843 คันลดลง26.1%ส่วนแบ่งตลาด 20.9%
อันดับที่ 3 มาสด้า3,369 คันลดลง27.7%ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 56,519 คัน ลดลง 22.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า19,407 คันลดลง11.5%ส่วนแบ่งตลาด 34.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ15,767 คันลดลง28.1%ส่วนแบ่งตลาด 27.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ4,623 คันลดลง22.8%ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 45,025 คัน ลดลง 23.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า17,128 คันลดลง11.8%ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ14,677 คันลดลง27.2%ส่วนแบ่งตลาด 32.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ4,623 คันลดลง22.8%ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 5,432 คัน แบ่งเป็น โตโยต้า 2,164 คัน – มิตซูบิชิ 1,355 คัน – อีซูซุ 768 คัน – ฟอร์ด 703 คัน – เชฟโรเลต 298 คัน – นิสสัน 144 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 39,593 คัน ลดลง 23.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า14,964 คันลดลง12.5%ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ13,909 คันลดลง25.9%ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด3,890 คันลดลง21.2%ส่วนแบ่งตลาด 9.8%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2562

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 1,007,552 คัน ลดลง 3.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า332,380 คันเพิ่มขึ้น5.5%ส่วนแบ่งตลาด 33.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ168,215 คันลดลง5.4%ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า125,833 คันลดลง1.9%ส่วนแบ่งตลาด 12.5%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 398,386 คัน ลดลง 0.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า117,708 คันเพิ่มขึ้น4.7%ส่วนแบ่งตลาด 29.5%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า96,154 คันเพิ่มขึ้น0.4%ส่วนแบ่งตลาด 24.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า96,154 คันลดลง8.8%ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 609,166 คัน ลดลง 5.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า214,672 คันเพิ่มขึ้น5.9%ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ168,215 คันลดลง5.4%ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด49,842 คันลดลง24.3%ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 492,129 คัน ลดลง 3.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า191,669 คันเพิ่มขึ้น8.3%ส่วนแบ่งตลาด 38.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ153,170 คันลดลง5.5%ส่วนแบ่งตลาด 31.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด49,841 คันลดลง23.5%ส่วนแบ่งตลาด 10.1%

ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน : 60,452 คัน แบ่งเป็น โตโยต้า 26,217 คัน – มิตซูบิชิ 13,558 คัน – อีซูซุ 9,477 คัน – ฟอร์ด 6,355 คัน – เชฟโรเลต 3,091 คัน – นิสสัน 1,754 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 431,677 คัน ลดลง 3.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า165,452 คันเพิ่มขึ้น9.6%ส่วนแบ่งตลาด 38.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ143,693 คันลดลง3.9%ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด43,486 คันลดลง21.7%ส่วนแบ่งตลาด 10.1%

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตโยต้า ประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ www.toyota.co.th