February 21, 2020
Motortrivia Team (10020 articles)

Mercedes เผยผลงานปี 2562 พร้อมเตรียมเปิดตัวรถแบตเตอรี่

ภาพ: จันทนา เจริญทวี

●   เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว Mercedes-Benz Business Direction 2020 เผยผลประกอบการประจำปี 2562 ซึ่งยังคงครองอันดับ 1 ในกลุ่มรถหรูเป็นปีที่ 19 ปีติดต่อกัน โดยมียอดจำหน่ายมากกว่า 15,000 คันในประเทศไทย พร้อมเผยทิศทางการดำเนินงานในปี 2563 โดยจะมีการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ 1 รุ่นด้วย

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

เตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่

●   เมอร์เซเดสระบุว่า ในปี 2563 นี้ จะมีการเน้นไปที่การทำตลาดรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ด้วย โดยภายในงานนี้เมอร์เซเดสได้ทำการเปิดตัวรถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นใหม่ก่อน 2 รุ่น ประกอบด้วย Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic และ Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic จากนั้นจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ Mercedes-Benz EQC ภายในปีนี้

●   มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ (Roland Folger) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก เราสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 2,339,562 คัน นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ สำหรับยอดขายใน 1 ปี”

●   “แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจในตลาดโลกจะอยู่ในช่วงชะลอตัว และส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ ทว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเล็งเห็นความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถ SUV ระดับลักชัวรี นั่นจึงเป็นที่มาให้เราเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ SUV ออกมาเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าทั้งในตลาดโลกและในตลาดไทยต่อเนื่องในปี 2563 เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 ในเซกเมนต์ลักชัวรีในหลายประเทศโดยประเทศ รวมทั้ง เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, สเปน, เบลเยียม, สวิสเซอร์แลนด์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, ไทย, เวียดนาม, สิงคโปร์, แคนาดา และแอฟริกาใต้”

●   “ในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงรักษาความเป็นแบรนด์รถยนต์ลักชัวรีอันดับ 1 ได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ทำยอดขายได้มากกว่า 15,000 คัน อันเป็นผลมาจากเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่แข็งแกร่ง ที่ร่วมกันส่งมอบ Best Customer Experience ให้กับลูกค้า โดยเราจะขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เราเปิด บริษัท เจริญมอเตอร์เชียงราย จำกัด โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ในเชียงรายเพิ่มอีก 1 แห่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ เราเพิ่งเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ บริษัท แอทต้า ออโต้ เฮาส์ จำกัด ในกรุงเทพฯ ส่งผลให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ 36 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นผู้จำหน่ายในกรุงเทพฯ 19 แห่ง และผู้จัดจำหน่ายในต่างจังหวัดรวม 17 แห่ง”

เทรนด์ทั่วโลกมุ่งไปที่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

●   มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปีนี้ เทรนด์ความต้องการรถยนต์ของผู้บริโภค ทั้งในประเทศต่างๆ ทั่วโลกและในประเทศไทย เราพบว่าความต้องการในรถยนต์ไฟฟ้านั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุผลหนึ่งมาจากสภาวะอากาศที่แย่ลง โดยเฉพาะการเกิดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการคมนาคม ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ Plug-in Hybrid ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เองที่ทำได้มากกว่า 16,000 คัน นับตั้งแต่เราเปิดตัวรถยนต์ Plug-in Hybrid รุ่นแรกในปี 2559”

●   “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นผู้นำตลาดอันดับต้นๆ ของโลกที่มีสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ Plug-in Hybrid ประมาณ 25% ของยอดจำหน่ายทั้งหมดในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงเล็งเห็นว่า การรณรงค์ให้ทุกคนหันมาใช้รถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น น่าจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง ปัจจุบันในประเทศไทยมีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ EQ Power อยู่มากกว่า 16,000 คันที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ “หากขับในโหมดไฟฟ้า” เพียงผู้ใช้ชาร์จไฟและขับขี่ในโหมดนี้ทุกวัน ก็จะช่วยลดปริมาณ PM 2.5 ลงอย่างมีนัยสำคัญ”

●   “ขณะเดียวกัน เราพร้อมเปิดตัว Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic และ Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic รถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ขนาดกลางรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ และเตรียมส่งรถ SUV อีกหลายรุ่น อาทิ Mercedes-Benz GLB รถคอมแพ็ค SUV ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงรถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่าง Mercedes-Benz EQC ที่จะนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เพื่อทำตลาดไทยภายในปี 2563 นี้… นี่คือทิศทางการทำธุรกิจที่เราจะมุ่งหน้าไปอย่างเต็มกำลังในปี 2563”

Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic

●   GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic รถ SUV ขนาดกลาง ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบ 320 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้น และช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้ 6.5%

●   สะดวกด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านคำสั่งเริ่มต้น Hey Mercedes สามารถประมวลผลประโยคที่ใกล้เคียงกับคำสั่งทั่วไปได้ จดจำและเรียนรู้การสั่งงานของผู้ขับได้ ชุดระบบ DYNAMIC SELECT สามารถเปลี่ยนการปรับโหมดผ่านพวงมาลัยมาเป็นการปรับโหมดการขับผ่านหน้าจอแสดงผลได้ โดยโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง ECO, Comfort, Sport, Sport+ หรือ Individual ตัวระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ในส่วนต่างๆ อาทิ ระบบส่งกำลัง ระบบบังคับเลี้ยว หรือโปรแกรมควบคุมการทรงตัวโดยอัตโนมัติ

●   GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 3,749,000 บาท

Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic

●   GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic รถ SUV ครอสโอเวอร์ที่มีภาพลักษณ์สปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยการผสมผสานรถ SUV เข้ากับรถคูเป้ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเหมือนกับรุ่น GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic

●   จุดเด่นคือมาตรวัดหลังพวงมาลัยแบบฟูลดิจิทัลเต็มรูปแบบ แสดงผลผ่านจอขนาด 31.2 ซม. เลือกการแสดงผลได้ระหว่าง Classic, Progressive หรือ Sporty คมชัด และสามารถเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง

●   ชุดระบบอินโฟฯ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ทำงานร่วมกันกับแผงคอนโทรล จอดิจิทัลแสดงผลระบบการนำทางได้แบบเต็มหน้าจอ เสริมด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmerster

●   GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 4,090,000 บาท

รู้จัก Mercedes-Benz EQC

●   Mercedes-Benz EQC เป็นรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นที่ 2 ต่อจาก Mercedes-Benz SLS AMG Electric Drive ในปี 2013 ต่างกันตรงที่ SLS AMG Electric Drive เป็นรถที่ผลิตแบบจำกัดจำนวน และจำหน่ายออกไปไม่ถึง 100 คัน ทว่า EQC ใหม่จะเป็นรถที่ผลิตในเชิงปริมาณ และเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของซับ-แบรนด์ไฟฟ้า Mercedes-Benz EQ ที่เน้นการผลิตรถ plug-in hybrid เป็นหลัก โดย EQC จะนับเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นแรกของแบรนด์ EQ

●   EQC เป็นรถ SUV ขนาดคอมแพคท์ ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง ที่แชร์แพลทฟอร์มร่วมกับ Mercedes-Benz GLC ความยาวรวม 4,761 มม. กว้าง 1,884 มม. สูง 1,624 มม. ฐานล้อ 2,873 มม.

●   ชุดระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แยกติดตั้งที่เพลาหน้า/หลัง หมุนล้อแบบ all-wheel drive ตัวมอเตอร์เป็นแบบกระแสสลับ ชนิด Asynchronous Motor (หรือมอเตอร์เหนี่ยวนำ (Induction Motor)) ส่งกำลังด้วยเกียร์ฟิกซ์อัตราทด ซิงเกิลสปีด เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน ความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟใน 1 ชม. เท่ากับ 80 กิโลวัทท์-ชม.

●   กำลังรวมทั้งระบบ 407 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 77.9 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดเอาไว้ที่ 180 กม./ชม. ระยะทางในการขับต่อการชาร์จ 1 ครั้งราว 450 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลาง EQC จะถูกเซ็ทให้วิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าของล้อคู่หน้าเป็นหลัก เพื่อลดการใช้กระแสไฟฟ้า เมื่อผู้ขับต้องการเรียกกำลังเสริมด้วยการกดคันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาท้ายจึงจะทำงานเพื่อเสริมกำลัง หรือมีการทำงานในสภาพที่เหมาะสมกับการขับโดยอัตโนมัติ

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซต์ www.mercedes-benz.co.th หรือแฟนเพจ facebook.com/MercedesBenzThailand  ●


Mercedes-Benz Thailand : Business Direction 2020