February 7, 2020
Motortrivia Team (10167 articles)

2020 MINI Cooper SE มินิไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ เปิดตัวในไทย

ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ และ มินิ ไทย

●   มินิ ประเทศไทย เข้าสู่ยุคไฟฟ้าล้วน เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ MINI Cooper SE หลังจากที่มีการเปิดตัวในตลาดโลกช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา โดยในไทยเรานั้นจะนับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก… ผู้ที่สนใจ มินิจะเริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14:14 น. เป็นต้นไปที่เว็บไซท์ www.mini.co.th จำกัดจำนวน 25 คัน

●   คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกที่เปิดตัวมินิ คูเปอร์ เอสอี รถรุ่นใหม่ล่าสุดจากมินิที่บุกเบิกยนตรกรรมไฟฟ้าสำหรับการขับในตัวเมืองด้วยสไตล์ใหม่ที่มีความเฉพาะตัว เมื่อ 60 ปีก่อน เราได้นำเสนอนิยามใหม่ของการใช้พื้นที่ในตัวรถอย่างสร้างสรรค์ เพื่อมอบความสนุกสนานในการขับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมินิ ในเซกเมนต์พรีเมียมคอมแพคท์เป็นครั้งแรก”

●   “วันนี้ ประสบการณ์การขับจากมินิจะก้าวสู่อนาคตที่ทั้งยั่งยืนกว่า และยังคงไว้ซึ่งความน่าหลงใหลของการโลดแล่นบนท้องถนน เราจึงตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่แฟนๆ ชาวไทยจะได้สัมผัสปรากฎการณ์ครั้งใหม่จากมินิที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เดินหน้าสู่อนาคตที่สะอาดและปลอดมลพิษ ทั้งยังคงตอบสนองความเร้าใจในการขับขี่ที่แฟน ๆ ต่างคาดหวังจากมินิได้เช่นเคย”

●   Cooper SE ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มของ BMW i3 เทียบกับรุ่นปัจจุบันอย่าง MINI Cooper S จะมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่าราว 30 มม. เพื่อให้มีความสมดุลย์กับตำแหน่งบอดี้ที่สูงขึ้นราว 18 มม. จากการวางแบตเตอรี่แพคเอาไว้ใต้พื้นห้องโดยสาร งานออกแบบไม่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากเราได้เห็นเค้าโครงโดยรวมกันมาแล้วจากต้นแบบ MINI Electric Concept ในงาน 2017 LA Auto Show

● Cooper SE มากับกระจังหน้าเฉพาะตัว, ชุดไฟหน้า LED, ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Corona พร้อมยางรันแฟลท และมีการตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยสัญลักษณ์พิเศษเพื่อบ่งบอกความแตกต่างระหว่างมินิที่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า กับมินิรุ่นพื้นฐานรุ่นต่างๆ ที่ใช้เครื่องยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิล

● ห้องโดยสารเด่นด้วยมาตรวัดหลังพวงมาลัยแบบดิจิทัลขนาด 5.5 นิ้ว ความเร็วในการขับจะแสดงผลทั้งแบบตัวเลข และแถบทรงกลมบริเวณกลางจอ ด้านข้างแสดงข้อมูลระดับพลังงานของแบตเตอรี่ โหมดการขับ สถานะของระบบช่วยเหลือผู้ขับ และสัญญาณแสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ รวมทั้งเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ โดยจะเปลี่ยนสีไฟตามสถานะการชาร์จ ได้แก่ สีส้มขณะเริ่มชาร์จ สีเหลืองขณะกำลังชาร์จ และสีเขียวเมื่อชาร์จเต็ม หากมีความผิดปกติใดๆ ในระหว่างการชาร์จ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยไฟสีแดง

● จอกลางสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ มีขนาด 6.5 นิ้ว รองรับการแสดงผลจากบริการ MINI Connected เบาะผ้าสีดำ Carbon Black ลาย Double Stripe, หัวเกียร์เฉพาะรุ่น, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน แยกส่วนการระบายอากาศและการควบคุมอุณหภูมิระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า รองรับการสั่งงานระยะไกลผ่านแอพฯ MINI Connected สามารถตั้งเวลาออกเดินทางเพื่อเปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้าได้

●   ชุดระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Cooper SE ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวหมุนล้อคู่หน้า, ชุดระบบส่งกำลังติดตั้งแบบควบรวมกันเอาไว้ทางด้านหน้า เชื่อมต่อกับดิฟเฟอร์เรนเชียลเป็นเส้นตรง แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน จำนวน 12 โมดูล ติดตั้งเอาไว้ใต้พื้นรถ วางกระจายน้ำหนักเป็นรูปตัว T ความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟต่อเนื่องภายใน 1 ชม. เท่ากับ 32.6 กิโลวัทท์-ชม.

●   มอเตอร์ไฟฟ้าผลิตกำลังสูงได้ 135 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 184 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 60 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที 0 – 100 กม./ชม. 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. โหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง Sport, MID, Green และ Green+ ซึ่งโหมด Green+ จะช่วยเพิ่มระยะทางในการขับด้วยการจำกัด หรือหยุดการทำงานของระบบอำนวยความสะดวกบางรายการ เช่น ระบบปรับอากาศหรือระบบอุ่นเบาะ เป็นต้น

●   การรีชาร์จแบตเตอรี่ เลือกได้ทั้งจากไฟบ้าน, ชุดชาร์จ MINI ELECTRIC Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัทท์สำหรับโหมดชาร์จเร็ว หรือจุดชาร์จภายในสถานีชาร์จสาธารณะ รองรับหัวชาร์จทั้ง AC และ DC แบบ Type 2 และหัวชาร์จ CCS Combo 2 ซึ่งจะมีไฟบอกสถานะการชาร์จอยู่เหนือพอร์ท 3 สถานะ ได้แก่ สีส้มขณะเริ่มชาร์จ, ไฟกระพริบสีเหลืองระหว่างชาร์จ และสีเขียวเมื่อชาร์จเต็ม… พอร์ทชาร์จอยู่เหนือล้อหลังด้านขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของมินิ 3 ประตู โดยบนฝาจะมีตราสัญลักษณ์ MINI Electric

●   MINI ELECTRIC Wallbox (กำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัทท์) สามารถชาร์จได้ 100% เต็มในเวลา 3.5 ชม. ส่วนโหมดชาร์จเร็ว 80% จากจำนวนเต็มจะใช้เวลาราว 2.5 ชม. ในขณะที่การใช้งาน DC fast-charging ที่สถานีชาร์จเช่นเครือข่าย ChargeNow (รองรับกำลังไฟสูงสุด 50 กิโลวัทท์) การชาร์จแบตเตอรี่ 80% จากจำนวนเต็มจะใช้เวลาราว 36 นาทีเท่านั้น ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 217 กม. (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งปัจจุบันมาตรฐานใหม่ WLTP จะเข้มงวดมากกว่า)

● มินินั้นมีแบตเตอรี่แพคที่มีความจุน้อย จึงจำเป็นจะต้องขอยืมเทคโนโลยีชาร์จไฟกลับขณะเบรค (Brake energy recovery) จากบีเอ็มดับเบิลยูมาใช้งาน นั่นคือฟังก์ชั่น ‘One-Pedal feeling’ ของ BMW i3 หลักการทำงานคือ (1) เมื่อผู้ขับเหยียบแป้นคันเร่งออกตัวลึกๆ เพื่อออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง จะเป็นการสั่งงานให้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนล้อตามปกติหรือโหมด Accelerate (2) เมื่อเราได้ความเร็วที่พอใจ และผู้ขับมีการถอนคันเร่งเล็กน้อยเพื่อลดการเรียกกำลัง ระบบจะเข้าสู่โหมด Coast หรือการใช้ความเร็วคงที่ (3) หากเราถอนคันเร่งจากช่วง Coast เพื่อลดความเร็วลงมาอีกระดับ เช่น เข้าโค้ง หรือมีรถช้าข้างหน้าบังคับให้ชะลอตัว ระบบจะเข้าสู่โหมดชาร์จไฟกลับ หรือ Brake Energy Recuparation แปลงพลังงานจลน์เป็นพลังงานไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์เพื่อชาร์จไฟกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่ ช่วยทดแทนพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไป และ (4) เข้าสู่สถานะเบรค เมื่อผู้ขับถอนเท้าออกจากคันเร่ง

●   ด้านความปลอดภัย Cooper SE จะมีระบบเสียงสังเคราะห์เพื่อเตือนคนเดินถนน โดยมินิได้ออกแบบเสียงเฉพาะตัวสำหรับ Cooper SE ซึ่งจะปล่อยเสียงผ่านทางชุดลำโพงสำหรับการขับขณะใช้งานด้วยความเร็วต่ำ… นอกจากนี้ทุกชิ้นส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า จะได้รับการปกป้องด้วยโครงสร้างพิเศษ และจะหยุดการทำงานทั้งหมดทันทีหากเกิดการชน โดยวงจรอิเลคทรอนิคส์จะติดตั้งอยู่ภายใต้กันชน และโครงสร้างมอเตอร์ที่เสริมความแข็งแกร่ง ส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูงจะติดตั้งอยู่ภายในแผ่นรองฐานใต้ท้องรถทีออกแบบมาเพื่อป้องกันชิ้นส่วนแบตเตอรี่โดยเฉพาะ

● มินิเปิดราคา Cooper SE ที่ 2,290,000 บาท ครับ ราคานี้รวมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard บำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 1-800-269-269 หรือเว็บไซท์ www.mini.co.th

2020 MINI Cooper SE : CHARGED WITH PASSION