Toyota Aygo รุ่นต่อไป จะเปิดศักราชรถเล็กในกลุ่มกรีนหรือไม่?

เรื่อง : AREA 54

●   เราจะเข้าสู่ยุคไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อรถเล็กราคาประหยัดหันมาใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องเป็นไฮบริด ในที่นี้เราหมายถึงทางเลือกในตลาดจากทุกบริษัทผู้ผลิต ไม่ใช่รถราคาแพงซึ่งผู้คนทั่วไปซื้อหาไม่ไหว เอาไว้ให้ผ่านจุดนี้ไปได้เสียก่อน แล้วเราค่อยมาพูดถึงคำว่ารักษ์โลกกันในลำดับต่อไป… รถไฟฟ้า 10 คันวิ่งอยู่ท่ามกลางรถเบนซิน/ดีเซล 1 พันคัน เราจะหวังให้มลพิษลดลงได้อย่างไร?

●   Toyota Aygo เป็นรถซิตี้คาร์ในกลุ่ม A-segment ที่ขายดีมากของโตโยต้า Matt Harrison รองประธานโตโยต้า ยุโรป ให้ข้อมูลกับ autocar.co.uk ว่า Aygo เป็นรถที่ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มียอดจำหน่ายราว 1 แสนคันต่อปี แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตอื่นๆ จะไม่สามารถทำกำไรจากรถในกลุ่ม A-segment ได้มากนัก และการเพิ่มเทคโนโลยี (เพิ่มต้นทุนทั้งในส่วน R&D และการผลิต) เข้าไปในรถจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง แต่โตโยต้าคิดว่านี่คือโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ถอยหลัง

●   นั่นทำให้โตโยต้าวางแผนที่จะผลิต Aygo เจนเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบไฮบริด แน่นอนว่าที่โตโยต้ายังไม่คิดจะผลิต Aygo เวอร์ชั่นแบตเตอรี่ ก็เนื่องจากราคาจำหน่ายยังเป็นเหตุปัจจัยสำคัญ และยังไม่สมเหตุสมผลในการลงทุนเชิงธุรกิจในขณะนี้

●   “รถยนต์ขนาดเล็กเป็นเซ็กเมนท์ที่ต้องว่ากันที่ราคาจำหน่ายไม่แพงนัก การผลิตเวอร์ชั่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด คุณลองดูราคาของ Peugeot 208 EV (e-208) นั่นเป็นเรื่องของรถในกลุ่ม B-segment เขา และมันไม่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเรา” Harrison ให้ความเห็น

●   ณ เวลานี้ ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า Aygo เจนเนอเรชั่นต่อไปจะได้รับการพัฒนาขึ้นมาแน่นอน โดยโตโยต้าและกลุ่ม PSA (เปอโยท์, ซีตรอง และโอเปิล/วอกซ์ฮอลล์) กำลังจะสิ้นสุดสัญญาความร่วมมือระหว่างกันในปี 2021 ซึ่งโตโยต้าจะเข้าถือสิทธิ์ในด้านการลงทุนทางการเงินแต่เพียงผู้เดียวในโรงงานผลิต TPCA (Toyota Peugeot Citroen Automobile Czech) ที่สาธารณรัฐเชค

●   ดังนั้น Aygo รุ่นต่อไปจะถูกผลิตมาเพื่อตลาดยุโรปโดยเฉพาะ งานออกแบบและงานวิศวกรรมจะมีขึ้นในศูนย์ R&D ที่เบลเยียม ในขณะที่โรงงานดังกล่าวในเชคจะเป็นฐานการผลิตหลัก… ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้รับหน้าที่ผลิตรถแฝด 3 ได้แก่ Toyota Aygo, Citroen C1 และ Peugeot 108 ทว่าซีตรองและเปอโยท์ ยังไม่มีแผนงานในการพัฒนา C1 และ 108 รุ่นต่อไปที่แน่ชัดในเวลานี้

●   ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เคยมีความพยายามในการทำตลาดรถแบตเตอรี่ในกลุ่ม A-segment มาแล้ว เช่น Chevrolet Spark EV ผลงานของ GM/แดวู ในช่วงปี 2011 ทว่าเป็นการจำหน่ายในแบบจำกัดพื้นที่ และไม่มีการผลิตแบบเน้นจำนวน ในขณะที่ Smart ForTwo และ ForFour ก็มีราคาจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน

●   ปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ในกลุ่มที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าอย่างซับคอมแพคท์ มีการแข่งขันกันอย่างจริงจังแล้ว ไม่ว่าจะเป็น BMW i3 ของบีเอ็มดับเบิลยู, Honda e ของฮอนด้า, Chevrolet Bolt ของ GM, Opel/Vauxhall Corsa e ของ Groupe PSA หรือ Renault Zoe ของเรโนลท์ ทว่าราคาจำหน่ายยังนับว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถในกลุ่ม A-segment

●   ดังนั้นเราคงต้องรอกันไปอีกสักพักใหญ่ๆ หรือจนกว่าโตโยต้าจะแสดงให้เห็นว่ารถกรีนในกลุ่มนี้คุ้มค่าต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคต่อไป หรือมีผู้เล่นหลักๆ ทยอยกันลงมาแข่งขันกันมากกว่านี้ เราจึงจะเข้าสู่ยุคไฟฟ้าอย่างแท้จริงครับ  ●

หมายเหตุ : ภาพประกอบ Toyota Aygo รุ่นปี 2019