Mazda CX-30 ภายนอกไม่ใหญ่ แต่ภายในกว้างขวางขึ้น

เรื่อง-ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ และมาสด้า

●   มาสด้า CX-30 เอสยูวีรุ่นล่าสุด ทำตลาดแทรกกลางระหว่าง มาสด้า CX-3 และ มาสด้า CX-5 เปิดตัวในเมืองไทยแบบออนไลน์ พร้อมเปิดจองแบบ SKYBOOKING ไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดจัดทดสอบแบบกลุ่มบนเส้นทางพิษณุโลก-ขอนแก่น ระยะทาง 320 กิโลเมตร ขับ 4 คน ในรถรุ่นท๊อป SP ราคา 1,199,000 บาท

●   CX-30 พัฒนาจากมาสด้า 3 โฉมปัจจุบัน เพิ่มทางเลือกระหว่าง CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 เน้นการออกแบบสปอร์ตสไตล์มาสด้า มีความเอนกประสงค์และมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เน้นความสะดวกสบายทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร และมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ครบครัน เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับมาสด้า 3 แต่มีการปรับปรุงเพื่อให้ผ่านข้อบังคับด้านมลพิษ และมีอัตราสิ้นเปลืองที่ดี

●   ระบบกันสะเทือนในส่วนของสปริงและช๊อคฯ เป็นคนละพาร์ทนัมเบอร์กับมาสด้า 3 เพราะต้องออกแบบให้สอดคล้องกับ Roll Center จุดศูนย์ถ่วง Center of Gravity ของตัวรถโดยมีการปรับเซตให้มีความรู้สึกในการขับใกล้เคียงกับมาสด้า 3 ส่วนระบบช่วงล่างของ CX-30 ในแต่ละรุ่นย่อยเหมือนกันหมด แต่ความรู้สึกอาจแตกต่างกันบ้างจากขนาดยางของแต่ละรุ่นย่อยที่ไม่เหมือนกัน

●   ระบบเบรกสเปคเดียวกับมาสด้า 3 โดยมีชิ้นส่วนที่เหมือนมาสด้า 3 คือ จานเบรกหลังและคาลิเปอร์หลัง มีการปรับเซตให้เหมาะกับความสูงของรถที่มากกว่ามาสด้า 3 น้ำหนักรถ และขนาดยาง โดยปรับให้เบรกแล้วไม่มีอาการหน้าทิ่ม ระบบ GVC Plus ก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะกับตัวรถ และให้การควบคุมที่เป็นธรรมชาติ

●   มิติตัวรถเมื่อเทียบกับ 2 คู่แข่งที่ทำตลาดมาก่อน จะพบว่า CX-30 ได้เปรียบเรื่องระยะฐานล้อ และระยะต่ำสุดที่สูงที่สุดในกลุ่ม ทำให้ขับง่าย ไม่ต้องระวังมากนัก

ม้วนเดียวจบงาน 105 กิโลเมตร

●   ทริปนี้ระยะทางรวมประมาณ 320 กิโลเมตร ทีมงานมาสด้าได้วางจุดเปลี่ยนตัวผู้ขับไว้ให้ สำหรับรถที่มีสมาชิก 3 และ 4 คน ออกจากสนามบินพิษณุโลกเดินทางด้วยรถตู้ไปยังโรงแรม PATTARA RESORT & SPA เพื่อทานอาหารเช้าและฟังบรรยายผลิตภัณฑ์ จากนั้นจึงเริ่มเดินทางโดยทีมงานมอเตอร์ทริเวีย รับอาสาขับไม้แรก ระยะทาง 105 กิโลเมตร ถึงร้านอาหารกลางวัน The Montanas Khaokho จังหวัดเพชรบูรณ์ เส้นทางมีทั้งทางเรียบตรงและทางคดเคี้ยวขึ้นลงเขา ได้ลองสมรรถนะครบทั้งเครื่องยนต์ ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก

เครื่องยนต์แรงแบบมีรอบ

●   เครื่องยนต์ยังไม่ใช่ SKYACTIV X แต่เป็นบล็อกเดียวกับที่วางในมาสด้า 3 แบบ เบนซิน 2,000 ซีซี 165 แรงม้า แรงบิด 21.7 กก.-ม. เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ น้ำหนักรถ 1,412 กิโลกรัม นั่ง 4 คน น้ำหนักผู้ชาย 4 คน น่าจะแตะ 300 กิโลกรัม ช่วงแรกขับในเมือง ต้องเร่งออกตัวบ่อยๆ อัตราเร่งช่วงความเร็วต่ำถือว่าน่าพอใจ ไม่อืด ขับทางโล่งใช้ความเร็วเดินทาง 90-120 กิโลเมตรเมตรต่อชั่วโมง รอบต่ำแค่ 2,000 รอบฯ นิดๆ ถ้าเร่งไปถึง 3,000 รอบฯ ในเกียร์ 6 ได้ความเร็วประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการเร่งแซงฉุกเฉิน ต้องอาศัยการคิ๊กดาวน์ลากรอบสูงช่วยสร้างแรงบิด ถึงจะแซงได้แบบกระฉับกระเฉง ไม่ต้องลุ้นให้หวาดเสียว ขับช่วงแรก ใช้ความเร็วตามสภาพการจราจร มีเร่งแซง ลากรอบสูงบ่อยครั้ง ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.5 กิโลเมตรต่อลิตร

●   เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมือนจะเร็วกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปอยู่เล็กน้อย การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลทั้งจังหวะขึ้นและลงแม้เปลี่ยนเกียร์ในรอบสูง ขับได้ต่อเนื่องนุ่มนวล และน่าจะถูกเซตให้นุ่มกว่ามาสด้า 3 อยู่เล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับประเภทรถ ที่เน้นความสะดวกสบาย

ช่วงล่างเพิ่มความนุ่ม คงความหนึบ

●   CX-30 ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม คันที่ขับเป็นรุ่นท๊อป ล้อ 18 นิ้ว ยาง 215/55 R18 กับยางอะไหล่แบบคอมแพ็กไซส์ เจอผิวถนนขรุขระรู้สึกว่ามีความสะเทือนที่มาจากยาง ส่วนช่วงล่างยังคงมีการให้ตัวการยืดยุบที่ดี นุ่มแต่กระชับไม่ยวบย้วย ขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินปกติไปบ้างได้อย่างมั่นใจ แม้บางจังหวะจะมีเสียงยางลั่นบ้าง แต่ยังไม่ถึงกับลื่นไถลหรือเสียการทรงตัว

●   การเซตช่วงล่างที่ยังคงเน้นความสปอร์ต แม้ความสูงใต้ท้องรถจะมากถึง 175 มิลลิเมตร แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถเหวี่ยงหรือโคลงเอียงมากเมื่อเข้าโค้งแรงๆ ช่วงที่สลับไปนั่งเบาะหลัง รู้สึกว่าช่วงล่างไม่ดีดเด้ง ออกไปทางนุ่มๆ แต่ถ้าเล่นแรงๆ บนทางโค้งหรือเจอถนนที่เป็นคลื่นลอนต่อเนื่องก็จะมีอาการยวบให้สัมผัสบ้าง แก้ไม่ยากแค่ลดความเร็วลงบ้าง พวงมาลัยเป็นอีกจุดที่ต้องชม เพราะมีการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติ มั่นคง สม่ำเสมอ และมีการแปรผันความหนืดที่พอเหมาะ เมื่อรวมกับช่วงล่างที่มั่นคง ทำให้การเข้าโค้งเป็นเรื่องสนุกและปลอดภัยด้วยตัวช่วยที่ครบครัน

●   ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ พร้อมตัวช่วยครบครัน สลับกันขับครบทั้ง 4 คนแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนกันคือ แตะเบรกแล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงการดูดหรือจับตัวของผ้าเบรกกับจานเบรก รู้สึกแข็งๆ ทื่อๆ ตอนแรกคิดว่าผ้าเบรกไหม้ เพราะขับทดสอบขึ้นลงทางลาดชันกันมาแล้วหลายทริป ช่วงถามตอบสื่อมวลชนที่ขับคันอื่นก็รู้สึกเหมือนกัน และสอบถามไปยัง Mr. Yamaguchi Koichiro ตำแหน่ง Product Manager, Project Division มาสด้า คอร์เปอร์เรชั่น ที่ประชุมทางไกลมาร่วมตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ให้คำตอบว่า เป็นความตั้งใจที่จะทำให้เบรกได้นุ่มนวล แต่โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เหมือนเบรกแล้วไหลๆ ต้องปรับตัวกันนานกว่าจะชิน

ภายในกว้างพอประมาณ

●   ถ้าจะสู้กับ 2 คู่แข่งในด้านพื้นที่ภายในห้องโดยสาร มาสด้า CX-30 ก็ยังเป็นรอง แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อมาสด้า ก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องความกว้างขวางเป็นหลักอยู่แล้ว สำหรับ CX-30 ที่ใช้พื้นฐานจากมาสด้า 3 ย่อมมีพื้นที่ภายในมากกว่า CX-3 ที่ใช้พื้นฐานจากมาสด้า 2 แน่ๆ ตำแหน่งผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า กว้างขวางเหลือเฟือสำหรับความสูง 169 เซนติเมตร ส่วนเบาะหลังต้องอาศัยด้านหน้าเลื่อนเบาะช่วยบ้าง จึงนั่งได้พอดีๆ ดีตรงมีช่องแอร์หลังและที่เท้าแขนกลางเบาะหลัง พนักพิงตั้งชันไปนิด ถ้าปรับให้เอนได้อีก 2-3 องศาน่าจะนั่งสบายขึ้น เพดานเว้าหลบเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ ที่เก็บของด้านหลังกว้างพอตัว แต่ไม่ถึงกับเหลือเฟือ

●   โดยรวม มาสด้า CX-30 เป็นเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ ภายนอกไม่ใหญ่ ภายในกว้างพอสำหรับไซส์มาตรฐาน 4 คน เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี 165 แรงม้า กลางๆ ทั้งความแรงและความประหยัด ช่วงล่างนุ่ม มีระยะให้ตัวตามสไตล์เอสยูวี แต่หนึบแน่นสไตล์มาสด้า ขับสนุก เกาะถนนมั่นใจ พวงมาลัยคมและนิ่ง อุปกรณ์มาตรฐานล้นๆ คุ้มเกินราคา 1,199,000 บาท ในรุ่นสูงสุด 2.0 SP  ●

ขอบคุณ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

2020 Mazda CX-30 : Group Test