March 7, 2020
Motortrivia Team (10156 articles)

Suzuki Ciaz RS เพิ่มความสดใหม่ พร้อมปรับรุ่นย่อย

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : ซูซูกิ

●   ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย มีโอกาสได้สัมผัส ซูซูกิ เซียส มาแล้ว 2 ครั้ง กับ 2 กิจกรรม ทั้งการขับประหยัด และ การขับแบบท่องเที่ยว ล่าสุดซูซูกิ กระตุ้นตลาดอีโคคาร์ ด้วยการปรับโฉมเพิ่มความสดให้เซียส พร้อมปรับตำแหน่งรุ่นย่อยใหม่ ประกอบด้วย GL มีรุ่น MT เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ CVT อีก 2 รุ่นย่อยคือ GLX และรุ่นสูงสุด RS มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ CVT

●   ภายนอกเปลี่ยนใหม่ชัดเจนโดยเฉพาะด้านหน้า เปลี่ยนกระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต พร้อมคิ้วโครเมียม ไฟหน้า LED Projector ชุดหลอดไฟมีขนาดเล็ก กินไฟน้อยกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า พร้อมไฟหรี่ LED มีแพคเกจชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบไดนามิก ล้อแม็ก 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/55 R16 ตัวรถมีความยาว 4,490 มิลลิเมตร กว้าง 1,730 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร น้ำหนักรุ่น RS ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้ทดลองขับ 1,015 กิโลกรัม

จากซ้าย : คุณปลวัชร วราภักดิ์ หัวหน้าทีมแผนกฝึกอบรมฝ่ายบริการ, คุณมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

●   รูปลักษณ์โดยรวมของรุ่น RS ดูสปอร์ตทันสมัยขึ้น เป็นการแต่งมาให้พร้อมขับจากโรงงาน แทบไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม มีจุดขัดสายตานิดหน่อยตรงคิ้วโครเมียมล้อมกรอบสปอตไลต์หน้าและที่ไฟสะท้อนแสงบริเวณกันชนท้าย ที่ดูรวมๆ แล้วเยอะไปหน่อย โดยเฉพาะกับรถสีเข้ม ส่วนอื่นๆ ก็ลงตัวสวยงามดี

●   ภายในติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ทั้งกล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมเส้นกะระยะ ทำงานร่วมกับจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีระบบ SUZUKI Smart Connect รองรับ Apple CarPlay เซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเตือน ระบบ Keyless Push Start และ Keyless Entry พร้อมกุญแจ Immobilizer Security Alarm ฝากระโปรงท้ายเปิดได้จากรีโมทคอนโทรล ในห้องโดยสารมี ที่วางแก้ว 8 ตำแหน่ง ทั้งหมดติดตั้งบนโครงสร้างตัวถัง TECT ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน ระบบความปลอดภัยมีแอร์แบ็กคู่หน้าในทุกรุ่นย่อย

●   เครื่องยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ รหัส K12B ความจุ 1,242 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT ระบบบังคับเลี้ยวแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์หลังดรัม มี ABS และ EBD ในทุกรุ่นย่อย

●   ก่อนการทดลองขับ รู้คร่าวๆ ว่าจะนั่งคันละ 4 คน เพื่อให้ได้ทดลองความสะดวกสบายของเบาะหลัง แต่พอถึงเวลาต้องขับจริงๆ กลับเหลือกันแค่ 2 คน เลยตกลงกันว่าเหมาคนละขา ซึ่งก็ขับได้สบายๆ เพราะระยะทางไม่ไกลแค่คนละประมาณ 80 กิโลเมตร ระหว่างทางขาไปมีพัก 1 ครั้ง และเส้นทางก็ไม่เหนื่อยยากจนเกินไปด้วย ขาไปจากที่พัก Parc Borough City Resort ไปถึงร้านอาหารกลางวัน ปูอลาสก้า เชียงดาว ระยะทาง 82.5 กิโลเมตร เปิด Google Map ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาแวะ 1 ครั้ง

●   แค่ขับออกจากที่พักก็รู้สึกแปลกๆ กับพวงมาลัย ที่มีความหนืดพอเหมาะ ไม่เบาโหวงหวิว แต่การหมุนและการคืนตัวของพวงมาลัยดูจะแปลกและแตกต่างจากที่คุ้นเคยอยู่พอสมควร เล่าให้เพื่อนที่ขับคู่กันฟัง แล้วรอขากลับสลับผู้ขับค่อยสรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

●   เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ทำงานได้ตามที่ตั้งใจออกแบบมาคือ เน้นความนุ่มนวลในการใช้งานทั่วไป สมรรถนะจึงไม่หวือหวา เป็นไปตามแรงม้าและแรงบิดที่มี ช่วงความเร็วต่ำขับสบาย แต่เมื่อใช้ความเร็วเดินทาง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วผ่อนคันเร่ง ดูเหมือนพละกำลังของเครื่องยนต์จะหายไปหมด ถ้าต้องการไปต่อจะต้องเติมคันเร่งกันค่อนข้างหนักหน่วง เกียร์อัตโนมัติ CVT เปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงได้นุ่มนวล แม้ในรอบสูงก็ไม่มีอาการกระตุกกระชาก บางช่วงลองรีดสมรรถนะด้วยการกดคันเร่งจมมิดแช่ไว้ รอบไต่ขึ้นไปนิ่งแถวๆ 6,200 รอบต่อนาที ซึ่งเลยจากนี้ไปจะเป็นเรดไลน์ รอบไต่ขึ้นได้ไวดี ลองกดปุ่ม Sport ที่ข้างหัวเกียร์ ระบบจะปรับให้ลากรอบสูงได้มากขึ้น เกียร์เปลี่ยนตำแหน่งช้าลง เหมาะกับการขับขึ้น-ลงทางลาดชัน เพราะช่วยลดภาระเบรก และเร่งไต่เนินได้อย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเสียงจังหวะคิ๊กดาวน์ อัตราสิ้นเปลืองตลอดทริปทำได้ราว 13 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเหมาะสมเพราะขับเร็ว ลากรอบสูง และเร่งแซงบ่อย

●   หนึ่งในจุดเด่นของเซียส คือ ระบบกันสะเทือนที่ค่อนข้างหนึบแน่นเกินหน้าเกินตาประเภทรถ ลองเล่นโค้งช่วงขึ้นอุทยานแห่งชาติเชียงดาว รถก็เกาะถนนหนึบแน่นดี ส่วนหนึ่งอาจเพราะยั้งๆ ไว้บ้าง เนื่องจากเพื่อนที่เป็นคนเมารถเมาเครื่องบิน ย้ายไปนั่งเบาะหลังเพื่อทดลองความกว้างขวางและบันทึกวีดิโอด้วย เลยไม่ได้เหวี่ยงแบบเต็มที่นัก และแม้ไม่มีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีหรือป้องกันการลื่นไถล แต่ช่วงทางคดโค้งรถก็ไม่มีอาการปัดเป๋ให้หวาดเสียว ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ทำงานได้สมกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ ใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับฟิลลิ่งของแป้นเบรกไม่นาน ก็เบรกได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัย

●   ขากลับนั่งเบาะหน้าคู่คนขับไปในช่วงแรก หลังจากแวะพักกลางทางแล้วลองย้ายไปนั่งเบาะหลังบ้าง รู้สึกว่าเบาะวางตำแหน่งไว้ค่อนข้างสูง ห้อยขาได้สบายขึ้นอีกนิด แต่ถ้านั่งพิงพนักแบบเต็มหลัง ศีรษะจะเฉี่ยวเพดานสำหรับผู้โดยสารที่มีความสูง 169 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ระหว่างหลังเบาะผู้ขับที่มีความสูงใกล้เคียงกัน มีความกว้างขวางเหลือเฟือขนาดนั่งไขว่ห้างได้

●   ชอบใจตรงมีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแแก้วน้ำกลางเบาะหลัง คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วนั่งเท้าแขนได้กระชับดี รองรับแรงเหวี่ยงช่วงลงอุทยาน ที่เพื่อนเหวี่ยงซะเต็มที่เหมือนจะเอาคืนตอนช่วงขามา ท้ายรถไม่เหวี่ยงสะบัดหรือดีดเด้ง นั่งได้สบายสมกับที่ตั้งใจออกแบบ การกระจายความเย็นทำได้ทั่วถึงเบาะหลัง แม้ขับท่ามกลางแสงแดดและรถยังไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง การป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก เป็นอีกจุดที่ซูซูกิ เซียส ทำได้ดี ทั้งเสียงลมปะทะ เสียงเครื่องยนต์ เสียงยางบดถนน และเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอก ที่ดูจะเบาบางลงไปทันทีเมื่อเข้าไปนั่งในรถ

●   ส่วนเรื่องที่ติดค้างกันไว้คือ ความรู้สึกของพวงมาลัย หลังจากเพื่อนสลับมาขับได้แค่ระยะทางสั้นๆ ก็บอกความรู้สึกที่ตรงกันคือ มีความฝืดฝืนและขืนตัวนิดๆ การหมุนและคืนตัวของพวงมาลัยไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เพื่อนสงสัยว่าเป็นเฉพาะคันที่ขับหรือคันอื่นก็เป็น เลยวิทยุสื่อสารไปถามเพื่อนสื่อมวลชนที่ขับตามๆ กันมา ก็ตอบว่ามีความรู้สึกเหมือนกัน

●   ซูซูกิ เซียส เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถไว้ใช้งานทั่วไป ห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน สมรรถนะด้านต่างๆ อยู่ในระดับกลางๆ ไม่เด่นไม่ด้อย เน้นใช้งานง่ายและแข็งแรงทนทานเป็นหลัก รุ่นสูงสุด RS ที่ทดลองขับ ตั้งราคาช่วงโปรโมชั่นไว้น่าสนใจ 675,000 บาท มาพร้อมข้อเสนอส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท พร้อมฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,888 บาท พร้อมส่วนลดพิเศษข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน  ●


2020 Suzuki Ciaz RS : Group Test