2020 XPeng P7 ซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ เปิดจองในประเทศจีน

เรื่อง : AREA 54

●  ในช่วงปี 2018 บริษัทสตาร์ทอัพไฮเทคของจีนที่น่าจับตาที่สุดอย่าง Xiaopeng Motors หรือ Xpeng Motors (เสี่ยวเผิง) ซึ่งมียักษ์ใหญ่ถึง 2 บริษัท Alibaba Group และ Foxconn Technology ให้การสนับสนุน ได้ประสบความสำเร็จกับการจำหน่ายรถ SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก Xpeng G3 ไปแล้วในจีน ล่าสุดพวกเขาเดินหน้าเปิดตัวรถรุ่นใหม่ XPeng P7 และเริ่มเปิดจองไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา

●  Xpeng P7 เป็นรถซีดาน 4 ประตู ท้ายลาดแบบฟาสท์แบค ตัวรถอยู่ในกลุ่มซีดานขนาดกลาง งานออกแบบเรียบง่ายและดูลงตัวมากกว่า Xpeng G3 ที่อิงกับ Tesla Model X อย่างเห็นได้ชัด ด้านหน้าไม่จำเป็นต้องมีตระแกรงกระจังแบบรถไฟฟ้ายุคใหม่ หลังคาพาโนรามิคเต็มบานเชื่อมต่อกระจกหน้า-หลัง ตลอดคันเต็มไปด้วยเส้นโค้งมนเพื่อหวังผลทางด้านอากาศพลศาสตร์

●  เครดิทในการออกแบบเป็นผลงานของ Rafik Ferrag นักออกแบบสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาร่วมงานกับเสี่ยวเผิงในช่วงปี 2017 หลังจากที่เคยเป็นหนึ่งในทีมออกแบบของฮอนด้าที่โตเกียวตั้งแต่ช่วงปี 2012 และมีผลงานเด่นๆ อาทิ การขึ้นรูปดินเหนียวของ Acura TLX ในปี 2016

●  เมื่อเทียบกับห้องโดยสารของ Xpeng G3 งานออกแบบของ Xpeng P7 จะดูลงตัวกว่ามาก พวกเขายังคงใช้การจัดวางในสไตล์มินิมอล ทว่ามีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าจะหยิบยืมรูปแบบมาจากเทสล่าแบบ Xpeng G3 พวงมาลัยเป็นแบบ 2 ก้าน ตกแต่งด้วยกรอบโครเมียมแยกส่วนบน-ล่าง มาตรวัดหลังพวงมาลัยเป็นแบบฟูลดิจิทัล จับคู่จอกลางขนาดใหญ่แนวนอน การควบคุมระบบทั้งหมดใช้จอทัชสกรีนเป็นหลัก ไม่มีปุ่มแบบกายภาพให้เห็นยกเว้นบนพวงมาลัย

●  และเช่นเดียวกับผู้ผลิตจีนแบรนด์อื่นๆ เสี่ยวเผิงมีระบบอินโฟเทนเมนท์ และแอพฯ สโตร์ ที่มีอีโคซิสเต็มเป็นของตัวเอง ทว่ามีการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาซอแฟท์แวร์เข้ามาร่วมพัฒนาแอพฯ ผ่านแพลทฟอร์มเปิด ตัวชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการที่ใช้ชื่อทางการค้าว่า Xmart OS Intelligent In-car System รันด้วยโปรเซสเซอร์พลังแรงของควอลคอมม์ Snapdragon 820

●  Xmart OS มีแอพฯ เฉพาะสำหรับการใช้งานเพื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน สามารถสั่งการรถยนต์และระบบอำนวยความสะดวกอื่นๆ ในกลุ่ม V2X หรือ vehicle-to-everything เช่น อุปกรณ์ในกลุ่มสมาร์ทโฮมได้ (หากมี) ตัวระบบรองรับการอัพเกรดซอฟท์แวร์แบบ OTA, รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง และมี AI ช่วยเรียนรู้พฤติกรรมแบบ deep learning

●  สำหรับชุดระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ Xpeng P7 จะมากับฮาร์ดแวร์ในระดับ Level 3 ตามมาตรฐานของ SAE ชุดระบบใช้ชื่อทางการค้าว่า XPILOT 3.0 ฮาร์ดแวร์ประกอบด้วย กล้องรอบคัน 14 ตัว, เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิค 12 จุด และเรดาร์ชนิดเทคโนโลยีคลื่นมิลลิเมตร (Millimeter Wave Radar) 5 ตัว เบื้องต้นมีระบบจอดรถอัตโนมัติแบบผู้ขับไม่จำเป็นต้องอยู่ในรถเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

●  ชุดระบบขับเคลื่อนแยกเป็น 2 ทางเลือก ประกอบด้วยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว หมุนล้อคู่หลัง และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แยกติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง หมุนล้อแบบ all-wheel drive ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์แบบฟิกซ์ ซิงเกิลสปีด แบตเตอรี่แพคมีความจุหรือความสามารถในการจ่ายไฟต่อเนื่องใน 1 ชม. เท่ากับ 80.87 กิโลวัทท์-ชม. โหมดชาร์จเร็วจาก 30 – 80% จากจำนวนเต็มใช้เวลาประมาณ 28 นาที หรือหากชาร์จ 10 นาทีจะได้ระยะทางเพิ่มประมาณ 120 กม.

●  รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับหลัง กำลังสูงสุดอยู่ที่ 267 แรงม้า (PS) ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 568 กม. รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ AWD กำลังสูงสุด 430 แรงม้า วิ่งทำระยะทางได้ใกล้เคียงคัน อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที ในอนาคตจะมีรุ่น “Super-Long Range” ให้เพิ่มเติม ระยะทางในการขับเพิ่มขึ้นเป็น 706 กม. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขทั้งหหมดนี้เป็นการทดสอบตามมาตรฐาน NEDC เดิมของยุโรป หมายความว่าหากทดสอบตามมาตรฐาน WLTP ใหม่ซึ่งเข้มงวดกว่า ตัวเลขระยะทางจะลดลงมากกว่านี้พอสมควรครับ

●  ราคาจำหน่าย Xpeng P7 รุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ 240,000 หยวน หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท รุ่นท๊อปมอเตอร์คู่โดดขึ้นไปเป็น 370,000 หยวน หรือราว 1.7 ล้านบาทครับ… ปัจจุบัน Tesla Model 3 เวอร์ชั่นผลิตในจีนราคาเริ่มต้นที่ 303,550 หยวน หรือราว 1.4 ล้านบาท

●  รถลอทแรกจะเริ่มส่งมอบได้ช่วงเดือนมิถุนายน 2020 เป็นต้นไป ฐานการผลิตของ Xpeng P7 ใหม่จะย้ายไปที่โรงงานในกว่างโจว ส่วนรถรุ่นแรก Xpeng G3 จะยังคงผลิตที่โรงงานของบริษัท Haima Automobile ในเหอหนาน  ●

2020 Xpeng P7