Toyota เปิดตัว Revo และ Fortuner รุ่นปี 2020
เรื่อง-ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ
● โตโยต้า ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว Toyota Fortuner และ Toyota Hilux Revo รุ่นปรับปรุง MY2020 โดย Revo จะเริ่มส่งมอบรถได้ภายในเดือนมิถุนายน 2563 นี้ ส่วน Fortuner สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รุ่นมาตรฐานสามารถส่งมอบรถได้ภายในเดือนมิถุนายน 2563 ยกเว้นรุ่นย่อยเกรด Legender จะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงเดือนสิงหาคม 2563
2020 Toyota Hilux Revo
● Revo มีการปรับปรุงใหม่ให้หลายจุด ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย เริ่มด้วยชุดไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Beam พร้อมไฟ LED Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ส่วนเกรด Rocco จะมีชุดแต่งพิเศษ อาทิ กระจังหน้าและกันชนเฉพาะรุ่น สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอยลายเฉพาะตัว และยาง Dunlop ตัวอักษรขาว
● ห้องโดยสารมีมาตรวัดใหม่ จอแสดงผลระบบอินโฟฯ มีขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนฝั่ง iOS ด้วย Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect จะมีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
● ช่วงล่าง Super Flex Suspension ปรับปรุงใหม่ เน้นไปที่การดูดซับแรงกระแทกของช็อคฯ พร้อมเปลี่ยนวัสดุของแหนบ เพื่อให้มีความนุ่มสบายให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยมีระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ช่วยลดความเหนื่อยล้า
● ด้านความปลอดภัย Revo ใหม่จะมากับชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เป็นครั้งแรก อาทิ ชุดระบบความปลอดภัยก่อนการชน หรือ Pre-Collision System ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control และระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ พร้อมฟังก์ชั่นหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert
● ด้านพละกำลัง รุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร GD Super Power (เครื่องยนต์ตระกูล GD เจนเนอเรชั่น 2) มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ใหม่ กำลังสูงสุดผลิตได้ 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. เริ่มที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที นอกจากนี้ โตโยต้ายังระบุว่า เครื่องยนต์รุ่นนี้ (รวมทั้งรุ่น 2.4) จะมีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นด้วย
● สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบออฟ-โรด เครื่องยนต์จะมีการปรับลดรอบเดินเบาจาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที ในขณะที่จอ TFT จะช่วยแสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ ติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับ
● การจำหน่ายจะแยกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย : (1) รุ่นมาตรฐาน B-Cab : เหมาะสำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ เช่น กลุ่มธุรกิจเพื่อการขนส่ง หรือเกษตรกรที่ต้องการขนส่งผลิตผล เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า รุ่นย่อยมีตั้งแต่ ขับ 2 ขับ 4 หัวเดี่ยวแบบ Cab & Chassis ที่รองรับการติดตั้ตู้แห้ง ตู้เย็น ต่อคอก ฯลฯ พร้อมบริการทางการเงินแบบ One Stop Service รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย T-Connect และ Fleet Telematics Service สำหรับบริหารจัดการการขนส่งครบวงจร
● นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีบริการทางด้านการเงิน Full Service Lease ในการเช่าซื้อแบบครบวงจรให้ด้วย
● (2) Z-edition : ปิคอัพแบบเตี้ย สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน หรืองานในลักษณะบรรทุก ค้าขายแบบปลีก-ส่ง สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ ตัวรถใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ GD Super Power 2.4 ลิตร เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ
● สำหรับเกรด Z-edition โตโยต้าจะเน้นการขายในลักษณะ สร้างประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) โดยมีการโชว์รถแต่งในโชว์รูมเป็นตัวอย่าง พร้อมจัดแพคเกจชุดแต่งให้หลายแบบ เสริมด้วยระบบการขายแบบ Connected Auto Loan หรือ CAL และบริการ Sabuy 😀 ผ่อนต่ำลง 18% เมื่อเทียบกับโปรแกรมเช่าซื้อปกติ แต่รวมแพคเกจเช็กระยะ 23,000 กม. พร้อมรับประกันราคาขายต่อในอนาคต ปิดท้ายด้วยระบบ Theft Track สำหรับติดตามการโจรกรรม
● (3) Pre-runner : หรือรุ่นยกสูงซึ่งนับเป็นรุ่นยอดนิยมในบ้านเรา โดยใน MY2020 นี้จะมากับช่วงล่างใหม่ Super Flex Suspension และเพิ่มระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC ส่วนระบบ VSC จะติดตั้งให้ในรุ่นกลางขึ้นไป ส่วนใครที่ต้องการตกแต่งรถเพิ่มเติม โตโยต้าจะมีชุดแต่งแท้จากโตโยต้า TGA (Toyota Genuine Accessories) ให้
● ด้านบริการ สามารถเลือกใช้รถผ่านบริการออนไลน์ KINTO สำหรับลูกค้าบุคคลเช่ารถระยะยาวได้ เพื่อลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงราคาขายต่อ เสริมด้วยประกันภัยรูปแบบใหม่ “ประกันภัยขับดีลดให้” Toyota Care PHYD (Pay How You Drive) โดยจะมีส่วนลดจากการวิเคราะห์ข้อมูลการขับ หากขับรถดี ขับปลอดภัย จะมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันต่ออายุสูงสุด 45% และสามารถซ่อมได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้านานสูงสุด 8 ปี
● ปิดท้ายด้วย (4) Rocco : รวมถึงรุ่นขับ 4 ซึ่งมีการตกแต่งเฉพาะตัว จุดเด่นอยู่ที่การใช้งานเครื่องยนต์ตระกูล GD เจเนเรชั่นที่ 2 (GD Super Power) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ปรับปรุงใหม่ให้ทำงานร่วมกับช่วงล่างใหม่ Super Flex Suspension และมั่นใจยิ่งขึ้นกับชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เสริมด้วยแอพฯ T-Connect by Toyota ระบบป้องกันการโจรกรรม Theft Track การแสดงข้อมูลการขับ Trip Report การเช็กตำแหน่งรถด้วย Find My Car และบริการผู้ช่วยส่วนตัว รวมถึง Toyota Tube สื่อแนะนำการใช้รถในรูปแบบวีดีโอบนสมาร์ทโฟน
2020 Toyota Fortuner
● สำหรับ Fortuner จะมีการขยายกระจังหน้าใหม่ให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มแถบกันชนล่างสีเงิน ไฟหน้าพร้อมไฟ DRL แบบ Light Guiding ออกแบบใหม่ ชุดไฟท้ายใหม่แบบ LED พร้อม Light Guiding และล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่
● รุ่นพิเศษเกรด “Legender” จะมีสัดส่วนกระจังหน้าต่างจากรุ่นพื้นฐาน ชุดไฟหน้าพร้อมไฟ DRL แบบ Light Guiding ใหม่พร้อมไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูง-ไฟต่ำแบบ LED กันชนหลังใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่ หลังคาทูโทน
● ห้องโดยสารมีอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ฟังก์ชั่น Apple CarPlay ระบบ T-Connect กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ สัญญาณเตือนกะระยะ หรือ Park Sensor สำหรับช่วยจอด ฟังก์ชั่น Activated Kick Door ช่วยเปิดประตูหลังโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ และจุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
● เครื่องยนต์ ตัวช่วยอื่นๆ อัพเกรดเหมือนกับ Revo เครื่องยนต์ใหม่ 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิดที่ 50.9 กก.-ม. เพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งไปยังห้องโดยสาร พร้อมปรับลดความเร็วรอบเดินเบาเหลือ 680 รอบ/นาที มีการแสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อบนจอ MID มีระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC และมีสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง ให้ใช้งานเช่นเดียวกัน
● นอกจากนี้ยังมี Sport Mode ช่วยปรับการทำงานของคันเร่งให้ตอบสนองเร็วยิ่งขึ้น และปรับการทำงานของพวงมาลัยให้มีน้ำหนักมากขึ้น เหมาะสำหรับการเร่งแซงและการขับที่ใช้ความเร็วสูง ปิดท้ายด้วยการติดตั้งชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เป็นไฮไลท์เช่นเดียวกัน
ราคาจำหน่าย
● Toyota Hilux Revo : จะแยกการจำหน่ายเป็น 40 รุ่นย่อย สีภายนอกเลือกได้ 8 สี สีใหม่มี 3 สี คือ Dark Blue Mica (เฉพาะรุ่นยกสูงขับ 2/ขับ 4), Emotional Red (เฉพาะรุ่น Rocco) และ Oxide Bronze Metallic (เฉพาะรุ่น Rocco) ส่วนรุ่นอื่นๆ มี White Pearl CS (เฉพาะรุ่น Rocco/ขับ 4 เกรด High/ยกสูง แบบขับ 2), Silver Metallic (ยกเว้นรุ่น Rocco), Dark Grey Metallic (ยกเว้นรุ่น Rocco/Cab & Chasis), Attitude Black Mica (ยกเว้นรุ่นมาตรฐาน) และ Super White (ยกเว้นรุ่น Rocco/ขับ 4 ล้อ/ยกสูง ขับ 2 Pre-Runner เกรด High)
- Rocco ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท
- ขับ 4 ราคา 862,000 – 1,159,000 บาท
- Pre-Runner ขับ 2 ราคา 707,000 – 1,009,000 บาท
- Z-Edition ราคา 609,000 – 809,000 บาท
- รุ่นมาตรฐาน ราคา 544,000- 704,000 บาท
● ทุกรุ่นมีแคมเปญช่วงแนะนำ และแพคเกจการรับประกันคุณภาพเพิ่มเติมเป็น 5 ปี 150,000 กม. ค่าแรงเช็กระยะฟรีไปจนถึง 100,000 กม. รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท เพิ่มเติมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้ากับ Toyota Privilege More
● Toyota Fortuner : รุ่น Legender มี 7 รุ่นย่อย สีภายนอกเลือกได้ 3 สี พร้อมสีใหม่ 1 สี ประกอบด้วย Emotional Red Black Top (ใหม่), White Pearl CS Black Top หรือ Attitude Black Mica ส่วนรุ่นมาตรฐานมี 3 รุ่นย่อย สีภายนอกเลือกได้ 6 สี (สีใหม่ 2 สี) ประกอบด้วย Dark Blue Mica (ใหม่), Emotional Red (ใหม่), White Pearl CS, Silver Metallic, Dark Grey Metallic หรือ Attitude Black Mica
- 2.8 Legender ขับ 4 ราคา 1,839,000 บาท
- 2.8 Legender ราคา 1,769,000 บาท
- 2.4 Legender ขับ 4 ราคา 1,634,000 บาท
- 2.4 Legender ราคา 1,564,000 บาท
- 2.4G ขับ 4 ราคา 1,494,000 บาท (จาก 1,524,000 บาท)
- 2.4V ราคา1,424,000 บาท (จาก 1,454,000 บาท)
- 2.4G ราคา 1,319,000 บาท (จาก 1,349,000 บาท)
● ทุกรุ่นรับแพคเกจรับประกันคุณภาพ 5 ปี 150,000 กม. และขยายค่าแรงเช็กระยะฟรีจนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 45,000 บาท พิเศษ วันนี้ – 30 กันยายน 2563 เท่านั้น
● สนใจเชิญได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป หรือทดลองขับได้ที่ Toyota Driving Experience Park (TDEX) บางนา กม.3 ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป หรือติดตามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th
● มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ก่อนอื่นเราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย และขอส่งกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างรับการรักษาโรคนี้ ด้วยเหตุนี้เราจึงดำเนินโครงการ โตโยต้าเคียงคู่ไทย สู้ภัยโควิด-19 (Toyota Stay with You) โดยผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้าในการสนับสนุนรถยนต์โตโยต้าจำนวนทั้งสิ้น 280 คัน เพื่อช่วยส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ตลอดจนภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจในทุกเส้นทาง นอกจากนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่ารถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ของเราได้มีส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นนี้”
● “จากการที่พวกเราต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ ในขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีแผนประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เป็นครั้งแรกของโลก ทำให้ตัวผมเองคิดถึงวิธีการที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของเราออกสู่สาธารณชน และด้วยการที่ผมได้สังเกตเห็นความแข็งแกร่งของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ทำให้ผมนึกถึงคำว่า The Unbeatable ในภาษาอังกฤษขึ้นมา ผมมั่นใจว่าประเทศไทยและคนไทยจะสามารถเอาชนะสถานการณ์นี้ไปได้โดยปราศจากความย่อท้อ แม้ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคที่ยากลำบากใดๆ ก็ตาม ผมจึงนำคุณลักษณะของ The Unbeatable ของคนไทยมาใช้กับการแนะนำรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ใหม่ และรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ในการเปิดตัวทั่วโลก”
● “สำหรับโตโยต้า ไฮลักซ์ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้โครงการ IMV ซึ่งมียอดขายสะสมกว่า 2.6 ล้านคัน โดยในปี 2562 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ และโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ยังคงมียอดขายเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะ Pure Pick-up 38.3% และส่วนแบ่งการตลาดรถ PPV 43.4% ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่เชื่อมั่นในด้านคุณภาพการผลิตและศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยแต่งตั้ง ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยคนไทย อีกทั้งยังประกอบขึ้นด้วยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังทั่วโลกโดยคนไทย”
● “จากการเข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ ของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มา 3 ปีแล้ว ผมตัดสินใจที่จะลงแข่งขันโดยขับรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ในประเทศไทย นั่นเป็นเพราะว่าผมอยากที่จะสัมผัสประสบการณ์ และรับรู้ถึงความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ อย่างถ่องแท้ โดยเราได้จัดการแข่งรถเพื่อการกุศลของบรรดาผู้บริหารโตโยต้า (Toyota Executive Charity Race) ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในตอนนั้นผมเข้าร่วมการแข่งขันกับคุณสุรศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลอดจนยังมีผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่หลายท่าน และท่านเจ้าของผู้แทนจำหน่ายฯ บางท่านเข้าร่วมการแข่งขันด้วย สรุปคือพวกเราทุกคนรักโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่และเราอยากพัฒนาโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”
● “จากประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการเผชิญสภาพการแข่งขันที่หนักหน่วง สุดท้ายผมก็เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงเสียงตอบรับที่ลูกค้ามีต่อรถไฮลักซ์ รีโว่ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่าจะลงมือพัฒนาจุดต่างๆ เหล่านี้ในรุ่นใหม่ล่าสุด ผมเองได้ทดลองขับโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ใหม่มาหลายครั้งแล้ว และขอยอมรับว่านี่คือรถกระบะที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถแข่งที่มีสมรรถนะเยี่ยมยอด ผมรู้สึกได้ถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นการพัฒนาครอบคลุมทุกด้านที่เราได้รับเสียงตอบรับมาจากลูกค้า ทั้งด้านรูปลักษณ์หน้าตาที่ดุดันมากขึ้น ชุดไฟท้ายที่โดดเด่นเหนือระดับ สะกดทุกสายตา การเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่าง เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง ที่มีแรงม้ามากขึ้น การตอบสนองด้านการขับขี่ ความรู้สึกของอัตราการเร่งที่เหนือระดับ แต่ยังคงความประหยัดเชื้อเพลิงและมีความเงียบ ไม่เพียงเท่านี้ เพราะเรายังนำเสนอคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม”
● “ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในรถรุ่นใหม่นี้ และอยากให้ลูกค้าคนสำคัญของเรา พี่น้องสื่อมวลชนได้ทดลองขับและสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ที่จะได้รับจากการขับขี่รถรุ่นใหม่ของเรา จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เรามีความภาคภูมิใจที่จะแนะนำให้ทุกท่านได้พบกับโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์และความคุ้มค่ามากที่สุดในวงการรถยนต์ สำหรับ “ลูกค้าชาวไทยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแกร่งเหนือนิยาม” นำเสนอโดยผู้บริหารของโตโยต้า ผู้ซึ่งเป็นนักแข่งไฮลักซ์ที่ทั้งดุดันและรักในสปิริตของความเป็นไฮลักซ์ ขอให้ทุกท่านสนุกให้เต็มที่นะครับ ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะประทับใจกับประสบการณ์นี้ไปกับเรา”
● ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า “เราเริ่มพัฒนาโปรเจคนี้ด้วยเป้าหมายที่ต้องการสร้างรถที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยการลงพื้นที่เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้รถจากทั่วทุกทวีป เพื่อให้ได้ข้อมูลในการออกแบบรถที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เรานำเสนอรถในตระกูลนี้ถึง 5 รุ่น พร้อมกัน ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยฝีมือคนไทยตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการนำเอาข้อมูลท้ังหมดที่ได้รับจากการลงภาคสนาม นำมาสู่การพัฒนา รถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ภายใต้แนวคิด Toughness for Everyone ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
● “อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของโตโยต้า นั่นก็คือโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในเจเนเรชั่นที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโฉมอย่างเป็นทางการในรอบ 5 ปี โดยเราได้ออกแบบและพัฒนารูปลักษณ์ให้มีความ Prestige & Cool มากยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำของผู้ขับขี่อย่างมีระดับ เน้นความหรูหราและทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยกลางคนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว และใช้งานในชีวิตประจำวัน ในครั้งนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น 2 ดีไซน์ โดยมีรุ่นมาตรฐานและรุ่นพิเศษ”
● “แม้เราตั้งใจจะออกแบบรถสําหรับผู้ใช้ทั่วโลก แต่สิ่งที่เราให้ความสําคัญที่สุดก็คือลูกค้าชาวไทย โดยเราคํานึงถึงการใช้งานทั้งในเมืองและแบบสมบุกสมบัน ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตกับครอบครัวได้อย่างลงตัว และนี่จะเป็นก้าวสําคัญของวงการรถกระบะ และรถ อเนกประสงค์ระดับโลกกับความแกร่งทุกมิติ ที่คิดค้นโดยคนไทย เพื่อคนไทย อย่างแท้จริง”
● นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการเปิดตัวโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักในการสื่อสาร ‘พลังแกร่งเหนือนิยาม’ หรือ The Unbeatable’ โดยสื่อถึงสมรรถนะพลังของเครื่อง GD Super Power ใหม่ ที่ดุดัน เร้าใจ ที่มาพร้อมความแกร่งเกินนิยาม คือ ทั้งแข็งแรง หนักแน่น แต่ก็นุ่มนวลได้อย่างเหนือความคาดหมาย พร้อมด้วยช่วงล่าง Super Flex Suspension ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของคนไทย ที่มีความเป็นนักสู้ที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคแม้ต้องเจอปัญหาหนักแค่ไหนก็พร้อมจะฝ่าฟัน สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและทำให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ทุกครั้ง”
● “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกกลุ่มอาชีพ โดยเราได้กำหนดแนวทางการสื่อสารในครั้งนี้ ให้สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และบุคลิกของผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม”
● “การเปิดตัวรถใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ของโตโยต้า The New Era of Experience พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของทุกท่านด้วย Digital Platform ที่ผ่านความร่วมมือระหว่างพันธมิตรของโตโยต้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ New Buying Experience และประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ New Usage Experience ให้แก่ลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน T-Connect by Toyota ให้คุณอุ่นใจปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์ ให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย และเชื่อมต่อความสุขทุกเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ ที่เตรียมพร้อมไว้ เช่น แพ็คเกจประกันภัยชั้นหนึ่ง Convini-insure คุ้มครองนาน 3 ปี ที่สามารถนำไปรวมกับยอดแบ่งจ่ายรายเดือนได้ รวมถึง Toyota Tube ที่จะเป็นสื่อแนะนำการใช้งานรถยนต์ในรูปแบบวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือ ให้ลูกค้าได้มั่นใจประสิทธิภาพรถของเรายิ่งขึ้น” ●