2021 Ford F-150 เจนเนอเรชั่น 14 เครื่องไฮบริด PowerBoost

546views

เรื่อง : AREA 54

● ฟอร์ดเปิดตัวปิคอัพขนาดฟูลไซส์รุ่นสำคัญ Ford F-150 รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 14 รถปิคอัพที่ขายดีที่สุดตลอดกาลในสหรัฐฯ ไฮไลท์สำคัญคือการแนะนำเครื่องยนต์เบนซิน V6 ฟูลไฮบริด รุ่นใหม่ ตระกูล “PowerBoost” ตัวรถเตรียมตีตราจำหน่ายเป็นรถรุ่นปี 2021 ภายในปี 2020 นี้

● F-150 ใหม่ยังเก็บสิ่งที่ดีเอาไว้ตั้งแต่การผลิต F-150 เจนเนอเรชั่น 13 เช่น การเริ่มใช้เหล็ก high-strength steel ในการผลิตเฟรม หรือใช้อลูมิเนียมที่ทนทานระดับเกรดทหารในการผลิตชิ้นส่วนบอดี้ เป็นต้น เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ในกลุ่มดิจิทัล เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้านงานออกแบบเห็นได้ชัดว่าฟอร์ดเพิ่มภาพลักษณ์ความแกร่งด้วยการเน้นไปที่การใช้เหลี่ยมสันรอบคันมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

● แม้จะมีรูปลักษณ์เป็นรถทรงกล่องตลอดคัน แต่ฟอร์ดระบุว่า F-150 ใหม่จะมีอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การผลิต F-150 จากการทำงานร่วมกันระหว่างฟังก์ชั่น Active grille shutter ที่กระจังหน้า, ฟังก์ชั่น Active air dam ที่ชายล่างด้านหน้า ซึ่งจะทำงานอัตโนมัติ รวมถึงการออกแบบฝาปิดกระบะท้ายใหม่ ทั้งหมดนี้จะช่วยลดแรงเสียดทานอากาศ และช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงในอีกทางหนึ่ง

● อุปกรณ์ไฮเทคในห้องโดยสาร แยกกันไปตามระดับราคา รุ่นพื้นฐานยังคงใช้จอบอกข้อมูลขนาด 4 นิ้ว ขนาบข้างด้วยมาตรวัดอนาล็อก ในขณะที่รุ่นกลาง-ใหญ่ จะได้ใช้งานมาตรวัดฟูลดิจิทัลที่แสดงผลผ่านจอขนาด 8 หรือ 12.2 นิ้ว

● ส่วนจอกลางสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์จะมี 2 ขนาด คือ 8 หรือ 12 นิ้ว ทุกรุ่นมากับระบบอินโฟฯ รุ่นใหม่ล่าสุด SYNC 4 รองรับการอัพเดทระบบแบบ over-the-air และมีฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay

● ปิดท้ายด้วยการใช้งานผู้ช่วยเสมือน Ford+Alexa with SYNC® 4 AppLink® ซึ่งฟอร์ดใช้ความสามารถจาก Alexa ของแอมาซอน

● นอกจากนี้ ในบางรุ่นย่อยผู้ขับยังสามารถพับก้านคันเกียร์เก็บซ่อนเอาไว้ในคอนโซลกลางได้ โดยเมื่อพับเก็บลงไปแล้วจะมีฝาปิดแบนราบตลอดแนว ทำให้ผู้ขับมีพื้นที่ในการวางสิ่งของต่างๆ เช่น แล็ปท๊อป เพิ่มความสะดวกในการทำงานนอกสถานที่

● ชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS ที่ฟอร์ดใช้ชื่อทางการค้าว่า Ford Co-Pilot360™ มากับเวอร์ชั่นอัพเกรด 2.0 ชุดระบบมีอาทิ ระบบ Auto high-beam ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Pre-Collision Assist with Automatic Emergency Braking and Pedestrian Detection ช่วยป้องกันการชน พร้อมระบบเบรคอัตโนมัติในขณะฉุกเฉิน และมีฟังก์ชั่นตรวจจับคนเดินถนน, กล้องหลังพร้อมฟังก์ชั่น Hitch assist ช่วยอำนวยความสะดวกในการต่อพ่วงเทรลเลอร์ หรืออุปกรณ์ลากจูง และระบบ Active Driver Assist ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ขับละมือจากพวงมาลัยได้ในขณะขับบนไฮเวย์ ทั้งในสหรัฐฯ และแคนาดา โดยระบบนี้จะทำงานร่วมกับกล้องที่ทำหน้าตรวจจับตำแหน่งศรีษะและสายตาผู้ขับตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับไม่ได้ละมือจากพวงมาลัยเพราะหมดสติ

● ในเบื้องต้น ฟอร์ดยังไม่ได้ระบุรายละเอียดของรุ่นเครื่องยนต์ทั้งหมด แต่มีการคาดกันว่า F-150 จะยังคงมีรุ่นเครื่องยนต์ที่ครอบคลุมทั้งเบนซิน/ดีเซลเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า เช่น เครื่องยนต์เบนซินตระกูล EcoBoost แบบ V6 ความจุ 3.3 ลิตร, เครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 2.7 หรือ 3.5 ลิตร ที่พ่วงทวิน-เทอร์โบชาร์จ, เครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 5.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล V6 ความจุ 3.0 ลิตร

● ส่วนระบบใหม่แบบฟูลไฮบริด “PowerBoost” เบื้องต้นประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost แบบ V6 ความจุ 3.5 ลิตร, มอเตอร์ไฟฟ้า 47 แรงม้า (HP), แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุ 1.5 กิโลวัทท์-ชม., ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค/ยกคันเร่ง และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ SelectShift กำลังรวมทั้งระบบและสมรรถนะในการลาดจูงยังไม่มีข้อมูลในเวลานี้

● สำหรับราคาจำหน่ายและตัวเลขสมรรถนะอย่างเป็นทางการของ F-150 ใหม่ ฟอร์ดยังไม่ระบุครับ… อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดตั้งเป้าหมายให้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดชุดนี้วิ่งทำระยะทางได้ราว 700 ไมล์ หรือประมาณ 1,126 กม. ต่อน้ำมัน 1 ถัง… ส่วนเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนแบบแบตเตอรี่ มาแน่ แต่คงต้องรอกันไปอย่างน้อยๆ จนถึงปี 2022 ครับ ●