2021 Fiat 500 ไฟฟ้าล้วนทุกรุ่น เพิ่มรุ่น 3+1 ประตู Suicide Door

1.1Kviews

เรื่อง : AREA 54

● หลังเผยโฉม Fiat 500 ใหม่แบบไฟฟ้าล้วนตลอดไลน์อัพในช่วงต้นปี และติดขัดกับช่วงวิกฤติ COVID-19 ไประยะหนึ่ง ในที่สุดเฟียตก็พร้อมจำหน่าย 500 ใหม่ในอิตาลีแล้ว โดยมีไฮไลท์ใหม่ล่าสุดเป็นรุ่นย่อยชื่อ “3+1” ที่มากับประตูจิ๋วขนาดเล็กเปิดแบบตู้กับข้าว (หรือ Suicide door หรือ Rear-hinged-doors)

● 500 ใหม่พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับผลิตรถแบตเตอรี่ แยกจำหน่ายเป็น 3 รุ่นหลักตามรูปแบบตัวถัง ประกอบด้วย Fiat 500 la Prima รุ่นพื้นฐาน 3 ประตู, Fiat 500 Cabrio la Prima หลังคาผ้าใบ และรุ่นล่าสุด Fiat 500 3+1 ที่มาพร้อมประตู Suicide Door ในด้านขวา ขนาดตัวรถมีความยาวรวม 3,632 มม. กว้าง 1,683 มม. สูง 1,527 มม. ฐานล้อ 2,322 มม. เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะใหญ่ขึ้นในทุกมิติ

2021 Fiat 500 3+1

● ชุดระบบขับเคลื่อนมี 2 ทางเลือกหลัก ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 70 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 95 แรงม้า (PS) และ 87 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 118 แรงม้า ส่วนแบตเตอรี่แพคมี 2 ความจุ คือ 24 กิโลวัทท์-ชม. หรือ 42 กิโลวัทท์-ชม. ทั้งคู่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน รองรับการชาร์จไฟแรงดันสูงเป็นพิเศษจากสถานีชาร์จสาธารณะ

● รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 9.5 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดเอาไว้ที่ 135 กม./ชม. รุ่น 118 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 9 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดเอาไว้ที่ 150 กม./ชม.

● จุดแตกต่างที่สำคัญคือ รุ่นแบตเตอรี่ 24 kWh จะรองรับกำลังไฟสูงสุด 50 กิโลวัทท์ (ในโหมดชาร์จเร็ว) เฉลี่ยแล้วระยะเวลาในการชาร์จ 10 นาที จะได้ระยะทางประมาณ 50 กม. ส่วนรุ่นแบตเตอรี่ 42 kWh จะรองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 85 กิโลวัทท์ ระยะเวลาในการชาร์จ 80% จากจำนวนเต็มจะอยู่ที่ 35 นาทีเท่านั้น เฉลี่ยแล้วระยะเวลาในการชาร์จ 5 นาที จะได้ระยะทางประมาณ 50 กม.

2021 Fiat 500 Cabrio la Prima

● โหมดในการขับเลือกได้ 3 โหมด ประกอบด้วย (1) Normal และ (2) Range โดย 2 โหมดนี้ผู้ขับสามารถใช้งานฟังก์ชั่น engine braking (หรือ one-pedal-drive ลักษณะเดียวกับ e-Pedal ของ Nissan Leaf) ได้ ส่วนโหมดสุดท้ายเรียกว่า (3) Sherpa ระบบจะควบคุมการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด เช่น จำกัดความเร็วสูงสุดให้เหลือ 80 กม./ชม. หรือหยุดการทำงานของระบบปรับอากาศ และระบบอุ่นเบาะ เป็นต้น

● ด้านชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS เฟียตระบุว่า 500 ใหม่เป็นรถรุ่นแรกในกลุ่มซิตี้คาร์ (A-segment) ที่มากับระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ Level 2 อาทิ ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Lane Keep Assist และ Lane Control ช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Autonomous Emergency Brake with pedestrian and cyclist recognition ช่วยเบรคอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน

● ปิดท้ายด้วยกล้องหน้า-หลังความละเอียดสูง พร้อมเซนเซอร์รอบคัน สำหรับช่วยป้อนข้อมูลรอบตัวรถในการประเมินสถานการณ์ต่างๆ และระบบช่วยเหลือในขณะเข้าจอดแบบ 360 องศา พร้อมฟังก์ชั่นมุมมองแบบ Bird eye view หรือที่เฟียตเรียกว่า Drone view

● อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารมี แผงแดชบอร์ดใหม่แบบลอยตัว, มาตรวัดหลังพวงมาลัยแบบฟูลดิจิทัล แสดงผลผ่านจอความละเอียดสูงแบบ TFT ครึ่งวงกลม ขนาด 7 นิ้ว, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ UConnect 5 แบบอัลตร้าไวด์ ทัชสกรีน ขนาด 10.25 นิ้ว จัดวางแบบลอยตัว รองรับการใช้งาน Android Auto แบบพื้นฐานด้วยสาย USB, Apple CarPlay แบบไร้สาย, บริการอำนวยความสะดวกผ่านแอพฯ Uconnect™ Box และถาดชาร์จสมาร์ทโฟแบบไร้สาย… เรียกว่าครบเครื่องสำหรับรถเล็ก

● นอกจากนี้ รุ่น 3+1 จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ ราว +30 กก. เนื่องจากเฟียตต้องเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของรถ จากการที่รุ่น 3+1 นั้นไม่มีเสา B ทางด้านขวาของตัวรถ และเพื่อความปลอดภัย ประตูจิ๋วนี้จะเปิดได้ก็ต่อเมื่อประตูบานหน้าเปิดแล้วเท่านั้น

● ราคาจำหน่าย 500 ใหม่รุ่นพื้นฐานในอิตาลี เริ่มต้นที่ 19,900 ยูโร หรือประมาณ 7.4 แสนบาท… ราคานี้เป็นราคาที่รับสิทธิ์ส่วนลดสร้างแรงจูงใจจากรัฐบาลราว 6,000 ยูโร หรือถูกลงราว 2.3 แสนบาทครับ

● อย่างไรก็ตาม เฟียตวางแผนจะจำหน่าย 500 ใหม่เวอร์ชั่นไฟฟ้าคู่ไปกับรุ่นเชื้อเพลิงฟอสซิล (รุ่นก่อนหน้า) ไปอีกอย่างน้อยๆ ราว 2 ปี จึงจะยุติการทำตลาด… เบื้องต้นจะเริ่มจำหน่ายแบบจำกัดปริมาณในยุโรปเท่านั้น จากนั้นจึงจะเริ่มทำตลาดในภูมิภาคอื่นๆ ภายในช่วงในปี 2021 ●