MG HS PHEV รถ SUV ปลั๊ก-อินฯ เปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทย
ภาพ : จันทนา เจริญทวี
● หลังชวนสื่อฯ ไปทดลองขับกันแบบพอสัมผัสถึงประสิทธิภาพ วันนี้ (27 ตุลาคม 2563) เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์ พลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด MG HS PHEV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และจะเริ่มจำหน่ายที่โชว์รูมทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2563 นี้
● โดยพื้นฐาน HS PHEV มีภาพลักษณ์ที่ไม่ต่างจาก HS รุ่นพื้นฐานมากนัก สีภายนอกเลือกได้ 3 สี ประกอบด้วยสีขาว Arctic White ภายในทูโทน และสีแดง Scarlet Red หรือสีดำ Black Knight ภายในสีดำ
● อุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วยชุดไฟหน้า LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ชุดไฟวิ่งกลางวัน Daytime Running Lights, ไฟท้าย LED Space Light Field, ไฟเลี้ยวแบบ Sequential แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ล้ออัลลอยลายใหม่ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว, ช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut, ช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงหน้า/หลัง
● ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุผิวนุ่มแบบ Soft Touch, เบาะคู่หน้าทรงบัคเก็ท ตกแต่งด้วย Alcantara, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, หลังคา Panoramic Sunroof ขนาด 1.1 ตารางเมตร, สะดวกด้วยมาตรวัดฟูลดิจิทัล Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 10 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ i-SMART พร้อมคำสั่งเสียงภาษาไทย, ชุดระบบซาวด์ซิสเต็มของ BOSE 8.1 Sound System และไฟแอมเบียนท์ 64 สี, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสาร, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบกรองอากาศในระดับ PM 2.5, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
● ชุดระบบ i-SMART มีฟังก์ชั่นอาทิ Smart Command สั่งการระบบได้ด้วยคำสั่งเสียงภาษาไทย, ควบคุมการทำงานได้ผ่านสมาร์ทโฟน, ฟังก์ชั่น Emergency Call ช่วยโทรอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน, ฟังก์ชั่น Smart Connect เชื่อมต่อโลกออนไลน์, ระบบนำทางแบบ Real Time, ฟังก์ชั่นอัพเกรดระบบแบบออนไลน์ Smart Check ที่มีระบบ Charging Management ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่, การชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ และการค้นหาสถานีชาร์จ รวมถึงการตรวจสอบสถานะรถ และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ, สั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ, ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car และการเข้าถึงบริการ Passion Service ของเอ็มจี, ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application
● ชุดระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 162 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ Permanent Magnet Synchronous กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ EDU II 10 จังหวะ แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุ 16.6 กิโลวัทท์-ชม. กำลังรวมทั้งระบบ 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 48.9 กก.-ม.
● โหมดในการขับแบบปกติเลือกได้ 5 แบบ ประกอบด้วย Normal, Eco, EV, Sport และ Super Sport โดยโหมดไฟฟ้าล้วนสามารถวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 67 กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 65 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 36 กรัม/กม.
● ชุดระบบความปลอดภัยในกลุ่ม ADAS หรือ Advanced Driver Assistance System ซึ่งนับเป็น ระบบขับเคลื่อน “กึ่ง” อัตโนมัติเลเวล 2 ตามมาตรฐานของ SAE ประกอบด้วย:
● ระบบ Lane Change Assist ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, ระบบ Blind Spot Detection ช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนขณะถอยหลัง, ระบบ Door Open Warning, ระบบ Lane Departure Warning ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน, ระบบ Lane Departure Prevention ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน, ระบบ Lane Keep Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบ Forward Collision Warning ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถคันหน้า และระบบ Intelligent High-Beam Control เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
● อื่นๆ มี จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX, ระบบ Speed Sensing Door Lock ล็อคประตูอัตโนมัติ, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ, ถุงลมนิรภัย 6 จุด, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3D Around View Monitor และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
● เอ็มจี จะเริ่มจำหน่าย HS PHEV ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป การจัดแสดงเป็นทางการจะมีขึ้นที่งาน Fast Auto Show Thailand 2020 ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ตัวรถจะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
● ราคาจำหน่าย 1,359,000 บาท
● มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจีก้าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งต้องเผชิญกับการตั้งคำถาม และความท้าทายมากมาย ทั้งนี้ จากความทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพร้อมเป้าหมาย ให้รถยนต์เอ็มจีทุกรุ่นจะต้องตอบสนองความต้องการที่แท้จริง และสามารถสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าด้วยการ นำเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าของตลาดรถยนต์ระดับโลกมาไว้ในรถยนต์เอ็มจี โดดเด่นด้วยการสร้างเอกลักษณ์ ที่เน้นการออกแบบภายนอกที่มีไดนามิค และดีไซน์ที่เป็นแฟชั่น ระบบส่งกำลังที่เต็มประสิทธิภาพ การควบคุม ที่ดีเยี่ยม ระบบความปลอดภัยทั้งแบบ Active และ Passive ที่ครบครัน ตลอดจนระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งได้รับความชื่นชอบจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงเครือข่ายผู้จำหน่ายของเอ็มจีที่ได้ขยายและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้เอ็มจีสามารถยืนหยัดในประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและได้รับการยอมรับในวงกว้าง โดยมีผู้บริโภคที่ชื่นชอบแบรนด์และรถยนต์เอ็มจีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
● “เอ็มจียังคงเดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยยึดมั่นใน 3 องค์ประกอบหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของเอ็มจี ได้แก่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology) แฟชั่น (Fashion) และความคุ้มค่า (Value for money) พร้อมไปกับการยกระดับการให้บริการที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย และต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รถยนต์คันที่ 100,000 ได้ผลิตออกจากโรงงานของเรา ซึ่งก็คือ MG HS PHEV ที่เปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบที่สี่ต่อจากเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย”
● “ผมเชื่อว่า ทุกท่านมีความคาดหวังและความมั่นใจกับการพัฒนาของเอ็มจีในประเทศไทย วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ เราจะทำงานอย่างหนัก ขยันและทุ่มเท เพื่อให้มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเอ็มจีจะยังคงเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง และให้การบริการที่ดียิ่งขึ้น ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของโลก เพื่อตอบสนองความต้องการด้านรถยนต์และประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภคคนไทยต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายอีกหนึ่งแสนคันเร็วๆ นี้”
● นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบรวมไปถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ให้ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการขับขี่ที่มาพร้อมความคุ้มค่าทำให้รถยนต์เอ็มจี ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภค ชาวไทย และสามารถก้าวขึ้น มาเป็นผู้นำกลุ่มรถ SUV ได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน สำหรับ MG HS PHEV เป็นโมเดลรุ่นล่าสุดที่เราภาคภูมิใจ โดยมาพร้อมแนวคิด Refinement ซึ่งต่อยอดความโดดเด่นจาก MG HS โดยการเพิ่มความเหนือระดับ ทั้งในเรื่องของสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมจากเทคโนโลยีขั้นสูงของระบบ Plug-in Hybrid พร้อมการออกแบบที่สวยงามลงตัวและการติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน เพื่อให้เป็นรถที่เหมาะสมและคู่ควรกับผู้ที่ต้องการความหรูหราเหนือระดับและเทคโนโลยีขั้นสูง”
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.mgcars.com หรือติดต่อ MG Call Centre โทร. 1267 รวมถึงทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย MG Thailand ●