October 30, 2020
Motortrivia Team (10170 articles)

Mitsubishi แถลงวิสัยทัศน์ใหม่เดินหน้าสู่ยุคระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

●  มิตซูบิชิ ประเทศไทย จัดงานแถลงวิสัยทัศน์ใหม่ และทิศทางการดำเนินงานในประเทศไทย ‘The Legend Reinvented’ หรือ ‘ก้าวข้าม สร้างตำนานใหม่’ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดตัว Mitsubishi Outlander PHEV โดยตัวงานจัดขึ้นที่สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม จังหวัดปทุมธานี

●  มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานด้วยชัยชนะถึง 12 ครั้งจากสนามแข่งสุดหฤโหดระดับโลก ปารีส-ดาการ์ ทำให้ปาเจโรเป็นสุดยอดตำนานแห่งรถ SUV รวมถึงมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน เจ้าแห่งสนามเวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออล วีลล์ คอนโทรล (S-AWC) เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง ไอ-มีฟ (i-MiEV) ทั้งหมดนี้คือความยิ่งใหญ่ระดับตำนาน”

มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

Mitsubishi Outlander PHEV

●  Mitsubishi Outlander PHEV ก็คือรุ่นย่อยเวอร์ชั่น ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ของ Mitsubishi Outlander รถ SUV ครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์ที่มิตซูบิชิทำตลาดมาตั้งแต่ช่วงปี 2001

●  จากนั้นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในปี 2012 มิตซูบิชิได้เปิดตัวรุ่นย่อย ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ตามออกมา โดยนับเป็นรถ SUV ปลั๊ก-อิน ไฮบริดรุ่นแรกของโลก และเป็นรถรุ่นแรกที่มีการผลิต/จำหน่ายเชิงพาณิชย์ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นรถรุ่นสำคัญในการบุกตลาดยุโรปในช่วงปลายปีเดียวกัน ก่อนจะส่งออกไปยังตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ ในช่วงปี 2015

มร. เคอิชิ โคอิโตะ Executive Vice President Domestic Sales Unit, Sales Strategy Unit, Network lmprovement Unit and After Sales Unit

●  มิตซูบิชิระบุว่า Outlander PHEV เป็นรถ SUV ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ลูกค้าในประเทศไทยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดด้านระยะทางในการขับแบบรถแบตเตอรี่ เนื่องจากตัวรถยังคงใช้เครื่องยนต์เป็นเจนเนอเรเตอร์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และยังสบายใจได้เรื่องค่าใช้จ่ายในด้านการบำรุงรักษา เพราะ Outlander PHEV จะมีการผลิตขึ้นที่ศูนย์การผลิตในประเทศไทย ทุกคันจะมาพร้อมกับแพคเกจการรับประกัน และการบำรุงรักษาตามแบบฉบับของมิตซูบิชิ

●  ดังนั้น Outlander PHEV ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด จึงเป็นรถที่มิตซูบิชิตั้งใจจะใช้เป็นสะพานเชื่อมต่อในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากยุครถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปสู่ยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ล้วนๆ ในอนาคต

DDH : Dendo Drive House

●  นอกจากนี้ มิตซูบิชิยังได้ทำการเปิดตัว Dendo Drive House หรือ DDH (เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์) ระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าของมิตซูบิชิ ซึ่ง Dendo Drive House ก็คือชื่อทางการค้าของระบบ V2X (vehicle-to-everything) ของมิตซูบิชินั่นเอง

●  มร. โมะริคาซุ ชกกิ กล่าวว่า “เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ที่สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม ถือเป็นพื้นที่การศึกษารูปแบบใหม่ที่ให้ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสกับ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังได้เรียนรู้งานดีไซน์ควบคู่กับงานด้านวิศวกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เข้าชมได้ค้นพบว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และเทคโนโลยี เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถเข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนได้เป็นอย่างดี”

●  เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือระบบสำหรับที่พักอาศัยซึ่งประกอบด้วย Mitsubishi Outlander PHEV, อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า 2 ทิศทาง (Bi-Directional), แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่แพคสำหรับที่พักอาศัย โดยมีการจำหน่ายชุดอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การขาย การติดตั้ง ตลอดจนบริการบำรุงรักษาหลังการขาย โดยรวมแล้ว เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือระบบที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากที่พักอาศัย เพื่อนำไปใช้ในการชาร์จยานพาหนะ และในทางกลับกันก็ยังสามารถดึงพลังงานไฟฟ้ากลับจากยานพาหนะเพื่อนำไปใช้ในที่พักอาศัย

●  เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถผลิต จ่าย และเก็บพลังงานไฟฟ้าได้อัตโนมัติตามความต้องการ โดยทั่วไปแล้วในช่วงเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้พลังงานต่ำ แผงโซลาร์เซลล์จะผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่สำหรับบ้านและแบตเตอรี่รถจนแบตเตอรี่เต็ม ในช่วงกลางวันแผงโซลาร์เซลล์จะยังคงผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องสำหรับที่พักอาศัย โดยในช่วงเย็นพลังงานที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์จะลดน้อยลง และไฟฟ้าที่ชาร์จเก็บไว้ในแบตเตอรี่จะถูกนำมาใช้ภายในบ้าน ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงด้วย

●  และหาก Outlander PHEV จอดอยู่ และมีการเชื่อมต่อกับระบบ ตัวรถก็จะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ที่พักอาศัยด้วยเช่นกัน ผ่านอุปกรณ์ชาร์จไฟ 2 ทิศทาง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินและไฟดับ แบตเตอรี่ในที่พักอาศัยและใน Outlander PHEV จะสามารถเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรองได้ โดยสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ที่พักอาศัยได้ด้วยแบตเตอรี่ขนาดความจุ 13.8 กิโลวัตต์-ชม.

●  Mitsubishi Outlander PHEV ยังสามารถจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ได้สูงสุด 1,500 วัตต์ ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น เครื่องทำกาแฟ หม้อหุงข้าว หรือสำหรับชาร์จจักรยานไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบ Bi-Directional

●  เมื่อ Outlander PHEV ทำงานร่วมกับ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ จะเกิดเป็นระบบนิเวศด้านพลังงานที่สร้างประโยชน์มากมายให้แก่ผู้ใช้งาน โดยแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัยและรถ ยังสามารถชาร์จไฟฟ้าได้ในเวลากลางคืน ซึ่งค่าไฟจะมีราคาถูกที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถลดการพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า และที่สำคัญยิ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่ความยั่งยืน

●  ด้วยระบบนิเวศนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แสดงให้เห็นว่า ยานยนต์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัยได้อย่างไร และสะท้อนถึงการลงทุนของบริษัทฯ ในเทคโนโลยีการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมุ่งสู่พลังงานที่ยั่งยืนในอนาคต

●  Dendo Drive House ที่สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มีกำหนดจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้ เบื้องต้นมิตซูบิชิตั้งเป้าหมายให้เป็นพื้นที่การศึกษาสำหรับผู้มาเยี่ยมชมเพื่อพบปะและพูดคุยเกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในอนาคต

●  สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิตซูบิชิ ประเทศไทย เชิญได้ที่มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ โทร. 02-079-9500 (ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน) หรือเว็บไซท์ www.mitsubishi-motors.co.th   ●


MMTH New Brand Vision “The Legend Reinvented”