Ford ปรับโฉม Ranger และ Everest ใหม่ทั้งไลน์อัพ

1.4Kviews

motortrivia

● ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ของ Ford Ranger และ Ford Everest ทั้งไลน์อัพ เพื่อเตรียมจำหน่ายในงาน Motor Expo ปลายปีนี้ โดยมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน

● ไฮไลท์คือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 จะมีประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ครอบคลุมกลุ่มเครื่องยนต์, กลุ่มระบบส่งกำลัง และกลุ่มเพลาขับ สำหรับผู้ที่จองและออกรถตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ford.com/Ford-DrivelineCare

Ford Ranger Wildtrak

● เริ่มกันที่ Ford Ranger Wildtrak เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่เป็นฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้า หรือ Power Roller Shutter ตัวรถตกแต่งใหม่ด้วยกระจังหน้าแบบตะแกรงสีดำตัดขอบด้วยสีส้ม Saber, โลโก้ฟอร์ดสีดำ, ไฟหน้าสีเข้ม, ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว, อุปกรณ์ตกแต่งสีดำ อาทิ มือเปิดประตู, กรอบกระจกมองข้าง, ช่องลมข้างบังโคลน, ราวหลังคา, สปอร์ตบาร์ และกันชนหลัง ส่วนห้องโดยสารมากับเบาะใหม่ ตกแต่งด้วยหนัง และหนังสังเคราะห์

● Ford Ranger Wildtrak รุ่น 4×2 เกียร์ธรรมดา ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท รุ่น 4×2 เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,029,000 บาท รุ่น 4×4 ราคา 1,265,000 บาท ข้อเสนอพิเศษ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรีโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ Schedule Service Plan (SSP) นาน 4 ปี หรือ 60,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ) พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปี

หมายเหคุ : Ford Ranger Raptor ราคา 1,699,000 บาท ข้อเสนอพิเศษ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

Ford Ranger XL Street

● Ford Ranger XL Street เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 160 แรงม้า นับเป็นรุ่นย่อยใหม่ในไลน์อัพของ Ranger (ตอนครึ่ง แต่งโหลด) ตกแต่งรอบคันด้วยสติ๊กเกอร์ที่ออกแบบโดยทีมฟอร์ด ดีไซน์ ออสเตรเลีย ใช้แรงบันดาลใจตัวแข่งของทีม Ford Thailand Racing (FTR), กระจังหน้าตะแกรงสีดำ ตัดขอบด้วยสีแดง, ล้ออัลลอย 16 นิ้วสีดำ สีภายนอกเลือกได้ 4 สี น้ำเงิน Lightning Blue, เงิน Aluminum Metallic, ขาว Arctic White หรือดำ Absolute Black

● ห้องโดยสารมีจอทัชสกรีน Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple CarPlay, บลูทูธ, พอร์ท USB 2 จุด, ชุดลำโพง 6 ตำแหน่ง และมีระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance

● Ford Ranger XL Street ราคาจำหน่าย 669,000 บาท ข้อเสนอพิเศษ ดาวน์ 25,500 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

Ford Ranger XL+ Sport

● Ford Ranger XL+ Sport เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 160 แรงม้า มากับตะแกรงสีดำ, ล้ออัลลอยสีดำ 17 นิ้ว อุปกรณ์มาตรฐานเกรดเดียวกัน คือ จอทัชสกรีน Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple CarPlay, บลูทูธ, พอร์ท USB 2 จุด, ชุดลำโพง 6 ตำแหน่ง และมีระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance ปิดท้ายด้วยฟังก์ชั่นล็อค/ปลดล็อคประตูด้วยกุญแจรีโมท

● Ford Ranger XL+ Sport ราคาจำหน่าย ราคา 689,000 บาท ข้อเสนอพิเศษ ดาวน์ 30,500 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

Ford Ranger XLT 2.2L

● Ford Ranger XLT เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 160 แรงม้า มากับตะแกรงสีดำ ตัดขอบด้วยโครเมี่ยม, กระจกมองข้าง มือจับประตู และกันชนหลังตกแต่งด้วยสีดำเงา อุปกรณ์เฉพาะรุ่นที่เพิ่มเข้ามาประกอบด้วย เบาะหนัง, เบาะฝั่งผู้ขับปรับได้ 6 ทิศทาง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM

● Ford Ranger XLT ราคาพิเศษช่วงแนะนำ รุ่นเกียร์ธรรมดา 799,000 บาท จากราคาปกติ 854,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และฟรีชุดแต่งพิเศษ Exterior Pack มูลค่า 10,280 บาท

Ford licensed accessories

● สำหรับผู้ที่ต้องการตกแต่งเพิ่มเติม ฟอร์ดมีชุดแต่งจากโรงงานให้เพิ่มเติมอีกหลายรายการ ประกอบด้วย ชุดกระจังหน้าพร้อมตัวอีกษร F.O.R.D แบบเว้นช่องไฟ, ชุดคิ้วโป่งล้อพร้อมหมุดโลโก้ฟอร์ดขนาด 6 นิ้ว, ชุดกันสาดประตูหน้า-หลัง, กล้องบันทึกวีดีโอด้านหน้า, อุปกรณ์ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ชุดผ้ายางปูพื้นห้องโดยสารพร้อมโลโก้ Ford Performance และชุดลากจูง

Ford Everest

● สำหรับ Ford Everest ใหม่ จะมากับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรที่มีการปรับปรุงใหม่ พร้อมเพิ่มความมั่นใจด้วยการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

● การปรับโฉมมีอาทิ กระจังหน้าใหม่, ตัวอักษร Everest บนฝากระโปรงหน้าแบบนูนต่ำ, มือเปิดประตูโครเมียม, กระจกมองข้างโครเมียม, บันไดข้างสีดำ และชุดตกแต่งสีเงิน ส่วนหลังคาเป็นแบบ panoramic moonroof สีภายนอกมี ขาว Snow Flake White Pearl สำหรับ Everest Trend, Titanium และ Titanium+ ส่วน Everest Sport มีสีน้ำเงิน Deep Crystal Blue

● อุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ประกอบด้วย กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Keyless Entry, ปุ่ม Push Start, ระบบสั่งงานด้วยเสียงรุ่นใหม่ SYNC 3 รองรับภาษาไทย, Android Auto, Apple Car Play, แอร์แบค 7 ตำแหน่ง, สัญญาณเตือนระยะจอดหน้า/หลัง พร้อมกล้องมองหลัง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM

● เทคโนโลยีในกลุ่ม ADAS หรือ Advanced-Driving Assist ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control, ระบบช่วยจอด Active Park Assist, ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection Autonomous Emergency Braking with Pedestrian Detection, ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High Beam Control และระบบตรวจจับลมยาง Tire Pressure Monitoring System

● Ford Everest Trend ราคา 1,299,000 บาท, Everest Titanium ราคา 1,399,000 บาท, Everest Titanium Sport ราคา 1,429,000 บาท, Everest Titanium+ 4×2 เทอร์โบชาร์จ ราคา 1,599,000 บาท และ Everest Titanium+ 4×4 ทวินเทอร์โบชาร์จ ราคา 1,799,000 บาท ทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่งไฟฟ้า (Electric Pack) มูลค่า 11,350 บาท

● “ฟอร์ดพร้อมตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ของไทยอีกครั้งด้วยการแนะนำฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในฐานะรถยนต์ที่สะท้อนนิยามการใช้ชีวิตที่แตกต่างและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของลูกค้าฟอร์ด” นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

● “เรามั่นใจว่าความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าฟอร์ด จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่โดนใจให้กับลูกค้า เพื่อต่อยอดความสำเร็จด้านยอดขาย และตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้กับแบรนด์ฟอร์ดตลอดมาได้อย่างดีที่สุด”

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ฟอร์ด (Ford Call Center) โทร. 1383 ต่อหมายเลข 5 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หรือเว็บไซท์ www.ford.co.th ●