Live The Ranger Life ขับ Ranger WildTrak ไปทำความดี

708views

เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

● ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ปรับโฉมเพิ่มความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตดุดัน เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น พร้อมระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่เหนือชั้น สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบเรนเจอร์ด้วยกิจกรรมเพื่อชุมชน ณ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ภายใต้แนวคิด ‘Live The Ranger Life สร้างเส้นทางในแบบคุณ’ ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการส่งมอบและติดตั้งชุดเครื่องเสียงแก่ชุมชนบ้านพุระกำ เพื่อเป็นศูนย์รวมการกระจายข่าวสารและเตือนภัยให้แก่ชุมชน ตามแนวคิด Can’t Help But Help ไม่ว่าอย่างไรเราพร้อมช่วยเหลือ

Ranger Wildtrak ปรับโฉมเพิ่มอุปกรณ์พร้อมลุย

● ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย เดินทางด้วย ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ใหม่ มาพร้อมฝาปิดกระบะท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า (Power Roller Shutter) อุปกรณ์เสริมใหม่ที่ช่วยจัดเก็บของท้ายกระบะรถได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์การบรรทุกเครื่องเสียงที่จะนำไปมอบให้กับชุมชนโดยไม่ต้องกังวลว่าสิ่งของที่อยู่ในกระบะท้ายจะโดนแดดหรือฝน ควบคุมการเปิด-ปิด ได้จากทั้งสวิตช์ในรถ ที่กระบะท้าย และที่รีโมทคอนโทรล ฝากระบะท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift Tailgate ช่วยผ่อนแรงและเพิ่มความสะดวกในการปิด-เปิด

● เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค Hi-Rider ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ มาพร้อมการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

● ภายนอกของ เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ดุดันลงตัวยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าใหม่ ตะแกรงสีดำตัดขอบด้วยสีส้ม Saber เอกลักษณ์เฉพาะไวลด์แทรคเท่านั้น พร้อมโลโก้ฟอร์ดสีดำสไตล์สปอร์ต อุปกรณ์ตกแต่งภายนอกสีดำที่ดูสปอร์ตดุดันยิ่งขึ้น ทั้งล้อแม็กสีดำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 รวมทั้งที่เปิดประตู กรอบกระจกมองข้าง ช่องลมข้างบังโคลน ราวหลังคา สปอร์ตบาร์ และกันชนหลังสีดำเข้าชุด โคมไฟหน้าสีเข้มขึ้น เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ทำด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ โดยเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดแนะนำอุปกรณ์เสริมใหม่ ชุดปิดฝากระบะท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (Power roller shutter) เป็นสำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค โดยเฉพาะ

● ตลอดการเดินทางใช้ความเร็วปานกลางไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในห้องโดยสารมีเสียงรบกวนต่ำ ได้ยินเสียงเครื่องยนต์แค่เพียงเแผ่วๆ เท่านั้น ส่วนเสียงลมปะทะมีน้อยมาก ทั้งที่รถทรงสูงต้านลม ความนุ่มนวลสมกับเป็นรุ่น 4 ประตูที่เน้นโดยสารมากกว่าการบรรทุก นั่งสบายใกล้เคียงเอสยูวีรุ่นเอเวอเรสต์ แทบไม่มีการดีดเด้ง ขับบนทางออฟโรดเบาๆ ก็ยังนุ่มนวลไม่กระแทกหรือกระชาก ในตำแหน่งหลังพวงมาลัยก็ให้ความรู้สึกที่ดี ขับง่ายขับสบายแทบไม่เหมือนขับปิกอัพ รถควบคุมง่ายและเบาแรง ทิศนวิสัยรอบคันอยู่ในเกณฑ์ดีด้วยความสูงของตัวรถ ขับทางไกลได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า

● เครื่องยนต์ 180 แรงม้า กับแรงบิด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่เกินพอเมื่อขับตัวเปล่าไม่มีน้ำหนักบรรทุก การเร่งแซงหรือเพิ่มความเร็วเพื่อเข้าร่วมทางหลัก ทำได้อย่างทันใจเพิ่มความปลอดภัย เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ให้การตอบสนองที่ฉับไวและราบเรียบต่อเนื่อง ช่วยเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี ในเกียร์ D ก็มีการลดเกียร์ให้เมื่อลดความเร็วลง ในโหมด S สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้ที่ปุ่มบนหัวเกียร์ ซึ่งใช้งานจริงไม่ถนัดและไม่คุ้นเคย ถ้าจะไม่มี Paddle Shift มาให้ ก็น่าจะออกแบบให้โยกคันเกียร์ +/- ได้ จะใช้งานได้ถนัดและรวดเร็วกว่า ขากลับ กทม. นั่งหน้าตลอดทาง ได้ลองเล่นหน้าจอสัมผัสที่รวบเอาทุกระบบหลักเข้าไว้ด้วยการ เพียงเลือกเมนูที่ต้องการ หน้าจอก็จะเปลี่ยนเป็นการควบคุมระบบนั้นๆ ทำให้ลดความสับสนของจำนวนปุ่มต่างๆ ไปได้พอสมควร

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.ford.co.th/trucks/ranger ●