December 20, 2020
Motortrivia Team (10076 articles)

Mazda BT-50 ใหม่ Sneak Preview พร้อมลองขับสั้นๆ

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่นๆ ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบเพื่อให้สามารถ “ใช้งานได้ทุกโอกาส” จึงทำให้มาสด้า BT-50 ใหม่ โดดเด่นในทุกการใช้งาน ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการไปจนถึงการขับแบบออฟโร้ด ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่การผสมผสานระหว่างแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงามของมาสด้า กับความทรงพลัง ทนทาน และประโยชน์ใช้สอยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถปิกอัพ โดยออกแบบตามแนวคิดโคโดะ มีรายละเอียดที่งดงามและให้ความรู้สึกหนักแน่น

●  ด้านหน้าดูมีมิติ เส้นสายบนตัวรถช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งซึ่งเหมาะกับรถปิกอัพ ซิกเนเจอร์วิงส์และไฟหน้าที่มีรูปทรงกระบอก ทำให้มองแล้วรู้ทันทีว่าเป็นรถมาสด้า เช่นเดียวกับการออกแบบภายในที่ผสมผสานอย่างมีรสนิยมระหว่างคุณภาพและความแข็งแกร่งของรถปิกอัพ สิ่งนี้ทำสำเร็จได้โดยการออกแบบแผงหน้าปัดและองค์ประกอบต่างๆ ในแนวนอน ทำให้ได้ภายในที่กว้างขวาง และการตกแต่งด้วยสีเมทัลลิก ก็ยังช่วยเพิ่มมุมมองแบบสามมิติให้กับห้องโดยสารอีกด้วย

สนุกกับกิจกรรมที่ท้าทายอย่างชาญฉลาด

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของปิกอัพ ที่รวมถึงอัตราเร่งอันทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อออกตัวจากจุดสตาร์ท และความสามารถในการขับบนถนนขรุขระ รวมถึงสามารถขับลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 800 มม. อีกทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล และการขับที่เป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับรถครอสโอเวอร์เอสยูวี เมื่อต้องการเร่งความเร็ว เช่น การเร่งเครื่องเพื่อให้เหมาะสมกับการจราจรบนทางหลวง มาสด้า BT-50 ใหม่ ก็ให้พละกำลังที่เหลือล้นและตอบสนองต่อความตั้งใจของผู้ขับได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ง่ายต่อการขับในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับแบบออฟโร้ด หรือเลี้ยวในที่แคบ นอกจากนี้กระบะท้ายรถก็ยังสามารถรับน้ำหนักได้อย่างเหลือเฟือ และยังง่ายต่อการขนถ่ายสิ่งของอีกด้วย

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมฟังก์ชั่นอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงพวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทและมีฟังชั่นเปิดไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ (Welcome Light) รวมถึงมือจับที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลัง ขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบ Infotainment รวมถึงหน้าจอแสดงผลความคมชัดสูง WXGA และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ซึ่งฟังก์ชั่นต่างๆ เหล่านี้ช่วยมอบความสะดวกสบาย และทำให้การขับในทุกสถานการณ์เต็มไปด้วยความสนุก

ห้องโดยสารที่สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ห้องโดยสารมีความสะดวกสบายและมีความเงียบเทียบเท่ากับรถเอสยูวี การออกแบบภายในทิศทางแนวราบมอบความรู้สึกที่เปิดกว้าง ในขณะที่ระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างเบาะนั่งฝั่งซ้ายและขวาก็ช่วยทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางและโอ่อ่า การเย็บที่ประณีตของวัสดุตกแต่งบริเวณคอนโซลส่วนบน ทำให้สัมผัสได้ถึงคุณภาพระดับสูง ซึ่งจะช่วยให้การขับทางไกลสะดวกสบายและสนุกมากยิ่งขึ้น

●  สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็ป มีการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง และช่อง USB เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารแถวหลังยิ่งขึ้น มาสด้า BT-50 ใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่มอบความปลอดภัยให้กับทุกสถานการณ์การขับ ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารทุกคนมีความมั่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ออกแบบตามแนวคิดโคโดะ

●  จุดมุ่งหมายของการออกแบบมาสด้า BT-50 ใหม่ คือออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอันสง่างาม มาผสมผสานกับความทรงพลัง ความทนทาน และประโยชน์ใช้สอยที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ให้สามารถ ‘ใช้งานได้ทุกโอกาส’ มาสด้าได้ออกแบบให้รถโดดเด่นในทุกสถานการณ์การขับ ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการจนถึงการขับแบบออฟโรด

●  กระโปรงหน้ารถที่สูงทำให้ด้านหน้าดูบึกบึนและทรงพลังตามแบบฉบับของรถปิกอัพ นอกจากนั้น เส้นสายที่ลากยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าไปตามแนวสะท้อนของด้านข้างรถต่อเนื่องไปจนถึงไฟท้าย ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายของ โคโดะ ดีไซน์ ทำให้สามารถตัดทอนองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไปได้ทั้งหมด แต่ในทางกลับกันก็ช่วยทำให้รู้สึกถึงคุณภาพของการออกแบบที่เกินกว่าจะหาได้จากรถปิกอัพทั่วไป

●  ด้านหน้ารถประกอบด้วยกระจังหน้าที่สูงและตั้งตรงที่ให้ความรู้สึกสง่าผ่าเผย ซิกเนเจอร์วิงส์ที่แผ่ขยายออกทางด้านข้างและไฟหน้ารูปทรงกระบอกสูบ ก็ทำให้ดูดุดันและแสดงถึงความงดงามอันประณีตที่มองแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถมาสด้า เมื่อมองจากด้านหลัง ซุ้มล้อที่ดูโดดเด่นให้ภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง กระบะท้ายที่ทอดยาวไปจนถึงสัญลักษณ์มาสด้าที่ด้านหลัง สร้างความรู้สึกที่ต่อเนื่องจากด้านหน้ารถไปจนถึงด้านหลัง โดยรวมแล้ว การออกแบบได้สะท้อนถึงคุณภาพและความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า

●  ไฟหน้าแบบ LED ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว และเป็นทรงกระบอก ทำให้ได้แสงไฟที่สว่างไสว ดูมีมิติและชัดเจน ที่เห็นแล้วรู้ว่าทันทีว่าเป็นลักษณะการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ส่วนไฟท้ายก็เป็นรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การออกแบบไฟทรงกลมอันเป็นลักษณะเฉพาะของมาสด้า

●  BT-50 ใหม่ น่าจะเป็นรถยุคใหม่ไม่กี่รุ่น ที่มีขนาดตัวรถเล็กลงกว่ารุ่นเดิม อย่างในรุ่นล่าสุดตัวถังยกสูง มีความยาว 5,280 มิลลิเมตร กว้าง 1,870 มิลลิเมตร สูง 1,790 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร เทียบกับโฉมปัจจุบัน มีความยาว 5,365 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,821 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,220 มิลลิเมตร แม้ตัวรถจะเล็กน้อยเล็กน้อย แต่ภายในห้องโดยสารยังคงความกว้างขวางไม่ต่างจากรุ่นเดิม

ดีไซน์ภายในต่อเนื่องจากภายนอก

●  ภายในถูกออกแบบให้สอดคล้องกับธีมการออกแบบภายนอก โดยผสมผสานระหว่างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของมาสด้า กับความทนทานและทรงพลังของรถปิกอัพ การออกแบบคอนโซลในแนวราบที่ขยายออกไปถึงประตูทั้งสองด้าน ทำให้ห้องโดยสารมีความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวาง

●  คอนโซลหน้าที่ดูแข็งแรง และช่องแอร์ ก็ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกที่แข็งแกร่งและทรงพลังให้กับรถปิกอัพ แผงคอนโซลหน้ามาพร้อมกับแผ่นรองหัวเข่าและใช้การออกแบบที่เน้นผู้ขับเป็นศูนย์กลางอันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า และสุดท้าย การเดินตะเข็บด้ายอย่างพิถีพิถันบนแผงหน้าปัด คอนโซลหน้า และแผ่นรองหัวเข่า ก็ช่วยเพิ่มสัมผัสถึงคุณภาพของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับมาตรวัดแบบอนาล็อก 2 ชุด โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับอยู่ตรงกลาง และมีแผงหน้าปัดด้านหลังสีดำสนิท จึงทำให้ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างตัวอักษรสีขาวกับขอบสีเงินของมาตรวัดแบบอนาล็อก ซึ่งให้ความรู้สึกลุ่มลึกและดุดัน

●  ช่องแอร์ถูกวางตำแหน่งในส่วนกลาง ด้านซ้าย และด้านขวา ของคอนโซลหน้า ทำให้ดูมีมิติ และตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยแถบที่ลากยาวจากกลางคอนโซลต่อเนื่องไปยังเบาะนั่งผู้โดยสาร ซึ่งช่องแอร์และแถบกลางคอนโซลนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสีเงินเข้มที่ให้ความรู้สึกสงบ กรอบช่องแอร์สีเงินเข้มก็ยังช่วยเสริมสร้างความสง่างาม ในขณะที่สีดำด้านที่ตกแต่งแผงคอนโซลก็ให้ภาพลักษณ์ที่หนักแน่นของเมทัลลิก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยผสมผสานการแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของรถปิกอัพกับความลงตัวของการออกแบบ

ระบบ Infotainment ครบครัน

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง WXGA ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า และยังมีจอแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัสได้ และยังมี Apple CarPlay® และฟังก์ชั่น Android Auto™ และในบางรุ่นยังรองรับฟังก์ชั่นการควบคุมการทำงานด้วยเสียง อีกด้วย

2 ทางเลือกเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ลิตร

●  เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร คอมมอนเรลแรงดันสูงที่ฉีดเชื้อเพลิง ที่แรงดันสูงสุดถึง 250 เมกะปาสกาล (MPa) และ VGS เทอร์โบที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีการเคลือบฉนวนที่ลูกสูบและเกียร์ Double-scissors ที่ช่วยลดเสียงรบกวน สิ่งเหล่านี้ถูกรวมอยู่ในเครื่องยนต์จึงทำให้สามารถเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำ ให้สมรรถนะการขับที่ทรงพลัง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และช่วยลดเสียงรบกวน

●  มีความกว้างกระบอกสูบ 95.4 มิลลิเมตร ช่วงชัก 104.9 มิลลิเมตร ความจุ 2,999 ซีซี อัตราส่วนการอัด 16.3:1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.1 กิโลเมตรต่อลิตร (รุ่นเกียร์อัตโนมัติ)

●  เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร ระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำงานแม่นยำอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสม เสริมการควบคุมอัตราเร่งที่เพิ่มความเร็วรอบเมื่อออกจากจุดสตาร์ท และระบบหล่อเย็น EGR ถูกติดตั้งมาในฝาสูบ พร้อม Water Jacket ช่องทางระบายความร้อนด้วยน้ำภายในเสื้อสูบและฝาสูบในท่อทางเดิน EGR ซึ่งเครื่องยนต์นี้ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีความเงียบและทนทาน และให้สมรรถนะการขับที่ทรงพลังเมื่อเร่งเครื่องออกจากจุดสตาร์ท

●  มีความกว้างกระบอกสูบ 80.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 94.4 มิลลิเมตร ความจุ 1,898 ซีซี อัตราส่วนการอัด 16.5:1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร (รุ่นเกียร์อัตโนมัติ)

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ สิ่งที่ต้องการสำหรับการเลือกใช้งานระบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติมีขนาดกะทัดรัด มีชุดตัดต่อกำลังที่มีน้ำหนักเบา และระบบล็อคอัพที่ทรงพลัง ซึ่งส่งผลให้รถมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยมเมื่อออกตัวและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

●  ในรุ่น 4×4 ใช้เพลาขับที่ทำจากอลูมิเนียมจึงทำให้มีน้ำหนักเบาลง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ส่งกำลัง โดยช่วยให้สามารถสลับโหมดการขับเคลื่อนและการทำงาน 4H/4L ได้เร็วขึ้นเมื่ออยู่ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 4×4 มาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนสูงสุดได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการขับบนถนนที่ขรุขระ

ระบบกันสะเทือนพัฒนาใหม่

●  ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double-Wishbone) และชุดแหนบ (Leaf Spring) ทำให้ช่วงล่างของมาสด้า BT-50 สามารถให้การควบคุมรถอย่างมีเสถียรภาพและขับสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในรุ่นยกสูงยังได้มีการเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถมากขึ้น

ลดเสียงรบกวน ลดการสั่นสะเทือน และลดความกระด้าง (NVH)

●  การติดตั้งแผงคอนโซลกลางที่ยึดกับพื้นตัวถังและการติดตั้งแผงคอนโซลหน้าได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากโครงแชสซี มีการติดตั้งโฟมเข้าไปภายในเสาแต่ละต้นเพื่อช่วยดูดซับเสียงจากแผงประตูด้านข้าง รวมไปถึงพรมปูพื้นและฉนวนได้ถูกผลิตขึ้นเป็นชิ้นเดียวกันทำให้สามารถดูดซับเสียงได้อย่างดีเยี่ยม มาสด้า BT-50 ได้ใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อพัฒนาให้ห้องโดยสารเงียบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ แผงหน้าปัดยังติดตั้งอยู่กับตัวถังโดยตรงเพื่อลดการสั่นสะเทือน

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในทุกสถานการณ์การขับ ประกอบด้วย

●  ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM เป็นระบบเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังเมื่อเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกันที่ใช้กับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือนคนขับเมื่อตรวจพบว่ามีรถยนต์กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากทางด้านหลัง

●  ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบควบคุมเครื่องยนต์และเบรกเพื่อควบคุมอัตราเร่งและรักษาความเร็วเมื่อขับรถลงทางลาดชัน ช่วยให้ผู้ขับมีสมาธิในการควบคุมพวงมาลัย และมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับรถลงจากทางลาดชัน

●  ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA) เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพื่อเร่งเครื่องยนต์จากจุดออกตัวบนทางลาดชัด ระบบเบรกจะยังคงทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหลไปข้างหลัง เพื่อช่วยให้การขับปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

●  ระบบช่วยจอด Parking Aid เซ็นเซอร์ 4 ตัวบนกันชนด้านหน้าและด้านหลังจะช่วยกะระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุ โดยระบบจะส่งเสียงแจ้งเตือนผู้ขับเมื่อรถเคลื่อนเข้าไปใกล้วัตถุจนถึงระยะห่างที่กำหนด

●  ไฟหน้าแบบ LED ท้ังไฟต่ำและไฟสูงเป็นหลอด LED ให้ลำแสงสีขาวสว่างช่วยให้มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อขับในเวลากลางคืนและช่วยประหยัดพลังงาน

●  ระบบถุงลมนิรภัย SRS นอกจากถุงลมนิรภัยฝั่งผู้ขับและฝั่งผู้โดยสารที่เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานแล้ว มาสด้า BT-50 ใหม่ ยังมาพร้อมม่านถุงลมนิรภัยและถุงลมนิรภัยด้านข้าง ที่ช่วยลดอันตรายที่อาจจะเกิดกับศีรษะและหน้าอกของผู้ขับและผู้โดยสาร ซึ่งรถรุ่นนี้มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยรวมสูงสุด 6 ตำแหน่ง

●  นอกจากนี้เบาะนั่งด้านหน้ายังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่คอเมื่อเกิดการชนท้าย และยังมีเซ็นเซอร์แจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า ที่ช่วยเตือนให้ผู้ขับและผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัย

ทดลองขับสั้นๆ ทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์

●  หลังจากรับฟังรายละเอียดตัวรถ มาสด้าก็จัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับระยะทางสั้นๆ เริ่มจากรุ่นดับเบิลแค็บ 3.0 SP 4×4 เกียร์อัตโนมัติ ออกตัวจากจุดสตาร์ทเข้าสู่สถานีสลาลม ใช้ความเร็วไม่สูงเพราะไม่ชินรถ รู้สึกว่าพวงมาลัยตอบสนองได้ฉับไวในระดับที่พอเหมาะกับตัวรถ การหมุนซ้ายขวาต่อเนื่องทำได้ราบเรียบต่อเนื่องและเบาแรง จากนั้นเป็นโค้งซ้ายได้กดคันเร่งเบาๆ ดูอัตราเร่งช่วงความเร็วต่ำ ที่ทำได้ดีพอสมควร ไม่อืดหรือรอรอบ จากนั้นเข้าสู่สถานีเปลี่ยนเลนกะทันหัน รถก็ไปได้ตามที่สั่งอย่างคล่องแคล่ว การควบคุมทิศทางไม่ต้องออกแรงเยอะ อาจเป็นเพราะใช้ความเร็วค่อนข้างต่ำ ถ้าเป็นการซอกแซกในเมืองก็ถือว่าทำได้ดี

●  จากนั้นเข้าสู่ทางคดเคี้ยว มีรถนำเพื่อไม่ให้ขับเร็วเกินไป ลองเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินปกติไปเล็กน้อย ตัวรถมีอาการโคลงไม่มากนัก ไม่รู้สึกหวาดเสียวและให้ความรู้ว่ายังสามารถควบคุมรถได้สบายๆ การควบคุมรถบนทางโค้งด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ทำได้อย่างเบาแรง ตัวรถโคลงน้อย การยืดยุบตัวของช่วงล่างเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป รุ่นที่ขับเป็น 4 ประตูเน้นโดยสาร บางจังหวะจึงรู้สึกว่านุ่มไปนิด มีการยืดยุบหลายครั้งกว่าจะหยุด แต่ยังอยู่ในการควบคุม

●  ปิดท้ายด้วยการขับรอบสนามใหญ่ใช้ความเร็วสูงได้ ออกจากจุดสตาร์ท พอคลายพวงมาลัยตรงก็กดคันเร่งสวนลงไป ถ้าไม่คาดหวังกับตัวเลข 190 แรงม้า 450 นิวตัน-เมตร มากเกินไป ก็จะไม่รู้สึกว่าอืด การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ต่อเนื่องและค่อนข้างกระชับ ไล่อัตราทดเกียร์มาดี รอบจึงไม่แกว่งขึ้นลง อัตราเร่งลื่นไหลต่อเนื่อง การเข้าโค้งกว้างด้วยความเร็วสูงทำได้มั่นคง ทางตรงได้ความเร็วกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวรถยังนิ่งมั่นคง ระบบเบรกทำงานได้อย่างหนักแน่นมั่นใจ สร้างแรงฉุดกระชากได้แบบสมน้ำสมเนื้อกับความแรงและขนาดตัวรถ การควบคุมแรงเบรกทำได้ง่าย ไม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับรถก็เบรกได้อย่างนุ่มนวล

●  สลับมาขับรุ่น 1.9 S AT Hi-Racer 4×2 จับความรู้สึกได้ตั้งแต่ขับสลาลมสถานีแรกคือ การควบคุมรถเบาแรงกว่าคันแรกที่ขับ พวงมาลัยหนืดน้อยกว่า แต่ยังคงมีน้ำหนักไม่เบาหวิวเกินไป ช่วงล่างก็หนักแน่นใกล้เคียงกัน ช่วงขับบนทางคดเคี้ยวรู้สึกว่าขับสบายกว่า ใช้แรงน้อยกว่าในการควบคุมรถ ทั้งที่ใช้ความเร็วสูงกว่าตอนขับคันแรกเพราะเริ่มชินทางแล้ว

●  ช่วงสุดท้ายขับบนทางรอบนอกของสนามใช้ความเร็วสูงได้ อัตราเร่งไม่ได้แย่กว่ารุ่น 3.0 แบบฟ้ากับเหว ถ้าขับตัวเปล่าหรือบรรทุกไม่หนักมากนัก ก็ไม่น่าบ่นว่าอืด โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ารุ่น 1.9 นี้เหมาะสำหรับใช้งานเป็นรถส่วนตัว เพราะเครื่องยนต์แรงเกินพอกับการขับตัวเปล่า ตัวรถเบาๆ ไม่มีความฝืดจากชุดขับเคลื่อน 4 ล้อ ลดชิ้นส่วนและการดูแลรักษาไปได้อีกพอสมควร

●  ภายในของทั้ง 2 รุ่น ทำได้ดีทั้งในแง่การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุ เบาะนั่ง แผงหน้าปัด แผงประตู และพวงมาลัย ให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อสัมผัส อุปกรณ์มาตรฐานก็ครบและดูดี ทั้งจอสัมผัสที่คอนโซลกลาง แอร์ดิจิตอลพร้อมจอแสดงผลและการสั่งงานแบบปุ่มโยกขึ้น-ลง ให้สัมผัสที่หนักแน่นดูมีราคาเมื่อใช้งาน คันเกียร์มีตำแหน่ง +/- โยกได้สั้นกระชับ มีความรู้สึกลงล็อกหนักแน่นดี

●  ลองย้ายไปนั่งเบาะหลังในรอบการทดสอบ ยังรู้สึกว่าพนักพิงตั้งชันไปนิด ทั้งที่ที่วางขาเหลือเฟือ ถ้าเลื่อนเบาะนั่งไปด้านหน้าอีกนิดเพื่อให้พนักพิงมีองศาเอนมากขึ้นอีกหน่อยก็น่าจะดี เพราะไหนๆ เบาะหลังก็มีทั้งช่องจ่ายไฟฟ้า ที่เท้าแขนกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำมาให้แล้ว ถ้าได้ที่พิงสบายๆ อีกอย่างก็น่าจะให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงเอสยูวีที่ใช้พื้นฐานจากรถปิกอัพ

●  มาสด้า BT-50 ใหม่ จะเปิดตัวพร้อมประกาศราคาในช่วงต้นปีหน้า ช่วงนี้ก็อดใจรอกันอีกนิด แล้วค่อยตัดสินใจ   ●

2021 Mazda BT-50 : Sneak Preview