Elon Musk สนับสนุนรางวัลสำหรับโครงการกำจัดคาร์บอน
motortrivia
● Elon Musk และมูลนิธิมัสค์ (Musk Foundation) สนับสนุนรางวัลมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการแข่งขันในโครงการกำจัดคาร์บอน “XPRIZE Carbon Removal” จากองค์กรไม่แสวงผลกำไร XPRIZE หรือ X Prize Foundation โดยนับเป็นการมอบรางวัลจูงใจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อกระตุ้นให้นักประดิษฐ์พัฒนาและขยายขนาดโซลูชันกำจัดคาร์บอนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
● การแข่งขัน XPRIZE Carbon Removal เป็นการระดับโลกซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 4 ปี นักประดิษฐ์พร้อมทีมจากทั่วโลกสามารถร่วมออกแบบและสาธิตวิธีที่จะสามารถดึงเอาคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศหรือมหาสมุทรได้โดยตรง และกักเก็บไว้อย่างถาวรด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
● ทีมแข่งจะต้องแสดงแบบย่อส่วนเพื่อจำลองวิธีแก้ปัญหา ซึ่งตัวแบบจำลองนั้นจะต้องมีความถูกต้องแม่นยำเมื่อเทียบกับสัดส่วนจริง โดยจะต้องสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในระดับ 1 ตันต่อวัน จากนั้นจะต้องสาธิตให้คณะกรรมการตัดสินถึงความสามารถของวิธีแก้ปัญหาในการขยายขนาดให้ได้ถึงระดับกิกะตัน
● เป้าหมายของการแข่งขันคือขยายสเกลวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพให้สามารถกำจัดคาร์บอนได้ตามเป้าหมายที่ 10 กิกะตันต่อปีภายในปี 2050 เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและทำให้ระดับคาร์บอนของโลกกลับมาอยู่ในระดับสมดุลอีกครั้ง
● Elon Musk กล่าวว่า “เราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง เราต้องการเห็นค่าคาร์บอนติดลบ ไม่ใช่แค่ค่าคาร์บอนเป็นศูนย์ เป้าหมายสูงสุดของเราคือการสร้างเทคโนโลยีดักคาร์บอนที่สามารถขยายขนาดได้ และจะต้องมีการวัดผลจาก ‘ต้นทุนต่อตันที่พิจารณาอย่างละเอียด’ ซึ่งรวมถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมด้วย นี่ไม่ใช่การแข่งขันทางทฤษฎี เราต้องการทีมที่จะสร้างระบบขึ้นมาจริง ๆ และสามารถสร้างผลกระทบที่สามารถวัดผลได้และขยายขนาดสู่ระดับกิกะตันต่อไป เราต้องทุ่มเททุกอย่างที่มีเพราะเวลาไม่รอใคร”
● “เราขอท้าเหล่าวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และผู้ประกอบการทั้งหลายให้มาสร้างและสาธิตระบบกำจัดคาร์บอนที่ใช้ได้จริงให้เราเห็น” Peter H. Diamandis ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ XPRIZE กล่าว
● “เราต้องการเห็นระบบในขนาดย่อที่สามารถสาธิตการกำจัดคาร์บอนได้ในระดับ 1 ตันต่อวันได้จริง ๆ จากนั้นเราอยากเห็นว่าระบบเหล่านั้นสามารถขยายขนาดเพื่อรองรับการกำจัดคาร์บอนในระดับกิกะตัน (อย่างคุ้มทุน) ได้อย่างไร เป้าหมายของการแข่งขันครั้งนี้คือกระตุ้นให้ผู้ประกอบการและวิศวกรคิดหาวิธีกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งหลายๆ วิธีถูกนำมาพูดคุยและถกเถียงกันเท่านั้น เราต้องการเห็นพวกเขาสร้าง ทดสอบ และทำให้สิ่งเหล่านั้นใช้งานได้จริง เราหวังว่าการแข่งขันโดย XPRIZE ครั้งนี้จะกระตุ้นให้ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมเช่นเดียวกับที่การแข่งขัน Ansari XPRIZE เพื่อชิงรางวัลมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ฯ ได้ทำให้เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการบินอวกาศเชิงพาณิชย์มาแล้ว”
● การที่มนุษย์จะสามารถบรรลุเป้าหมายในข้อตกลงปารีสที่ตั้งเป้าควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 หรือ 2 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรมได้นั้น เราต้องการการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ และในระดับที่มากกว่าแค่การควบคุมการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมการกำจัดคาร์บอนได้ทั้งในอากาศและมหาสมุทร หากมนุษย์ยังคงเดินบนเส้นทางเดิมๆ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจเพิ่มสูงขึ้น 6 องศาเซลเซียสภายในปี 2100
● รายละเอียดสำหรับการแข่งขันจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 เมษายน 2021 ซึ่งเป็นวันคุ้มครองโลก และจะมีการเปิดรับสมัครทีมแข่งในวันเดียวกัน โดยการแข่งขันจะกินเวลา 4 ปีจนถึงวันคุ้มครองโลกปี 2025
รายละเอียดเงินรางวัลมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ฯ
● หลังการแข่งขันผ่านไป 18 เดือน คณะกรรมการตัดสินจะเลือกทีมมา 15 ทีมเพื่อรับเงินรางวัลทีมละ 1 ล้านดอลลาร์ฯ จากนั้น Milestone Awards จะเริ่มต้นการระดมทุนของทีมเพื่อพัฒนาแบบจำลองและสาธิตในขนาดจริงเพื่อแข่งขันในรอบชองชนะเลิศต่อไป โดยในช่วงกรอบเวลาเดียวกัน จะมีการแจกทุนการศึกษามูลค่า 200,000 ดอลลาร์ฯ จำนวน 25 ทุนให้กับทีมนักเรียนนักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขัน และเงินรางวัลที่เหลือ 80 ล้านดอลลาร์จะมอบให้กับผู้ชนะดังนี้:
- รางวัลชนะเลิศ : 50 ล้านดอลลาร์ฯ
- รางวัลที่ 2 : 20 ล้านดอลลาร์ฯ
- รางวัลที่ 3 : 10 ล้านดอลลาร์ฯ
● ทั้งนี้ ทีมที่สนใจสามารถส่งผลงานได้ทั้งประเภทธรรมชาติ, วิศวกรรม หรือไฮบริด โดยคณะกรรมจะตัดสินจากเกณฑ์พื้นฐาน 4 ด้านดังนี้:
- ต้นแบบการกำจัดคาร์บอนที่ใช้งานได้จริงที่สามารถสาธิตให้เห็นได้ว่าสามารถกำจัดคาร์บอนได้อย่างน้อย 1 ตันต่อวัน
- ความสามารถของทีมในการสาธิตให้กรรมการตัดสินเห็นถึงการขยายขนาดของวิธีแก้ปัญหาเพื่อรองรับการกำจัดคาร์บอนระดับกิกะตันได้อย่างคุ้มทุน
- เกณฑ์การวัดหลักสำหรับการแข่งขันนี้จะพิจารณาที่ต้นทุนที่ใช้ต่อการกำจัดคาร์บอนหนึ่งตัน ซึ่งรวมถึงการพิจารณาใด ๆ ที่จำเป็นต่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม ความคงทน ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มใดๆ และ
- เกณฑ์สุดท้ายคือระยะเวลากักเก็บคาร์บอน โดยระยะที่พึงประสงค์คืออย่างน้อย 100 ปี
● Anousheh Ansari, CEO ของ XPRIZE กล่าวว่า “สภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงเป็นภัยคุกคามพื้นฐานต่อมนุษยชาติ แต่ก็ยังไม่สายเกินไปหากเราเริ่มลงมือทำอะไรตั้งแต่ตอนนี้! จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์สามารถสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนมากขึ้นบนโลกที่เราเรียกว่าบ้านใบนี้ การร่วมมือกับ Elon และมูลนิธิ Musk จะช่วยเราระดมความคิดเพื่อหาทางออกที่คุ้มค่า ซึ่งสามารถขยายขนาดให้เติบโตได้อย่างมากในโลกแห่งความเป็นจริง และการแข่งขัน XPRIZE Carbon Removal จะเชิญทีมต่างๆ ให้มาสร้างประวัติศาสตร์และกลายเป็นฮีโร่จากการต่อสู้กับสภาพอากาศและสร้างอนาคตใหม่ให้กับเรา”
● “เราคาดหวังที่จะได้เห็นความหลากหลายของทีมจำนวนมากจากทั่วโลกมาลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน สิ่งที่สวยงามเกี่ยวกับการแข่งขัน XPRIZE ก็คือความหลากหลายของวิธีที่ทีมต่างๆ นำมาใช้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการกำจัดคาร์บอนเนื่องจากการดึงคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและมหาสมุทรนั้น สามารถทำได้หลายวิธี เราหวังที่จะได้เห็นวิธีอย่างการดักจับคาร์บอนโดยตรงจากอากาศ กระบวนการ mineralization and enhanced weathering วิธีทางธรรมชาติโดยใช้พืช ต้นไม้ หรือมหาสมุทร เราอยากเห็นการสาธิตที่สามารถขยายขนาดได้จริงมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่เราจะสามารถช่วยให้วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดถูกนำไปพัฒนาและใช้งานได้โดยเร็วที่สุด”
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญที่ XPRIZE.org/prizes/elonmusk หรือ facebook แฟนเพจ : facebook.com/XPRIZE ●
ที่มา : ไทยบิสิเนสนิวส์ www.thaibusinessnews.com