March 24, 2021
Motortrivia Team (10167 articles)

MG Extender อีกหนึ่งไฮไลท์ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ 2021

motortrivia

●   บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีไฮไลท์ในปีนี้เป็นการเปิดตัว MG Extender รุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการ พร้อมเน้นย้ำทิศทางการดำเนินงานในไทยที่มี 3 องค์ประกอบสำคัญ ประกอบด้วย เทคโนโลยี (Technology), ความทันสมัย (Fashion) และความคุ้มค่า (Value) สู่การผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพเพื่อคนไทย

●   พื้นที่ของเอ็มจีในปีนี้ นอกจาก Extender ใหม่ยังมี MG ZS, MG HS, MG HS PHEV ที่มีทางเลือกสีภายนอกใหม่ เทา Metal Ash Grey ต่อด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ 2 รุ่นหลัก MG EP และ MG ZS EV ปิดท้ายด้วยแฮทช์แบครุ่นขายดี MG 3 ที่ยังคงทำยอดจำหน่ายให้กับเอ็มจีได้อย่างต่อเนื่อง

●   นอกจากนี้เอ็มจียังมีการจัดโซนพิเศษเพื่อสาธิตเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ติดตั้งในรถเอ็มจีรุ่นปัจจุบัน เช่น ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART, ชุดระบบช่วยขับยุคใหม่ในกลุ่ม Advanced Driver Assistance System (ADAS) ที่มีความสามารถเทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมไปถึงเทคโนโลยีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยชุดระบบไฟฟ้า หรือ xEV ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Plug-in Hybrid และหรือแบบแบตเตอรี่ (BEV)

●   รุ่นไฮไลท์ MG Extender ใหม่ มีการปรับภาพลักษณ์ใหม่เกือบทั้งคัน อุปกรณ์มาตรฐานอัพเกรดใหม่หลายรายการทั้งภายนอกและภายใน จุดเด่นคือเทคโนโลยี i-SMART ที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย หรือเลือกสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอพฯ MG iSMART และชุดระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System หลายรายการ

●   พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงแบบ คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 38.2 กก.-ม. ที่ 1,500 – 2,400 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ โหมดในการขับเลือกได้ 3 โหมด Normal Mode, Eco Mode หรือ Power Mode ระบบขับเคลื่อนเลือกได้ระหว่าง 2WD หรือ 4WD พร้อมเกียร์ 2H, 4H และ 4L เสริมด้วย Differential Lock สำหรับล็อคเฟืองท้าย

●   Extender ใหม่จะแยกการจำหน่ายเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ Giant Cab Low Ground (ตัวถังแบบตอนครึ่ง แยกเป็น 2 รุ่นย่อย), Giant Cab High Ground (3 รุ่นย่อย) และ Double Cab High Ground (ตัวถัง 4 ประตู 3 รุ่นย่อย) ราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 559,000 บาท – 1,039,000 บาท

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมา แม้ภาพรวมของตลาดจะถดถอย แต่เอ็มจียังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น รวมถึงเพิ่มจำนวนของโชว์รูมและศูนย์บริการครบ 150 แห่ง และมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเอ็มจีเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายมากที่สุดในกลุ่มรถยนต์ SUV โดยเฉพาะ ในกลุ่ม C-SUV และยังเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่”

●   “ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เรามียอดขายรถยนต์เอ็มจีสะสมรวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 คัน และในส่วนของการผลิต เอ็มจีถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา และได้เริ่มทยอยส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศอินโดนีเซีย และประเทศเวียดนาม ก่อนจะขยายไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาในประเทศอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ โดยเอ็มจียังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าในทุกๆ มิติที่เป็นไปได้ และเชื่อว่าทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคสามารถเกิดขึ้นได้ และดียิ่งขึ้นในทุกวัน ด้วยแนวคิด 3 แกนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี ความทันสมัย และความคุ้มค่า”

เดินหน้าแผนงานขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ

●   นายพงษ์ศักดิ์ เผยว่า แผนงานการขยายสถานีชาร์จของเอ็มจีนั้น ล่าสุดได้มีการติดตั้งสถานีชาร์จที่ศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศแล้วทั้งสิ้น 108 แห่ง และได้เปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้ว จำนวน 70 แห่ง

●   ในจำนวนนี้ สามารถเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงได้แล้ว 22 แห่ง ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ สามารถใช้แอพพลิเคชั่น i-SMART ตรวจสอบเวลาการทำงาน และความพร้อมใช้งานของ MG Super Charge และสามารถทำการจอง ตลอดจนการเติมเงิน การจ่ายเงินค่าใช้บริการ และเริ่มชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้จากสมาร์ทโฟน

●   ปัจจุบัน เอ็มจี กำลังเดินหน้าสู่แผนงานในระยะที่สองเพื่อติดตั้งสถานีชาร์จ MG Super Charge อีกกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการมีสถานีชาร์จอย่างน้อย 1 สถานีชาร์จในทุกๆ 150 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ในระยะยาว

●   ล่าสุด เอ็มจีได้ประกาศค่าบริการชาร์จไฟฟ้าที่ MG Super Charge ในช่วง Off Peak (วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 22.00 – 08.00 น. และวันเสาร์ – วันอาทิตย์ ทั้งวัน) อยู่ที่ 6.50 บาทต่อกิโลวัทท์-ชั่วโมง และในช่วง On Peak (วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.00 – 22.00 น.) อยู่ที่ 7.50 บาทต่อกิโลวัทท์-ชั่วโมง

โปรโมชั่นพิเศษ

●   สำหรับข้อเสนอพิเศษในงานนี้ เอ็มจีมีโปรโมชั่นหลายรูปแบบสำหรับผู้ที่จองรถภายในงานฯ หรือที่ศูนย์บริการเอ็มจีทุกสาขาทั่วประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 ประกอบด้วย:

●   MG EP : ดอกเบี้ย 1.89%, ฟรี ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟในบ้านหรือ MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง, ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 1 ปี และการรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

●   MG HS PHEV : ดอกเบี้ย 1.89%, ฟรี ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟในบ้านหรือ MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง, ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะนาน 5 ปี, ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 1 ปี และการรับประกันแบตเตอรี่ในระบบ Plug-in hybrid แบบไม่จำกัดระยะทาง ตลอดระยะเวลา 8 ปี

●   MG ZS : เลือกรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก MG ในแบบ Smart Design หรือแบบ Smart Utility มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 22,061 บาท, พิเศษ ดอกเบี้ย 1.89% และฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

●   MG HS : ฟรี อุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก MG มูลค่า 15,630 บาท, พิเศษ ดอกเบี้ย 1.29% และฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

●   MG3 : พิเศษ ผ่อนเริ่มต้น 2,604 บาท ระยะเวลา 1 ปี และฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

●   สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG Call Centre โทร. 1267 หรือเว็บไซท์ www.mgcars.com หรือโซเชียลมีเดีย Line: @MGThailand, Facebook: facebook.com/MGcarsThailand, Twitter: @mg_thailand, Instagram: @mgthailand, Youtube: MG Thailand และ TikTok: @mgthailand

●   บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564   ●

BIMS 2021 : MG Thailand