2022 Mitsubishi Outlander เปิดตัวรุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 4

1.4Kviews

เรื่อง : AREA 54

● มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวครอสโอเวอร์ SUV ขนาดคอมแพคท์ Mitsubishi Outlander รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 4 พร้อมเตรียมทำตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนเมษายน 2021 นี้ โดยตีตราจำหน่ายเป็นรถรุ่นปี 2022

● Outlander พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนจากแพลทฟอร์ม GS เดิมของตัวเองมาเป็นแพลทฟอร์ม Nissan CMF-CD platform ซึ่งปัจจุบันใช้งานกับรถภายใต้ชายคา Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance อาทิ Nissan Rogue / X-Trail หรือ Nissan Qashqai รุ่นปัจจุบัน รวมถึงรถของแบรนด์เรโนลท์อีกหลายรุ่น

● อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิยังคงเลย์เอาท์ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งเอาไว้ ในขณะที่เจ้าของแพลทฟอร์มเดิมอย่าง Nissan Rogue เน้นความกว้างขวางด้วยเลย์เอาท์ 5 ที่นั่ง เทียบกับรุ่นก่อนหน้าขนาดตัวมากับความยาว 4,710 มม. (+15 มม.) กว้าง 1,862 มม. (+52 มม.) สูง 1,748 มม. (+38 มม.) ระยะฐานล้อ 2,706 มม. (+36 มม.) หมายความว่าความยาวฐานล้อหน้าถึงล้อหลังของแพลทฟอร์มใหม่นี้จะทำให้ Outlander มีพื้นที่ในห้องโดยสารโดยเฉพาะทางด้านหลังเพิ่มขึ้นแน่นอน

● ห้องโดยสารออกแบบใหม่ทั้งหมด อุปกรณ์มาตรฐานมีจอ Head-up display, มาตรวัดฟูลดิจิทัล แสดงผลด้วยจอขนาด 12.3 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับระบบอินโฟเทนเมนท์เปลี่ยนรูปแบบการจัดวางเป็นแบบลอยตัว ตำแหน่งที่ติดตั้งยกสูงเพื่อให้ผู้ขับกวาดสายตาไปทางด้านข้างได้สะดวกขึ้น ตัวจอมีขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศแบบ 3 โซน, ปุ่มควบคุมต่างๆ ลดความซับซ้อนลง, พอร์ท USB ทั้ง Type A และ Type C, เครื่องเสียงพรีเมียมของ Bose พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง และหลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ

● เบื้องต้นเครื่องยนต์มีให้แบบเดียวโดดๆ Outlander จะเริ่มทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซินรหัส PR25DD พร้อมเกียร์ของนิสสัน แบบ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร วาล์วแปรผัน VVT ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT กำลังสูงสุดผลิตได้ 184 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 24.9 กก.-ม. ที่ 3,600 รอบ/นาที

● แน่นอนว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super All-Wheel Control ของมิตซูบิชิเองยังคงมีให้ใช้งาน ส่วนโหมดในการขับนั้นมีการปรับปรุงใหม่เป็น 6 โหมด ประกอบด้วย Normal, Eco, Tarmac, Gravel, Snow และ Mud

● ชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS (Advanced driver-assistance systems) ที่มิตซูบิชิใช้ชื่อทางการค้าว่า MI-PILOT เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ Adaptive cruise control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Lane Keep Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน พ่วงเข้ากับแผนที่ของระบบนำทาง ตัวระบบจะมีการตรวจจับป้ายสัญญาณการจราจรโดยอัตโนมัติ พร้อมควบคุมความเร็วรถให้เหมาะสมกับเส้นทาง, สภาพการจราจร, ดูแลความเร็วให้เหมาะสมกับโค้ง ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับหากทางด่วนหรือทางพิเศษมีการจราจรที่ติดขัด

● การจำหน่ายจะแยกเป็น 8 รุ่นย่อย โดยรุ่นย่อยหลักๆ จะมีเกรด ES, SE และ SEL ซึ่งแต่ละเกรดจะมีแพคเกจตกแต่ง หรือแพคเกจเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานให้เป็นออปชั่น เช่น ES + Convenience Package, SE + Tech Package หรือรุ่นตกแต่งพิเศษ Launch Edition ราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 30,040 – 32,340 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.2 – 9.9 แสนบาทครับ ส่วนรุ่น plug-in hybrid ยังไม่มีข้อมูลในเวลานี้ ●