ตะลุยพระนครศรีอยุธยากับ Fortuner และ Corolla Cross

580views

เรื่อง : สุพรรณี ยังอยู่

● เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงผ่อนคลายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโคโรน่าไวรัส-19 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เริ่มจากจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพที่สามารถขับรถไป-กลับแบบสบายๆ นำคณะสื่อมวลชนประมาณ 30 คน เดินทางทำบุญไหว้พระ และชมวิถีชีวิตชุมชนมอญ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รูปแบบคาราวานเช้าไปเย็นกลับ โดยมีรถยนต์อเนกประสงค์ PPV โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ Legender จำนวน 6 คัน และรถยนต์ SUV โตโยต้า โคโรลล่า ครอส จำนวน 6 คัน

● เช้าการเดินทางเริ่มต้นที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเจริญกรุง สื่อมวลชนทยอยเดินทางมาถึงตามเวลานัดหมาย ส่วนใหญ่รับประทานอาหารเช้า เนื่องจากมีวิวให้ชมระหว่างรับประทานอาหาร ผนวกกับอากาศยามเช้าแดดยังไม่แรง และมีลมพัดเย็นสบาย

● หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อย ได้เวลาเข้าฟังบรรยายเส้นทาง และกฎระเบียบในการเดินทาง พร้อมทั้งแบ่งกลุ่ม ความพิเศษของทริปนี้ เชิญหมอมีน ตีสิบ ร่วมเดินทางแนะนำการไหว้พระเสริมดวง และให้สื่อมวลชนสามารถสอบถามเกี่ยวกับดวงชะตาของตนในช่วงเวลาอาหารค่ำได้อีกด้วย

● แบ่งกลุ่มเรียบร้อยทุกคนขึ้นประจำรถ ทีมงานมอเตอร์ทริเวียเดินทางโดยรถยนต์เอสยูวีโคโรลล่า ครอส มีเพื่อนร่วมโดยสารอีก 2 คน และตกลงกันว่าทางทีมงานมอเตอร์ทริเวียอาสาขับกลับกรุงเทพ ระยะทางไป-กลับประมาณ 180 กิโลเมตร

● โคโรลล่า ครอส เอสยูวีสำหรับครอบครัว ห้องโดยสารด้านหลังสะดวกสบาย อุปกรณ์มาตรฐานครบเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ภายนอกดูดุดันแต่แฝงด้วยความสุขุม มีลายเส้นที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย มิติตัวรถที่มีความยาว 4,460 มิลลิเมตร กว้าง 1,825 มิลลิเมตร สูง 1,620 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 161 มิลลิเมตร สามารถลุยได้อย่างมั่นใจ

● เครื่องยนต์เน้นประหยัดและมลพิษต่ำด้วยเครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1,798 ซีซี อัตราส่วนการอัด 13.0:1 กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที รองรับแก๊สโซฮอล์ 91 E20 ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 53 กิโลวัตต์ แรงบิด 163 นิวตันเมตร มีกำลังขับเคลื่อนรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี อัตราเร่งไม่จัดจ้าน แต่ก็ไม่อืดถ้ารู้จังหวะกดคันเร่งก็สามารถวิ่งแซงได้อย่างปลอดภัย เน้นการขับขี่แบบสบายๆ ประหยัดและนุ่มนวล

● จากโรงแรมใช้เส้นทางพิเศษศรีรัชเชื่อมต่อไปยังทางพิเศษอุดรรัถยาเพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 347 มุ่งหน้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีรถตำรวจนำอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดเนื่องจากในขบวนมีรถตู้ทีมงานด้วย

● จุดหมายแรกพระวิหารมงคลบพิตร เป็นวัดอารามหลวง ตั้งอยู่ตำบลประตูชัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดเด่นคือเป็นวัดเก่าแก่ในเขตกำแพงเมือง และมีพระมงคลบพิตรเป็นพระประธานขนาดใหญ่ ที่ได้รับการบูรณะใหม่ด้วยทองสำริด เกิดจากความเสียหายสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2

● ไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง จากนั้นเดินทางต่อไปยัง วังช้างอยุธยา ซึ่งระยะทางใกล้กันมาก เพื่อร่วมทำบุญช่วยอนุรักษ์ช้างไทยโดยการซื้ออาหาร(ข้าวโพดดิบ) นำเข้าไปป้อนให้ช้าง

● จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านสุริยันจันทรา เป็นโกดังโรงสีเก่าที่ตกแต่ง ดัดแปลงทำเป็นร้านอาหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย อายุกว่า 130 ปี เมนูอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยโบราณ เช่น ช่อม่วง ถุงทอง หมูโสร่ง ที่หารับประทานยาก นั่งพักผ่อน ทำภารกิจส่วนตัวกันเรียบร้อย ข้าวเรียงเม็ด ก็เตรียมเดินทางต่อยังชุมชนไทรน้อย

● วัดหลวงพ่อใหญ่หรือเรียกอีกชื่อว่า พระวิหารหลวงพ่อใหญ่ ตั้งอยู่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประวัติว่าหลวงพ่อใหญ่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง ประดิษฐานในโบสถ์ที่มีประตูเข้า-ออกทางเดียวด้านหน้า ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่าโบสถ์มหาอุตย์ สมัยโบราณเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง และความพิเศษอีกหนึ่งสิ่งคือเสาโบสถ์ที่ทำด้วยไม้ตะเคียนทุกต้น กราบไหว้ เสริมสิริมงคลกันแล้ว นั่งรถรางเพื่อไปเยี่ยมชมโฮมสเตย์ไทรน้อย ระยะทางใกล้กัน

● โฮมสเตย์ไทรน้อย เป็นสถานที่ชาวบ้านรวมกลุ่มสร้างวิชาชีพ และรายได้ เช่นกลุ่มอนุรักษ์ขนมไทยกรุงศรีอยุธยา เสริมสร้างการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น การทำขนม, ยาหม่อง และการนวดด้วยกะลามะพร้าว เป็นต้น

● เดินชิมขนมไทย ชมการสาธิตทำขนมฝอยทอง การทำยาหม่อง และการนวดฝ่าเท้าด้วยกะลามะพร้าว ก็ได้เวลาสมควรที่เดินทางไปจุดหมายสุดท้ายก่อนจะกลับกรุงเทพ รักษ์นา คาเฟ่ เป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่ ธรรมชาติ มีสะพานไม้เป็นทางเดินทอดยาวสู่ทุ่งนาสีเขียว ผู้ที่ชื่นชอบแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปถือเป็นจุดเช็ค-อิน เก๋ๆ สบายๆ ตามสมัยนิยมเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง

● จุดนี้ทางทีมงานโตโยต้าปล่อยให้สื่อมวลชนพักผ่อนตามสบาย เนื่องจากไม่ต้องขับกันเป็นขบวน สามารถเดินทางกลับโรงแรมตามอัธยาศัย ใครที่กลัวรถติดหลังเวลาเลิกงาน ก็ออกเดินทางเร็วหน่อย

● นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การเดินทางท่องเที่ยวใจกลางกรุงเทพฯในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับปี 2564 ที่โตโยต้าได้เริ่มจัดกิจกรรมเป็นครั้งแรกในรอบปี ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส-19 เริ่มคลายตัวลง สภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มขยับตัวดีขึ้น เรามาร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้สถานการณ์ต่างๆ ฟื้นตัวดีขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อีกทั้งโตโยต้าต้องการเป็นสวนหนึ่งในส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนพบกับกิจกรรมที่ชื่นชอบและผ่อนคลาย ทุกคนสามารถไปได้ไม่ยาก โดยที่ไม่ต้องรอวันหยุดยาว แค่มีรถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต สามารถพาไปได้ทุกที่ และยังเสริมภาพลักษณ์อย่างมีระดับ พร้อมสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม อรรถประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน และยังมีระบบ T-Connect ที่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ตลอดการเดินทาง รวมไปถึงศูนย์บริการ และผู้แทนจำหน่ายที่ครอบคลุมให้บริการทั่วประเทศ”

● โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐานราคาเริ่มต้น 1,349,000 – 1,524,000 บาท ฟรีชุดแต่ง Pride package ส่วนรุ่น Legender ราคาเริ่มต้น 1,564,000 – 1,839,000 บาท พร้อมแพ็คเกจการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม.

● โคโรลล่า ครอส รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ราคา 989,000 บาท ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ราคาเริ่มต้น 1,019,000 – 1,199,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care ดอกเบี้ย 1.85% หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.29% พร้อมแพ็คเกจการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม.

● สนใจทดลองขับโตโยต้าทั้ง 2 รุ่นได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ หรือศูนย์ทดสอบขับรถ Toyota Driving Experience Park (บางนา กม.3) ข้อมูลเพิ่มเติม www.toyota.co.th Facebook Toyota Motor Thailand LINE ID: @ToyotaThailand ●