Volvo เผยผลประกอบการปี 2563 ระบุแผนปี 64 เน้นรถพลังงานสะอาด
motortrivia
● วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เผยผลประกอบการปี 2563 ระบุรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด มียอดจำหน่ายเกือบ 2,000 คัน แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งวอลโว่เชื่อว่าชาวไทยมีแนวโน้มใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาดมากขึ้น
● วอลโว่คาดว่าในปี 2564 นี้ ยอดขายรถยนต์ในไทยจะเติบโตขึ้นมากกว่า +30% และวอลโว่จะเน้นไปที่การเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจ 10 ปีของวอลโว่ เพื่อปรับตัวเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2573 (2030 : นับรวมรถไฮบริด) รวมถึงเปิดช่องทางการจำหน่ายรถแบบออนไลน์, การขยายเครือข่ายศูนย์บริการตามมาตรฐาน Volvo Retail Experience หรือ VRE และการจำหน่ายรถมือสอง Volvo Selekt Approved Used Car
● นอกจากนี้ วอลโว่ยังมีแผนจะเพิ่มอัตราการจ้างงานในประเทศไทย เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตด้วย
● มร. คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วิกฤตการณ์ในปี 2020 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคธุรกิจไม่เว้นแม้กระทั่งอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก สำหรับวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เรามีการตั้งรับสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ด้วยการยกระดับช่องทางการสื่อสารออนไลน์และมาตรฐานด้านสุขอนามัยในศูนย์บริการทุกแห่ง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและลดผลกระทบทางธุรกิจ ซึ่งทำให้วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย สามารถจำหน่ายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดได้มากเกือบ 2,000 คัน แม้ในปีแห่งการแพร่ระบาดโรค COVID-19 อันตึงเครียด สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังขับเคลื่อนโชว์รูมวอลโว่ทุกแห่งให้ดำเนินงานตามมาตรฐาน Volvo Retail Experience แบบ 100% ซึ่งช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าของเราว่าจะได้รับบริการบนมาตรฐานขั้นสูงสุดจากศูนย์บริการวอลโว่ทุกแห่ง”
มร. คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ยอดจำหน่ายและผลการดำเนินงานปี 2563
● ในช่วงปี 2563 วอลโว่ ประเทศไทย มียอดจำหน่าย 1,824 คัน ลดลง -13% เมื่อเทียบกับปี 2562 ในจำนวนนี้มีกลุ่มลูกค้าองค์กร 26% ส่วนการจำหน่ายรถยนต์มือสองภายใต้มาตรฐาน Volvo Selekt Used Cars มีอัตราส่วนลดลง -10%
● ด้านการดำเนินงานในส่วนของการยกระดับคุณภาพของศูนย์บริการในปี 2563 วอลโว่สามารถขยายเครือข่ายโชว์รูมเพิ่มเติมได้ 3 แห่ง โดยยังสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานของโชว์รูมและศูนย์บริการทุกสาขาให้สอดคล้องตามมาตรฐาน Volvo Retail Experience ในทุกขั้นตอน
Volvo XC40 ยอดสูงสุดในปี 2563
● รุ่นรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของวอลโว่ในปี 2563 คือ Volvo XC40 รถ SUV ขนาดคอมแพคท์ที่มีเทคโนโลยียุคใหม่ครบที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มเดียวกัน โดย XC40 นั้นมียอดจำหน่ายคิดเป็น 30% ของยอดรวมในปีที่ผ่านมา
● อันดับ 2 คือ Volvo XC60 ครอสโอเวอร์เจ้าของรางวัล Best Hybrid SUV Under 2,000 cc จากงาน Car of the Year Awards 2020 คิดเป็น 26% อันดับ 3 คือ Volvo V60 รถเอสเตทในกลุ่มอัลตร้า ลักชัวรี่ ซึ่งมียอดจำหน่าย 16% ปิดท้ายด้วยซีดานในกลุ่มพรีเมี่ยม Volvo S60 ซึ่งวอลโว่เปิดตัวไปในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างหนัก ทว่าสามารถเก็บยอดจองได้นับร้อยคัน
การปฏิรูปโมเดลธุรกิจในปี 2564
แนวคิด Freedom to Move: Personal / Safe / Sustainable
● วอลโว่ ประเทศไทย เตรียมปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจเพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานสะอาดอย่างจริงจัง โดยในปี 2564 นี้วอลโว่จะเริ่มจำหน่ายรถเฉพาะ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์พลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เท่านั้น โดยรถยนต์พลังไฟฟ้านั้นจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ พร้อมเปิดตัวแพคเกจใหม่ “Volvo Care” เพื่อเปิดประสบการณ์การใช้งานรถยนต์พลังไฟฟ้าให้กับลูกค้า
● นับตั้งแต่ปี 2564 นี้เป็นต้นไป วอลโว่ ประเทศไทย จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายศูนย์จำหน่าย Volvo Selekt Approved Used Cars ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เป้าหมายธุรกิจในปี 2564 ของวอลโว่ ประเทศไทย
● วอลโว่ระบุว่า แม้ภาพรวมของตลาดรถยนต์ทั่วโลกจะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ไม่สูงมากในปีนี้ แต่วอลโว่คาดการณ์ว่า การปฏิรูปโมเดลธุรกิจครั้งสำคัญจะส่งผลให้วอลโว่ ประเทศไทย สามารถเพิ่มอัตราการเติบโตได้มากกว่า +30% และมียอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งในหมวดลูกค้าปลีก และลูกค้าองค์กรเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ XC40 T5 Recharge
● และหลังจากการเปิดตัวรถยนต์พลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ Volvo XC40 Recharge Pure Electric วอลโว่คาดว่าจะสามารถเรียกกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจครั้งใหญ่ในปีนี้ จะยังผลให้วอลโว่ ประเทศไทย ต้องการกำลังคนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวอลโว่ได้วางแผนเพิ่มอัตราการจ้างงานในอนาคตอันใกล้
● ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 วอลโว่มีแผนจะเปิดตัวตัวแทนจำหน่ายใหม่เพิ่มเติมอีก 2 ราย โดยจะประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
แผนการดำเนินงานระยะยาว 10 ปีสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาด
● สำหรับแผนงานระยะเวลา 10 ปีนั้น วอลโว่ ประเทศไทย ได้ทำการกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของวอลโว่ คาร์ คอร์เปอร์เรชั่น นั่นคือภายในปี 2568 (2025) นั้น 50% ของยอดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่จะต้องมาจากรถยนต์พลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ และภายในปี 2573 (2030) รถยนต์ทุกรุ่นที่วอลโว่จำหน่ายจะต้องเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เท่านั้น
● “วอลโว่เล็งเห็นว่าอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกจะเปลี่ยนเป็นระบบพลังงานไฟฟ้า และเรามุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้ให้ได้ เราจึงร่วมมือกับรีเทลเลอร์ในการเพิ่มช่องทางจำหนายออนไลน์สำหรับรถยนต์พลังไฟฟ้าควบคู่ไปกับการจำหน่ายตามปกติสำหรับรถยนต์วอลโว่รุ่นอื่นๆในโชว์รูม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายตลอด 24 ชั่วโมงไม่ว่าจะจากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือเดินทางมาดูรถเองที่โชว์รูม นอกจากนี้ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จะใช้นโยบายการตั้งราคาอย่างโปร่งใส ผสานการนำเสนอแพ็คเกจที่คุ้มค่าแก่ลูกค้าทุกราย และการปรับปรุงบริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าและร่วมเดินทางสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาดไปพร้อมกับเรา” มร. คริส เวลส์ กล่าว
● สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่ ในประเทศไทย ติดต่อโดยตรงได้ที่สายด่วน 02-305-4499 หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมล่าสุดของวอลโว่ได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th ●