May 7, 2021
Motortrivia Team (10167 articles)

2022 Skoda Fabia รุ่นใหม่ แพลทฟอร์มใหม่ เจนเนอเรชั่น 4

เรื่อง : AREA 54

●   สโกด้า ออโต้ แบรนด์ผู้ผลิตรถสัญชาติเชค เปิดตัวแฮทช์แบคคลาสซับคอมแพคท์ (หรือ Supermini ในยุโรป) Skoda Fabia รุ่นใหม่เจนเนอเรชั่น 4 ตัวรถผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ MQB A0 ของโฟล์คฯ กรุ๊ป ซึ่งใช้ผลิต Volkswagen Polo เจนเนอเรชั่น 6 และ SEAT Arona เจนเนอเรชั่นแรก รุ่นปัจจุบัน

●   งานออกแบบไม่ได้ฉีกไปจาก Fabia เจนฯ 3 มากนัก สโกดายังคงเลือกเก็บภาพลักษณ์โดยรวมของรถเอาไว้ จุดแตกต่างมีอาทิ กระจังหน้าทรงใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น กันชนและชายล่างทรงใหม่ การออกแบบคำนึงถึงอากาศพลศาสตร์เป็นหลัก ตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.28 เท่านั้น (จากเดิม 0.32) ตัวเลขนี้นับว่าดีที่สุดในรถกลุ่มซุเปอร์มินิที่จำหน่ายในยุโรป ณ ปัจจุบัน

●   เทียบกับรุ่นก่อนหน้า แพลทฟอร์มใหม่ช่วยให้ตัวรถใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ความยาวอยู่ที่ 4,107 มม. (+155 มม.) กว้าง 1,780 มม. (+50 มม.) สูง 1,460 มม. (-7 มม.) ความยาวฐานล้อ 2,564 มม. (+94 มม.)

●   ห้องโดยสารมากับอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมดที่ทันยุคขึ้น งานออกแบบเรียบง่ายและดูทันสมัยขึ้นกว่าเดิมมาก เริ่มด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว รุ่นพื้นฐานใช้จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ Skoda Connect แบบทัชสกรีนขนาด 6.8 นิ้ว รุ่นท๊อปขยายขนาดเป็น 9.2 นิ้ว ทั้งหมดจัดวางแบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ น้อยลง ระบบปรับอากาศเป็นแบบ dual-zone… อย่างไรก็ตาม รุ่นพื้นฐานราคาประหยัดยังคงใช้มาตรวัดอนาล็อก จับคู่จอสีแสดงข้อมูลขนาด 3.5 นิ้ว

●   ส่วนชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS หลักๆ ใช้เทคโนโลยีเดียวกับรถในเครือโฟล์คฯ กรุ๊ป อาทิ ระบบ Travel Assist ช่วยขับอัตโนมัติ ทว่ามีระบบ Using Hands-on Detect ผู้ขับยังต้องวางมือบนพวงมาลัยตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย ทำงานได้จนถึงความเร็ว 210 กม./ชม., ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Lane Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง, ระบบ Blind Spot Detect ช่วยเตือนมุมอับสายตา หรือระบบช่วยจอด Park Assist เป็นต้น

●   นอกจากนี้แพลทฟอร์มใหม่ยังช่วยให้สโกดามีทางเลือกเครื่องยนต์ที่มากขึ้นด้วย ไล่ไปตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร N/A ส่งกำลังไปหมุนล้อคู่หน้าด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ กำลังสูงสุดเลือกได้ระหว่าง 65 หรือ 80 แรงม้า (PS) ต่อด้วยรุ่นเทอร์โบชาร์จซึ่งจะเพิ่มกำลังขึ้นเป็น 95 หรือ 110 แรงม้า และมีออปชั่นเพิ่มเติมเป็นเกียร์อัตโนมัติ DSG 6 จังหวะ

●   ปิดท้ายด้วยรุ่นท๊อป ซึ่งจะขยับขึ้นไปใช้งานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า รวมแล้วทั้งหมด 5 ทางเลือก และยังไม่มีรุ่นดีเซลในเวลานี้

●   สโกดาจะเริ่มจำหน่าย Fabia ใหม่ตัวถังแฮทช์แบคในยุโรปภายในปี 2021 นี้ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 14,000 ยูโร หรือราวๆ 5.3 แสนบาทครับ… ส่วนรุ่นเอนกประสงค์ตัวถังเอสเตทยังไม่มีข้อมูล   ●

2022 Skoda Fabia